วิ่งหนีตาย โจ๋นับ 10 อาวุธครบมือ ไล่ฟัน 2 เด็กนักเรียน ก่อนไปหลบในบ้านชาวบ้าน

วันนี้ (1 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายปริญญา แก้วปู่ อายุ 25 ปี เจ้าของร้านจังหวัดยำ ว่าเมื่อวันที่ 29 พ.ย.65 เวลาประมาณ 17.57 น. มีวัยรุ่นกว่า 7 คนขี่จักรยานยนต์ถือมีดยาววิ่งไล่ฟันนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด จนหนีตายเข้าไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ที่เกิดเหตุภายในหมู่บ้านการเคหะนนทบุรี ซอย 8 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงมาร้องเรียนผู้สื่อข่าวให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยเกรงว่าชาวบ้านจะได้รับอันตรายจากกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวรวมถึงเด็กนักเรียนอาจจะได้รับอันตรายถึงขั้นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้

ภาพวงจรปิดบริเวณหน้าจังหวัดบันทึกภาพเหตุการณ์ วันที่ 29 พ.ย.65 เวลาประมาณ 17.57 น.ได้ยินเสียงตะโกนกรีดร้องเรียกยาย ของเด็กชายวัย 5 ขวบ ด้วยความหวาดกลัว ขณะที่นักเรียนโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ดสวมชุดพละ 2 คน โดยคนหนึ่งสวมหมวกกันน็อคเต็มใบถือมีดยาว 1 เล่ม ส่วนอีกคนถือหมวกกันน็อคสีดำ 1 ใบ ได้จอดรถทิ้งไว้แล้ววิ่งหนีตายจากกลุ่มวัยรุ่นกว่า 7 สวมเสื้อคลุมสวมหมวกกันน็อคเต็มใบขี่จักรยานยนต์มา 2 คัน คนถืออาวุธมีดยาวกว่า 3 เล่ม พร้อมกระบองเหล็ก 1 อันไล่ฟันเด็กนักเรียน 2 คน จนต้องวิ่งเข้ามาหลบบ้านพลเมืองดีในหมู่บ้านการเคหะนนทบุรี ซอย8/1 ก่อนกลุ่มดังกล่าวจะขี่กลับไป

นายปริญญา กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนไม่อยู่ในเหตุการณ์ โดยตนได้ขับรถไปซื้อของนอกหมู่บ้าน ขณะที่ขับรถออกไปซื้อของก็พบเด็กนักเรียนโรงเรียนดังย่านปากเกร็ดสวมชุดพละขี่รถซ้อน 3 บริเวณสะพานข้ามคลองการเคหะ จากนั้นตนก็เห็นกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มกว่า 7 คน ขี่ซ้อน 3 มา 2-3 คัน มีอาวุธครบมือโดยมี มีดยาว เคียว และกระบองหรือไม้เบสบอล ได้ตะโกนท้าทายกลุ่มเด็กนักเรียนว่า "มาดิ มาดิ" ตนก็ไม่ได้สนใจก็ขับไปซื้อของปกติ หลังจากกลับไปซื้อของมายายตนก็บอกว่ามีวัยรุ่นไล่ตีกันจึงเปิดกล้องวงจรปิดในร้านดูก็พบพฤติกรรมตามกล้องวงจรปิด เหตุการณ์ในครั้งนี้ถือว่าโชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

จึงอยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้มงวดเด็กนักเรียนหลังเลิกเรียน เพราะตนได้ยินชาวบ้านพูดกันหลายคนแล้วว่าช่วงนี้เด็กนักเรียนตีกันบ่อยจึงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำซาก จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดูเรื่องนี้เพราะหากเกิดเหตุอีกจะไม่โชคดีแบบนี้อาจจะรุนแรงกว่าจนถึงขั้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้

ป้าหลง อายุ 49 ปี พลเมืองดี กล่าวว่า น้องผู้ชายทั้งสองคนวิ่งหนีตายหลบเข้ามาในซอยบ้านตนแล้ววิ่งเข้าไปแอบบริเวณรถกระบะที่จอดอยู่ตรงข้ามบ้านตนด้วยความหวาดกลัว ตนเห็นท่าไม่ดีจึงเรียกน้องทั้ง 2 คนให้เข้ามาหลบในบ้านตน จากวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวที่มีอาวุธมีดหลายเล่ม พอน้องทั้งสองคน เข้ามาในบ้านกลุ่มดังกล่าวก็ไม่กล้าเข้ามาก่อเหตุแล้วก็วิ่งหลบหนีออกไป ต่อมาตนก็ให้น้องทั้งสองคนโทรหาผู้ปกครองให้มารับแต่น้องทั้งสองคนโทรหาเพื่อนให้มารับกลับไปหลังจากหลบเข้ามาในบ้านตนนานกว่า 30 นาที ซึ่งน้องทั้งสองคนก็มีอาวุธมีดเช่นกันคนละ 1 เล่ม เป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนดังย่านปากเกร็ดจากเท่าที่ดูเพราะใส่เสื้อพละสีแดง ในเหตุการณ์ครั้งนี้ยังไม่มีการลงไม้ลงมือแต่อย่างใดถือว่าโชคดีอย่างมาก ในหมู่บ้านที่ตนอยู่ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนชาวบ้านแถวนี้ต่างหวาดระแวงเกรงจะได้รับอันตรายจากวัยรุ่นกลุ่มพวกนี้ จึงอยากฝากเตือนน้องๆว่าอย่าใช้ความรุนแรงกันเลยเพราะความรุนแรงไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหาต่างๆ