เลือกตั้งและการเมือง

'อุ๊งอิ๊ง' งงดรามา 'ทักษิณ' ยกดัมเบลในสระ ลั่นไม่หยุดโพสต์ - 'ทวี' ยันเป็นการทำกายภาพ

โดย nattachat_c

10 เม.ย. 2567

25 views

วานนี้ (9 เม.ย.67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องอาการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังโพสต์ภาพนายทักษิณ ยกดัมเบล และเล่นน้ำกับหลาน ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ภายในบ้านจันทร์ส่องหล้า


นางสาวแพทองธาร ยืนยันว่า เป็นดัมเบลฟองน้ำ และอุปกรณ์พ่วง ที่แพทย์ให้ใช้ออกกำลังกายในน้ำ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อกลับคืนมา เพราะคุณพ่อผ่าตัดไหล่มา ซึ่งไม่ได้ว่ายน้ำเยอะ เน้นเดินออกกำลังกายในน้ำ โดยใช้ดัมเบลฟองน้ำ และคิดว่าคงไม่มีใครนำดัมเบลเหล็กลงน้ำ ถ้าเป็นเช่นนี้คงจม ซึ่งลูกตนก็ใช้ดัมเบลฟองน้ำเล่นน้ำ เพราะยังว่ายน้ำไม่เป็น ตอนนี้ลูกอายุ 3 ขวบ คุณตาก็จะให้หนีบด้านข้างว่าย และเดินตาม เพื่อจะได้บริหารกล้ามเนื้อไปด้วย


ส่วนในอนาคตหากจะโพสต์อะไรจะต้องคอยชี้แจงหรือไม่นั้น  นางสาวแพทองธารกล่าวว่า ตนยังคงโพสต์เช่นเดิม ไม่เป็นไร อันไหนเป็นกระแสก็จะตอบ แค่นั้นเอง ไม่เช่นนั้น ชีวิตของตนคงเปลี่ยนไป เวลาจะโพสต์อะไรต้องระวังโน่นนี่นั่น ซึ่งตนไม่ได้ตั้งใจจะโพสต์เพื่อทำร้ายใคร หรือเพื่อจะให้เป็นกระแส


แต่คิดว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตนยุ่งมาก พอถึงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ตนได้ไปอยู่กับลูก และคุณตาด้วย เพราะกลับไปนอนบ้าน รู้สึกว่าคุณตาตื่นมามีความสุข และหลาน ๆ ก็มีความสุข ตนก็มีความสุข นั่นคือสิ่งที่ต้องการจะสื่อให้ตัวเอง ซึ่งไม่ได้คิดว่า จะเป็นประเด็น และถ้าเป็นประเด็นก็อธิบายได้


"อิ๊งค์แทบไม่อยากจะเชื่อว่าคนจะคิดว่าเป็นดัมเบลเหล็ก เพราะมันก็คือฟองน้ำสีฟ้า ๆ อาจจะไม่ได้ซูมหรือเปล่า ไม่ทราบเลยว่ามันจะสามารถคิดว่าเป็นดัมเบลเหล็กได้ด้วย ก็เลยบอกว่าเป็นฟองน้ำดีไหม จะได้ชัดเจนขึ้น"


เมื่อถามว่า เดินในสระว่ายน้ำได้ ใช่หรือไม่ สาวแพทองธาร กล่าวว่า เป็นการเดินในสระว่ายน้ำ เพราะคนอายุเยอะแล้ว ไปวิ่งกระแทก ๆ กระทบกับขา และเข่า จึงว่ายน้ำดีที่สุด ใช้ดัมเบลฟองน้ำ ซึ่งมีขายทั่วไปสามารถ เสิร์ชดูในอินเตอร์เน็ตได้

เมื่อถามว่า ยังคงจะโพสต์ IG เช่นเดิมใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ใช่   ร้อมกับย้อนถามว่า หรือควรจะหยุดโพสต์ อย่างไร และยืนยันว่า ไม่ได้ทำให้เกร็งที่จะโพสต์ต่อไป และไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนจ้องจับผิด 


"เอาจริง ๆ เราก็เป็นธรรมชาติของเราแบบนี้แหละ ถ้าไม่ชอบ หรือไม่ถูกใจ ก็ขอโทษด้วยค่ะ เราก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ"

------------

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  กล่าวถึงกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี นำเอกสารทางการแพทย์เกี่ยวกับการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  มาเผยแพร่ว่า อาจไม่ได้ป่วยจริงถึงขั้นได้ 9 คะแนน ที่ต้องได้รับการพักโทษ


พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า ไม่ทราบว่า นพ.วรงค์ ได้หลักฐานมาอย่างไร แต่จากการสอบถามแพทย์ที่ทำการรักษา 3 คน  แพทย์คนแรกมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ส่วนแพทย์อีก 2 คน เป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลตำรวจ  


ซึ่งทั้ง 3 คนบอกว่า ภาพที่ปรากฏเล่นดัมเบลในน้ำ เป็นการฟื้นฟูผู้ป่วยที่ทำกายภาพในน้ำ เป็นดัมเบลโฟมที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งค่อนข้างปลอดภัยกับผู้ป่วยที่ต้องการฟื้นสภาพร่างกาย  เสริมสร้างกล้ามเนื้อไหล่ และข้อศอก สำหรับผู้ป่วยที่มีประวัติการผ่าตัดไหล่ และเป็นการปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์เพื่อกายภาพเสริม


ส่วนจะยืนยันได้หรือไม่ว่า นายทักษิณป่วยถึงขั้นได้แค่ 9 คะแนน  พันตำรวจเอกทวี บอกว่า เป็นเรื่องของแพทย์ พร้อมย้ำว่าได้สอบถามกับแพทย์แล้ว ภาพที่ปรากฏเป็นการทำกายภาพในน้ำ ซึ่งเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์


ส่วนการยกดัมเบลโฟมต้องทำนานหรือไม่ ก็ต้องสอบถามจากแพทย์ แต่ในหน้าที่ของตนหากสงสัย ก็ต้องแสวงหาข้อเท็จจริง แต่บางคนเวลาสงสัยจะมีวิธีทางการเมือง พูดให้คนเสียหายไปก่อน นี่คือความแตกต่าง

------------

วานนี้ (9 เม.ย.67)  นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ เป็นประธานพิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต​ หรือ​ วปอ.บอ.​ รุ่นที่ 1


นายกรัฐมนตรี​ กล่าวปาฐกถา​พิเศษ​ ในหัวข้อบทบาทของผู้นำในอนาคต​ ในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ​ ว่า​  ชื่อหลักสูตร วปอ.​ บอกชัดเจนอยู่แล้วว่า​ เป็นหลักสูตรที่มีเกียรติ​  มีศักดิ์ศรี และเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำพาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้ในอนาคต  


รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 1 ซึ่งเข้าใจว่ามีหลายคนอยากมาเรียนกันเยอะ เนื่องจากเป็นคอร์สที่มีความต้องการที่จะเข้ามาเรียนอย่างสูง เชื่อว่าทุกท่านได้รับการคัดเลือกมาด้วยความเหมาะสม มีการอบรมเป็นอย่างดี ก่อนกล่าวติดตลกว่า​ ไหนๆก็มาแล้ว​ ก็อย่าขาดเรียน เข้ามาก็เข้ายาก​ และขอให้เรียน​ ซึ่งตนมั่นใจว่าหลักสูตรสถาบันนี้ให้ความรู้แน่นอน


ซึ่งนอกจากความรู้แล้ว เรื่องของคอนเนคชั่น​ หรือเรื่องเครือข่ายในการทำงานร่วมกัน เป็นเรื่องที่สำคัญ​ ตนเชื่อว่า หลาย ๆ ท่าน มาในที่นี้ เพราะเหตุผลนี้ ซึ่งก็ไม่ผิด แต่คอนเนคชั่น​ต่าง ๆ เหล่านี้ ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง​ แก่ผู้อื่น โดยไม่ไปเบียดเบียน หรือไปทำให้เกิดความไม่เหมาะสม


ตนเคยพูดไปหลายครั้งแล้วเรื่องนี้​ ตนไม่อยากจะเน้นย้ำ​แต่ว่าสังคมของเราในช่วงนี้มีความเหลื่อมล้ำกันสูงมาก​ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่มีการแพร่ระบาดโควิด​  เกิดขึ้นคนรวยได้รวยขึ้น ส่วนคนจนลก็จนลง จึงต้องพูดอย่างตรงไปตรงมาที่สุด เรื่องนี้เป็นเรื่องที่บั่นทอนความมั่นคงของประเทศพอสมควร


พวกเราทุกคนที่อยู่ในที่นี้เป็นอนาคตของชาติและจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมและการเมืองต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนควรตระหนักดี​ถึงเรื่องนี้​ เพราะฉะนั้น​ เรื่องของเราที่จะต้องมีความพยายามในการลดความเหลื่อมล้ำลงมา ตนถือว่าเป็นหน้าที่ของทุกคน


วันนี้ ตำแหน่งหน้าที่การงานอาจจะไม่ใหญ่โตมากมาย การประพฤติตัวตรงนี้​ ก็จะเป็นที่จับตามองของสาธารณชนค่อนข้างมาก​ มีการใช้โซเชียลมีเดียต่าง ๆ นานา​ ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม


เรามาอยู่ในที่นี้  มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่​ มีองค์กรอิสระ​ มีนักธุรกิจ​ มีนักการเมือง เป็นการผสมผสานอย่างลงตัว​ พร้อมกับระบุว่า​ สถาบันก็ได้คิดมาดีแล้ว​ เพราะฉะนั้ นเรื่องเหล่านี้ เราจะให้ความสำคัญในเรื่องของการใช้โซเชียลมีเดีย​


ตนขอย้ำอีกครั้งว่า​ อะไรที่ทำให้คนรู้สึก หรือไม่มีโอกาสได้เข้ามาตรงนี้ เวลาจะทำอะไรขอให้คิด พวกท่านเป็นที่จับตามองของทุกคน รายชื่อก็มีการประกาศชัดเจนว่าใครได้อยู่ในคอร์สนี้บ้าง ชื่อคอร์สก็บอกอยู่แล้ว Future Reader ผู้บริหารแห่งอนาคต​ ตนมองว่าเป็นเรื่องสำคัญของอนาคตของพวกท่านทุกคน ส่งต่อไปสู่อนาคตของประเทศชาติ

------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/97I6C45RB5g

คุณอาจสนใจ

Related News