นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย นายจีรศักดิ์ กิ่งไทรย์ สามีของผู้เสียชีวิต และ นางเจนจิรา ชาเทพ แม่ของผู้เสียชีวิต เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

กรณีที่ภรรยาถูกพี่เขยข่มขืนกระทำชำเราเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 62 ก่อนต่อสู้คดีมาเป็นเวลา 3 ปี โดยก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก จำเลย 3 ปี แต่ต่อมาเดือน ม.ค.ปี 2565 นี้ ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษายกฟ้อง เป็นเหตุให้ผู้เสียชีวิตเกิดอาการเครียด ก่อเหตุกินยาฆ่าตัวตาย เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเอง

สามีผู้เสียชีวิต เล่าว่า วันเกิดเหตุ ครอบครัวสังสรรค์กัน ตนเองเห็นว่าภรรยาเมาจึงพาขึ้นไปอาบน้ำนอน หลังจากนั้นตนเองได้ลงมาเก็บของ เมื่อขึ้นไปข้างบนอีกครั้ง เห็นภรรยาอยู่ในห้องน้ำร้องไห้ และถามตนเองว่าได้มีอะไรกับเธอหรือเปล่า เมื่อตนเองบอกว่าไม่ได้มีอะไรด้วย ภรรยาก็ร้องไห้หนัก และเล่าให้ตนเองฟัง แต่ไม่ยอมบอกว่าใครเป็นคนทำ แต่ยืนยันว่าจำหน้าคนทำได้ ก่อนจะบอกภายหลังว่าเป็นพี่เขย

แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พี่เขยก็ไม่เคยยอมรับ ตนเองและภรรยาจึงดำเนินคดีตามกฎหมายต่อสู้กันยาวนานถึง 3 ปี ซึ่งในระหว่างนั้นทางพี่เขยก็ได้ขอไกล่เกลี่ย โดยยื่นข้อเสนอเป็นเงิน 500,000 บาท แต่ตนเองและภรรยาไม่รับ และยืนหยัดจะต่อสู้เอาผิดตามกระบวนการยุติธรรม

ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุธรณ์ได้พิพากษา ลงโทษพี่เขยแต่ในชั้นฎีกากลับยกฟ้อง จนทำให้ภรรยาคิดสั้นฆ่าตัวตายที่บ้านพี่เขยที่อ้างว่าเป็นคนก่อเหตุ ยอมรับว่า ตนเองเสียความรู้สึกกับคำตัดสิน เพราะต่อสู้มาเป็นเวลานาน จึงเดินหน้าเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับกระทรวงยุติธรรมให้ช่วยหรือฟื้นคดีตรวจสอบอีกครั้ง

ด้านแม่ของผู้เสียชีวิต เผยว่า ต้องการขอความเป็นธรรมให้กับลูก รวมถึงเป็นห่วงหลาน 2 คน ว่าจะอยู่ยังไงเมื่อขาดแม่ไป ในตอนนี้สภาพจิตใจของลูกเขยและตัวเองก็ย่ำแย่มาก

ทั้งนี้ ญาติได้มีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดจากที่ทำงานของผู้ตายมาเปิดเผย หลังญาติและภรรยาของนายดำเดินทางมาหาผู้ตายและมีการเรียกให้ผู้ตายออกไปคุยด้านนอก เพื่อนพูดคุยกับญาติผู้ใหญ่ของนายดำ โดยการเสนอเงิน 500,000 บาทให้ผู้ตาย หลังศาลมีคำสั่งจำคุก

ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เผยว่า ขณะนี้คำพิพากษาของศาลถือเป็นที่สิ้นสุดแล้ว รวมถึงผู้เสียหายเสียชีวิตไปแล้ว ตามกระบวนการฟ้องร้องก็ไม่สามารถรื้อฟื้นคดีได้

แต่ก็มีข้อน่าสนใจคือ หลังจากศาลพิพากษาไม่นาน ผู้เสียหายก็ฆ่าตัวตายที่บ้านของผู้ก่อเหตุ หมายความว่าผู้เสียหายต้องมีความคับแค้นใจบางอย่าง ซึ่งหลังจากนี้ ทางกระทรวงจะมีการตั้งคณะกรรมการทีมกฎหมายของกระทรวงยุติธรรม เพื่อตรวจสอบรายละเอียดคดีว่า มีหลักฐานข้อใดที่ทำให้ศาลฎีกาพิจารณาต่างจากศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ก่อนนำไปสู่การยกฟ้อง เพื่อทำเป็นกรณีศึกษาต่อไป

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/NLzKxEZ93io