หลวงตา 85 แม่ชี 48 บวชวัดเดียวกัน ก่อนถูกใจ สึกมาอยู่ด้วยกัน สุดท้ายทะเลาะกัน ฆ่าเมียทิ้งสระ

วันนี้ (7 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. เพจสมาคมกู้ภัยนเรศวรหนองบัวลำภู ไลฟ์สดชันสูตรที่เกิดเหตุผัวเมียฆ่ากันตาย พื้นที่ หมู่ที่ 3 บ้านโคกน้ำเกี้ยง ตำบล ป่าไม้งาม อำเภอเมือง หนองบัวลำภู ผู้สื่อข่าวจังหวัดหนองบัวลำภูทราบเหตุจึง ออกติดตามตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ พบนายวิจิตร ศรีโพนทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 บ้านโคกน้ำเกี้ยงที่เกิดเหตุ เล่าให้ฟังว่า ตนรับแจ้งเหตุจากลูกบ้านเวลา 09.00 น.ว่านายโพธิ์ศรี เดชเดิม อายุ 85 ปี ลงมือฆ่า นางวาริน ศรีแล อายุ 48 ปี ภรรยาเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ24.00น.คืนวันที่ 6 ต่อวันที่ 7 มิ.ย.65 ที่ผ่านมาจึงแจ้งให้กำนันตำบลป่าไม้งามและกำนันแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ แล้วเสร็จตั้งแต่เวลา 11.00 น.ควบคุมตัวนายโพธิ์ศรี ไปสอบสวนเพิ่มเติมและดำเนินคดีตามกฎหมายที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู ส่วนศพผู้ตายนางวาริน หรือ แมว ศรีแล ได้เก็บไว้รอญาติมาติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อำเภอผานกเค้า จังหวัดเลย ต่อไป

โดยนายวิจิตร เล่าต้นสายปลายเหตุคดีนี้ว่า เดิมนายโพธิ์ศรี เดชเดิม เป็นคนบ้านโคกน้ำเกี้ยงแห่งนี้ ภรรยาเก่าเสียชีวิตจึงออกบวชที่วัดแห่งหนึ่งใกล้กับบ้านโคกน้ำเกี้ยง ได้หลายพรรษา จนปัจจุบัน อายุ ได้ 85 ปี ส่วนนางวาริน หรือแมว มาได้สามีที่บ้านนี้ต่อมาภายหลังเลิกร้างกันไปเนื่องจากสามีติดคุกคดียาเสพติด นางวาริน หรือแมว ก็เทียวบวช เทียวสึกมาหลายครั้งแล้วตามวัดต่างๆแถวบ้านใกล้เคียงล่าสุดบวชไปอยู่วัดเดียวกับนายโพธิ์ศรี เดชเดิม หรือหลวงตาโพธิ์ ที่ชาวบ้านเรียกและเกิดถูกตาต้องใจกันจึงพากันสึกมาอยู่กินกันเมื่อเดือนเมษายน ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาโดยนายโพธิ์ศรีได้เล่าให้ลูกหลานฟังว่ามีเงินติดตัวมาร่วมสี่แสนกว่าและลงทุนซี้อบ้านไม้แบบน้อคดาวน์ ราคาหนึ่งแสนสองหมื่นบาทมาวางบนที่ดินตนเองที่ในนาหลัง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโคกน้ำเกี้ยงเพียง 400 เมตร มีสระน้ำขนาดกว้าง 30 เมตร ยาว 30 เมตร ลึก3เมตรอยู่ข้างๆบ้าน และปรับปรุงต่อเติมเป็นครัวและที่จอดรถข้างบ้านก่อนจะซื้อรถเก๋ง อีกคันราคา 60,000บาทมาขับ อยู่กินกับนางวาริน หรือแมวมาตลอดภายหลังได้ซื้อจักรยานยนต์พ่วงข้างให้นางวารินใช้อีกคัน

ล่าสุดนายโพธิ์ศรีเล่าให้ลูกหลานฟังว่า เงินสดจำนวน 150,000 บาทห่อผ้าไว้ใต้ที่นอนหายไป ลูกหลานถามว่ามีใครรู้บ้างว่าซ่อนเงินไว้ นายโพธิ์ศรีเล่าว่ามีแต่นางวาริน กับตนเท่านั้นที่รู้ จนเมื่อคืนนี้นายโพธิ์ศรีเล่าว่าเกิดทะเลาะกับนางวารินด้วยเหตุว่าตนแอบชะโงกศีรษะไปมองภาพในโทรศัพท์ที่นางวารินกำลังเปิดแล้วโดนต่อว่าจนถกเถียงกันไปจนลามถึงเรื่องเงินที่หาย ท้ายสุดนางวารินตะโกนว่าอย่านะหน้าไม่เหมือนพ่อ จะหนีเมื่อไหร่ก็ได้ นายโพธิศรีจึงเกิดโทสะใช้เท้าถีบนางวารินออกมาจากห้องนอนล้มลงไปที่เรือนครัวด้านหลัง นางวารินผวาไปคว้ามีดโต้หันมาหา นายโพธิ์ศรีจึงคว้าค้อนตีตะปูทุบศีรษะนางวารินไม่นับจนพอรู้ว่าตายจึงลากร่างเปลือยนางวารินไปทิ้งลงในสระก่อนจะลากต่อออกไปที่มุมไกลจากบ้านใช้เชือกมัดตัวนางวารินติดกับไม้ที่ใช้ทำค้อนกระทุ้งดินเพื่อถ่วงร่างนางวารินไม่ให้ลอยขึ้นพร้อมเอาเก้าอี้นอนที่ประดิษฐ์จากยางรถมาทับไว้อีกชั้นหนึ่ง

รุ่งเช้าจึงโทรศัพท์ไปเล่าให้หลานสาวฟังหลานๆจึงหารือกันแล้วบอกให้นายโพธิ์ศรีมอบตัว เมื่อนายโพธิ์ศรีรับปากมอบตัวจึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

นายวิจิตร เล่าต่อว่าปกตินายโพธิ์ศรีจะอยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปไหน มีแต่นางวารินที่มักจะขี่รถพ่วงข้างที่สามีซื้อให้ขับออกจากบ้านแต่เช้าแล้วกลับค่ำๆแทบทุกวันโดยทราบว่านางวาริน บอกนายโพธิ์ศรีว่าไม่สบายออกไปหาหมอ

ขณะที่นายไพฑูรย์ วงษ์ชมพูหลานเขยบอกว่ากับข้าวกับปลาตนมักจะออกมาส่งให้นายโพธิ์ศรีที่ตนเรียกว่าปู่โพธิ์ประจำเนื่องจากที่บ้านนายโพธิ์มักอยู่คนเดียวไม่ได้ทำอาหาร ส่วนตัวไม่เคยเห็นทั้งสองคนทะเลาะกัน แต่ตอนที่อยู่บ้านไม่ทราบ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทั้งสองคนมีนิสสัยยังไงนายไพฑูรย์บอกว่าปู่โพธิ์ไม่ได้ไปไหนส่วนใหญ่อยู่แต่บ้านแต่นางวารินนั้นชาวบ้านรู้ดีว่ามีพฤติกรรมชอบคบหากับพวกติดยาเพราะนางวารินก็รับพฤติกรรมนี้มาจากสามีเก่าส่วนเรื่องการพนันนางวารินไม่นิยมเล่น ตรงกับคำบอกเล่าของนายบุญถม โพธิจักร์ ที่บอกว่าเหตุที่เกิดน่าจะมีสาเหตุมาจากการหึงหวงหรือชู้สาวเป็นหลัก ข่าวคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป