ชายหัวร้อน ทุบตู้เอทีเอ็ม 2 ตู้ คาดโมโหกดเงินไม่ได้

คนร้ายคาดว่าน่าจะเป็นสองแม่ลูกขับรถจักรยานยนต์มากดเงินจากตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยแต่เงินไม่ออก ทำให้ชายวัย 30 กว่าปี ใช้มีดทิ่มแทงตู้เอทีเอ็มจนกระจกแตกมีดปักคาตู้ ก่อนจะไปกดใหม่อีก 1 ตู้ เงินไม่ออกเช่นกัน จึงใช้ด้ามไม้กวาดและเหล็กทุบจนหน้าจอแตกเป็นตู้ที่ 2 ก่อนขับรถหลบหนีไป

เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. พ.ต.ท พิเชษฐ์ ซูซัน สว.สอบสวน สภ.เมืองตรังได้รับแจ้งเหตุมีคนทุบตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยจำนวน 2 ตู้ในเวลาไล่เลี่ยกันห่างกันประมาณ 5 นาที ตำรวจจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองตรัง และกำลังชุดสืบสวน โดยตู้เอทีเอ็มตู้แรก อยู่บริเวณหน้าโรงเรียนตรังคริสเตียนศึกษา ถนนตรัง-สิเกา ในเขตเทศบาลนครตรัง สภาพถูกทิ่มแทงด้วยของมีคม จนจอกระจกแตกกระจายเกลื่อนพื้น และพบว่ายังมีมีดปลายแหลมซึ่งไม่มีด้าม ปักคาอยู่ที่หน้าจอตู้เอทีเอ็ม ทำให้ตู้ล็อคไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว

จากนั้น ตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยตู้ที่ 2 ซึ่งติดตั้งอยู่ใกล้กับตลาดนัดห้องเย็นควนปริง หมู่ที่ 6 ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง สภาพถูกทุบด้วยของแข็งจนกระจกหน้าตู้แตกกระจาย ต้องปิดการใช้งานเช่นเดียวกัน หลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองตรัง ได้กระจายกำลังกันออกหาข่าว และขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคารฯ ผู้เสียหาย คาดจะสามารถจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ภายในเร็วๆนี้

จากการสอบถามนายเพ้ง แซ่ลี้ อายุ 56 ปี อส.ตร. สภ.เมืองตรัง ที่เห็นเหตุการณ์บริเวณตลาดนัดห้องเย็นควนปริง เล่าว่า น่าจะเป็นฝีมือของคนติดยาเสพติด มีผู้ชายอายุประมาณ 30 กว่าปี 1 คนและหญิงวัยชราอายุประมาณ 70-80 ปีนั่งรถจักรยานยนต์มาด้วยกัน คาดว่าน่าจะมากดเงินแต่กดไม่ออก จึงใช้ธนูยิงจนกระจกแตก และยังพยายามใช้เหล็กที่เป็นขาตั้งร่มทุบตีซ้ำอีก แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ใกล้ ๆ คนร้ายจึงไม่กล้าลงมือซ้ำ โดยคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ มีรอยสักทั้งตัว คาดว่าน่าจะเป็นคนติดยาเสพติด

ด้านป้ากวาว อายุ 70 ปีที่นั่งขายผักอยู่ข้างธนาคารกรุงไทย ตลาดนัดห้องเย็นควนปริงเล่าว่า พอกดเงินไม่ออกคนร้ายได้ใช้อาวุธทุบจนเกิดเสียงดัง ตนจึงหันไปมอง และเห็นคนร้ายเอาที่โกยขยะทุบซ้ำและเอาอะไรอีกไม่รู้ทุบอีก โดยมา 2 คนมีผู้หญิงคนแก่อายุประมาณ 80-90 ปีอยู่ 1 คน ซึ่งคนร้ายที่เป็นชายจะกดเงินไปพลาง ด่าคนแก่ที่มาด้วยกันไปพลางตลอดเวลา พอยิ่งกดเงินไม่ออกก็ถีบตู้เอทีเอ็มเลย

ส่วนแนวทางสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า คนร้ายน่าจะพาแม่หรือย่า ยาย หรือคนที่บ้านมากดเงินสงเคราะห์คนชรา โดยมีคนชราได้ยื่นบัตรให้กด แต่กดไม่ออก อาจเนื่องมาจากเงินยังไม่เข้าบัญชี หรือบัตรชำรุดหรืออาจจะจำรหัสเอทีเอ็มผิด ทำให้เงินไม่ไหลออกมา คนร้ายจึงเกิดความโมโหและได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตาม ตำรวจอยู่ระหว่างรอให้เจ้าของธนาคารผู้เสียหายเข้าแจ้งความ เพื่อจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เพราะคนร้ายรายนี้ได้พกพาทั้งมีดและธนูติดตัวมาด้วย เหมือนตั้งใจมาก่อเหตุดังกล่าว