สังคม
รวบมือฆ่าชายวัย 64 ทิ้งน้ำ ที่แท้เป็นพระ เผยผู้ตายมาขอข้าวกินทั้งที่ยังไม่ได้ฉัน โมโห ใช้ช้อนแทงดับ
โดย panisa_p
18 มิ.ย. 2567
1.1K views
จากกรณีที่นายศุภพงศ์ ได้หายออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา ทางนางอรปรียา พร้อมญาติ ได้ออกค้นหาตลอดทั้งวัน โดยไปตามหาที่โบราณสถานถ้ำเขาปีบ ซึ่งมีพระจำพรรษาอยู่สองรูป และทั้งคู่อ้างว่าไม่พบหน้าโยมศุภพงศ์เช่นกัน จนกระทั่งเช้าของวันที่ 15 มิถุนายนได้มีชาวบ้านมาพบเป็นศพ ถูกทำร้ายด้วยเหล็กแทงเข้าที่หน้า ศีรษะหลายแผล ร่างลอยอยู่ในสระน้ำหน้าสวนปาล์มของชาวบ้าน และอยู่เยื้องกับโบราณสถานเพียง 200 เมตร โดยมีรางรถไฟกั้นกลาง
ล่าสุดจากการลงพื้นที่จากตำรวจชุดสืบสวน ภาค 8 และตำรวจชุดสืบสวน สภ.ทุ่งตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ได้สอบปากคำพระทั้งสองรูป พร้อมนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาเปรียบเทียบ เนื่องจาก การสอบปากคำพระสองพ่อลูก อ้างว่า ทุกเช้าจะออกเดินบิณฑบาตตั้งแต่เช้าเวลา 05.30 น.และจะกลับในเวลาประมาณ 08.30 น.โดยพระหัด ซึ่งเป็นพ่อจะเดินนำหน้า และพระสุนย์ทร ลูกชายเดินตามหลัง ซึ่งเป็นอย่างนี้ทุกวัน แต่ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พบว่า ในวันเกิดเหตุพบว่าในช่วงเช้าพระหัด เดินอยู่ข้างหน้าจริง โดยมีพระสุนย์ทร เดินตามหลังห่างกันเพียง 4 นาที
แต่ในขณะเดียวตอนขากลับพบว่าพระสุนย์ทร ได้เดินกลับเพียงลำพัง โดยพระหัด ผู้เป็นพ่อ เดินตามมาห่างกันประมาณนับชั่วโมง แต่ทั้งคู่ยังยืนยันว่า ห่างกันเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงได้นิมนต์เฉพาะพระสุนย์ทร มาสอบปากคำอีกครั้ง เพื่อเค้นหาข้อเท็จจริง เพราะเป็นช่วงที่นายศุภพงศ์ หายตัวไป ประกอบกับพบว่าบริเวณไหล่ขวาของพระสุนย์ทร มีร่องรอยขีดข่วนแนวยาว ซึ่งขัดกับคำกล่าวอ้างของพระสุนย์ทร ที่บอกว่ายุงกัด
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จนในที่สุด พระสุนย์ทร ยอมเปิดปากว่า หลังจากที่กลับจากบิณฑบาต กลับมาที่สำนัก ก็พบว่านายศุภพงศ์ มานั่งรอที่จะเอาอาหารจากตน ทั้งที่ตนเองเพิ่งมาถึงและยังไม่ได้ฉันอาหาร จึงเกิดการทะเลาะกัน ถึงขั้นลงไม้ลงมือ และตนเองก็ใช้ช้อนสั้นเป็นอาวุธในการแทงนายศุภพงศ์จริง ทางเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำเกี่ยวกับพื้นที่ก่อเหตุ และทำไมศพจึงไปอยู่ในสระน้ำ
ซึ่งทางพระสุนย์ทร บอกเพียงจุดที่ทะเลาะ ทำร้ายกันตรงศาลาที่สำนัก ส่วนศพและรองเท้า ทำไมไปอยู่ตรงนั้นตนไม่รู้ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวไปทำการสึก และรอการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจาก พระสุนย์ทร เริ่มมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด
ด้านพระหัด ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า พระลูกชาย สุขภาพไม่ดี เคยผ่าสมองตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยสาเหตุจากอุบัติเหตุ และตนไม่รู้เลยว่าพระลูกจะมาก่อเหตุดังกล่าว หากวันนั้นตนเองกลับมาพร้อมกัน เรื่องก็คงไม่เกิดแน่นอน เพราะพอจะห้ามปราบได้ ซึ่งเชื่อว่าพระลูกคงคุมอารมณ์ไม่ได้ เนื่องจาก อาการจะอ่อนไหว โมโหร้าย และบางครั้งก็จะนิ่งเงียบ หลังจากนี้ก็ปล่อยไปตามกฎหมาย