หนุ่มโดนจับยา ถูกตรวจ DNA ผงะ ตรงผู้ต้องสงสัยฆ่าคน 13 ปีก่อน สุดท้ายสารภาพทำจริง

ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สระแก้ว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ว่าได้รับรายงานจากชุดสืบสวน ว่าได้จับผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาล จ.สุพรรณบุรี เลขที่ 146/2565 ในข้อหา "ฆ่าผู้อื่น" ผู้ต้องหาคือ นายสิงหา หรือ กวาง ฉิมพันธ์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/1 หมู่ 6 ต.ตลิ่งชัน อ.เมืองสุพรรณบุรี จับกุมได้ขณะนอนหลับอยู่ในบ้านของตัวเอง

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 19 มินายน 2552 พ.ต.ท.ชัยยา แร่เพชร สารวัตรสอบสวน สภ.สระแก้ว ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนั้นได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตถูกฆ่าตายอยู่ในบ้านเลขที่ 12/2 หมู่.6 ต.ตลิ่งชัน โดยพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อนางอารี มีชนะ อายุ 52 ปี ขณะเสียชีวิต มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคม ที่หน้าอกข้างซ้าย ทะลุขั้วหัวใจ เป็นแผล 2 นิ้ว หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจในขณะนั้นได้นำตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนและตรวจสอบร่องรอยบาดแผลกว่า 10 ราย แต่ไม่พบผู้ต้องหา ในที่เกิดเหตุพบขนเพชร และ ถุงยางอนามัย ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆรวมทั้งตัวอย่าง DNA ส่งไปตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐาน

ต่อมาเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สระแก้วได้จับกุมนายสิงหา หรือ กวาง ฉิมพันธ์ ในข้อหาเสพยาเสพติด และได้จัดเก็บ DNA สารพันธุกรรม ส่งตรวจที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานกลาง ตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบฐานข้อมูลและเชื่อมโยงข้อมูลด้านนิติวิทยาศาสตร์ ให้เป็นระบบมาตรฐานสากล ปรากฏว่าผลตรวจ DNA ของนายสิงหา ตรงกับผู้ต้องสงสัยคดีค้างเก่า ในคดี"ฆ่าคนตาย" เมื่อปี 52 ทางพนักงานสอบสวนจึงรวบรวมหลักฐานต่างๆเพื่อขอศาลจังหวัดสุพรรณบุรีออกหมายจับและศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ได้อนุมัติออกหมายจับตามที่พนักงานสอบสวน ร้องขอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่านายสิงหา ยังอยู่ที่บ้านจึงนำกำลังพร้อมหมายจับเข้าจับกุมตัวได้ขณะนอนหลับอยู่ในบ้านจากนั้นได้ควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.สระแก้ว

โดย พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สระแก้ว ได้สอบสวนนายสิงหา ด้วยตัวเองใช้เวลาในการสอบสวนประมาณ 20 นาทีนายสิงหา จึงรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่านางอารี มีชนะ วันเกิดเหตุไปหาผู้ตาย แต่ผู้ตายทวงเงินค่ายาเสพติด 800 บาท ทำให้โมโห ไปหยิบมีดในครัวมาแทงไป 1 ที แล้วหลบหนีไป ก่อนจะนำมีดไปทิ้ง ซึ่งจำไม่ได้แน่ชัดว่าทิ้งที่ใด

ล่าสุดเวลา 15.30 น.วันที่ 5 ส.ค. ตำรวจ สภ.สระแก้วได้นำตัว นายสิงหา ไปชี้จุดเกิดเหตุ ที่บ้านเลขที่ 12/2 หมู่.6 ต.ตลิ่งชัน อ.เมืองสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นบ้านของผู้เสียชีวิต แต่เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าว ผ่านมา 13 ปี แล้ว บ้านหลังเกิดเหตุได้ถูกรื้อถอนไปนานแล้ว เหลือเพียงแค่พื้นที่ว่างป่าว ตำรวจจึงให้ นายสิงหา ชี้จุดเกิดเหตุแทน และจากนั้นก็พาไปชี้จุดที่ทิ้งมีดที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งวันเกิดเหตุหลังลงมือฆ่า ทางนายสิงหา ได้ขี่รถ จยย. ไปที่ริมคลอง มะขามเฒ่า-อู่ทอง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 800 เมตร หลังทิ้งมีดแล้วได้กลับไปนอนที่บ้านอย่างสบายใจทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นตำรวจได้พาตัวกลับมาที่ สภ.สระแก้ว แล้วให้จำลองเหตุการณ์ ทำแผนฆ่านางอารีย์ ในห้องประชุม ของ สภ.สระแก้ว ก่อนนำตัวเข้าห้องเพื่อสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนคุมตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ต่อไป

ด้านพ่อผู้ต้องหา ได้มาเยี่ยมลูก พร้อมกล่าวกับลูกชายว่าถ้าทำผิดยอมรับผิด จะได้ไม่ต้องเสียเงินสู้คดี แต่ถ้าลูกไม่ทำพ่อจะช่วยสู้ถึงที่สุด แต่ลูกชาย ได้กล่าวเสียงอ่อยว่า ได้รับสารภาพกับตำรวจไปแล้ว ว่าเป็นคนก่อเหตุจริง

จากการสอบสวนนายสิงหา รับสารภาพ ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนว่าวันเกิดเหตุไปหาผู้ตาย มีอะไรกันแต่หลังจากนั้นผู้ตายทวงเงินค่ายาเสพติด 800 บาท ทำให้โมโห ไปหยิบมีดในครัวมาแทงไป 1 ที แล้วหลบหนีไป ก่อนจะนำมีดไปทิ้งก่อนกลับไปนอนที่บ้านทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนเวลาผ่านไปถึง13ปีจึงมาถูกจับส่วนประวัตินายสิงหา เคยโดนจับข้อหาจำหน่ายยาไอซ์ ที่ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.61 กระทั่งมาถูกจับกุมในข้อหาเสพยาเสพติดอีกครั้ง และได้มีการตรวจเก็บ DNA จนสามารถทราบการกระทำความผิดในอดีต และนำไปสู่การจับกุมได้ดังกล่าว