เมื่อวานนี้ (9 ก.พ. 65) เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์ รพ.ศิริราช และตำรวจ สน.บางกอกน้อย เข้าตรวจสอบเหตุ พบศพครึ่งตัวลอยน้ำ บริเวณใต้สะพานอรุณอัมรินทร์ โดยในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำเชือกมาผูกเพื่อไม่ให้ศพลอยออกไป เจ้าหน้าที่จึงได้เคลื่อนย้ายชิ้นส่วนศพขึ้นมาริมคลอง  

จากนั้นได้ทำการตรวจพิสูจน์ พบศพมีลักษณะครึ่งตัวบน ไม่มีศีรษะ ไม่สวมเสื้อผ้า สภาพเน่าเปื่อยไม่ต่ำกว่า 2 วัน ไม่สามารถระบุเพศได้ ด้านหลังมีรอยสักยันต์เก้ายอด รูปเสือ และรอยสักพระราหู สวมสร้อยข้อมือทองฝังเพชรที่บริเวณข้อมือซ้าย นิ้วนางข้างซ้ายสวมแหวนพลอยสีแดง บริเวณเล็บมือทั้ง 2 ข้าง ทาสีเหลือง

พลทหารรัฐวุฒิ นามกระโทก อายุ 22 ปี สังกัดกองเรือเล็ก เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 8 โมงครึ่งกำลังนำเรือออกฝึก มองไปในลำคลองเป็นเหมือนคนนอนคว่ำหน้าอยู่ ลอยมากับขยะผักตบชวาในน้ำติดกับซอกเรือ คิดว่าเป็นหมอนหรือหุ่น จึงวิ่งไปดู ถึงกับผงะพบว่าเป็นศพ และแจ้งนายทหารเวรทราบ เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ไม่นานเจ้าหน้าที่ก็มาถึงยังจุดเกิดเหตุ ใช้เชือกลากชิ้นส่วนศพมาไว้ใต้สะพาน

จากนั้นประมาณบ่ายโมง พบขาซ้ายที่วัดหงส์รัตนาราม คลองบางกอกใหญ่ ถูกตัดตั้งแต่โคนขาลงมา ทาเล็บเท้าสีแดง ห่างจากจุดที่พบตัวราว 2-3 กิโลเมตร ต่อมาพบศีรษะผู้เสียชีวิต ที่บริเวณท่าเรือมัสยิดหลวงอันซอริซ ซุนนะห์ ห่างจากจุดที่พบตัวราว 200 เมตร สภาพชิ้นส่วนศพถูกตัดบริเวณลำคอ ลักษณะผมยาว ใส่เหล็กดัดฟัน บ่ายโมงครึ่งเจอขาขวาที่วัดน้อยใน ห่างจากจุดที่พบชิ้นส่วนตัวราว 5 กิโลเมตร ลักษณะโดนตัดตั้งแต่โคนขาเช่นกัน แต่เท้าขวาถูกตัดออก

เท่ากับว่าเจอชิ้นส่วนศพทั้งหมด 4 จุด โดย 3 ชิ้นพบอยู่ในคลองบางกอกน้อย มีเพียงขาซ้ายที่อยู่ในคลองบางกอกใหญ่ ชิ้นส่วนทั้งหมดกระจายอยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตร ตอนนี้เจ้าหน้าที่เร่งค้นหา เพียงท่อนสะโพกและเท้าขวา หากพบช่วงสะโพกก็จะสามารถยืนยันได้ว่าผู้ตายเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย

ขณะที่ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ลงพื้นที่จุดที่พบชิ้นส่วนมนุษย์ พร้อมยืนยันว่า ชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบในคลองบางกอกน้อย และบางกอกใหญ่ 4 จุด ร่วม 3 พื้นที่เป็นบุคคล คนเดียวกัน

เบื้องต้นผู้เสียชีวิตคาดว่าจะเป็นผู้หญิง เนื่องจากมีเครื่องประดับ ผมยาว ทาเล็บ ดัดฟัน ยังไม่สามารถระบุอายุ สัญชาติ  และตัวบุคคลได้ แต่จากรอยสักเป็นรอยสักของคนไทย ทั้งนี้ยังไม่ตัดประเด็นเรื่องบุคคลข้ามเพศ จนกว่าจะระบุตัวบุคคลได้

ส่วนการเสียชีวิตเชื่อว่าน่าจะเป็นฆาตกรรม  เนื่องจากมีการกระจายชิ้นส่วน และน่าจะเป็นการทิ้งในแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนที่กระแสน้ำนำพาชิ้นส่วนจะกระจายไปตามคลองบางกอกน้อย และบางกอกใหญ่ ส่วนวิธีการกระจายชิ้นส่วนอยู่ระหว่างการสืบสวนว่า มีการห่อหุ้มชิ้นส่วนศพด้วยวัสดุอื่น หรือเป็นการนำชิ้นส่วนโยนลงแม่น้ำโดยตรง เพราะชิ้นส่วนทุกชิ้นที่พบไม่มีการห้อหุ้ม

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า การฆาตกรรมครั้งถือว่าเป็นความโหดเหี้ยมของผู้ก่อเหตุ ซึ่งตอนนี้ได้ระดมชุดสืบสวนพื้นที่ โดยให้ สน.บางกอกน้อย รับผิดชอบการสอบสวนเนื่องจากเป็นจุดแรกที่พบชิ้นส่วน  ส่วนการสืบสวนได้ให้ฝ่ายสืบสวน ลงพื้นที่หาข้อมูลว่าชิ้นส่วนมนุษย์เป็นใคร โดยเฉพาะรอยสักยันต์เก้ายอด, ราหู, จิ้งจก ที่แผ่นหลัง และรูปหัวเสือที่ไหล่ข้างซ้าย พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดในทุกพื้นที่ที่พบชิ้นส่วน ทั้งนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ได้นำชิ้นส่วนศีรษะ และลำตัวมาประกบกัน พบว่าที่ลำคอมีร่องรอยถูกกรีดด้วยของมีคม

ทีมข่าวลงพื้นที่สอบถามเบาะแสเกี่ยวกับรอยสักยันต์เก้ายอด ที่อยู่บนแผ่นหลังผู้เสียชีวิตที่พบเป็นศพในคลองบางกอกน้อย ที่ศูนย์เช่าพระเครื่องย่านดังกล่าว ให้ข้อมูลเกี่ยวกับรอยสักที่ปรากฏบนแผ่นหลังว่า เป็นรอยสักยันต์ที่มีครูบาอาจารย์ ไม่ได้เป็นรอยสักเพื่อความสวยงาม เนื่องจากรอยเส้นจะมีความพิเศษเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งคนกลางคืนมักจะไม่นิยมสักประเภทนี้ รอยสักที่ปรากฏประกอบด้วย เก้ายอด ,ห้าแถว ,ราหู ,จิ้งจก ,เสือหรือนก คาดว่าคนที่สักยันต์หากได้เห็นรอยสักจะบอกได้ว่าเป็นของสำนักไหน และระบุตัวบุคคลได้ไม่ยาก

ทั้งนี้ ตำรวจขอความร่วมมือประชาชน หากมีคนรู้จักมีรอยสักที่แผ่นหลัง เป็นรอยสักยันต์เก้ายอดจิ้งจก และรอยสักพระราหู ที่หัวไหล่ซ้ายมีรูปหัวเสือ สวมสร้อยข้อมือทองฝังเพชรที่ข้อมือซ้าย ที่นิ้วนางข้างซ้ายสวมแหวนพลอยสีแดง เล็บมือทั้งสองข้างทาสีเหลือง และเล็บเท้าทาสีแดง นอกจากนี้ผู้ตายดัดฟันด้วย หากใครมีเบาะแสสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สน.บางกอกน้อย หรือ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ในเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูได้นำชิ้นส่วนศพมนุษย์ 2 ชิ้นที่ถูกลอยน้ำ คือ ช่วงหัว กับลำตัวช่วงบน ถูกพบที่ท่าน้ำกองเรือเล็ก นำส่งนิติเวชโรงพยาบาลศิริราช เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล รวมกับชิ้นส่วนขาซ้ายที่ท่าน้ำวัดหงส์ พื้นที่ สน.บุปผาราม และขาขวาเจอที่ท่าน้ำวัดน้อยใน ถนนชัยพฤกษ์ พื้นที่ สน.ตลิ่งชัน ซึ่งถูกส่งไปแล้วก่อนหน้านี้ เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุการตาย

โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการทางพิเศษ การทะเบียนประวัติอาชญากรรม และทีมแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช เป็นผู้ทำการตรวจสอบเนื้อเยื่อตามทางวิทยาศาสตร์ เพื่อยืนยันว่าเป็นบุคคลใด

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนได้ประสานไปยังสถานีตำรวจทั่วประเทศและศูนย์นิรนามแจ้งคนหาย ให้ตรวจสอบข้อมูลการแจ้งบุคคลสูญหายก่อนหน้านี้ ตำรวจระดับผู้บังคับบัญชา เรียกตำรวจฝ่ายสืบสวนของกองบังคับการตำรวจนครบาล และ บก.น.7 เข้าประชุมเพื่อแบ่งหน้าที่กันทำ พร้อมลงพื้นไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด หาบุคคลต้องสงสัยที่นำชิ้นส่วนศพมาทิ้ง

ทั้งนี้ ตำรวจฝ่ายสืบสวนเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า จากรูปการมีความเป็นไปได้สูงที่ชิ้นส่วนถูกแยกทิ้งเพื่ออำพรางคดี เนื่องจากมีบาดแผลที่บริเวณคอมีลักษณะแผลเรียบ ถูกของมีคมตัดขาด โดยขณะนี้หวังว่าชิ้นส่วนที่เหลือ คือ เท้าด้านซ้ายและช่วงลำตัวท่อนล่างว่าจะพบในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะทำให้การตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลง่ายขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีได้กระจายกำลังเร่งสืบหาเบาะแสเกี่ยวกับตัวผู้เสียหายชีวิตอย่างเร่งด่วน เพื่อพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าคือบุคคลใด ก่อนต่อมาจะได้รับแจ้งเบาะแสที่ทำให้เชื่อได้ว่าศพหญิงสาวนิรนามดังกล่าวน่าจะเป็น น.ส.มณีรัตน์ กระจกภาพ หรือน้องแป้ง อายุ 28 ปี หลังมีบุคคลในครอบครัวเข้ามายืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตำหนิรูปพรรณโดยเฉพาะรอยสักด้านหลัง รวมถึงสีเล็บ และเครื่องประดับต่างๆ ที่พบบนตัวศพตรงกับ น.ส.มณีรัตน์ ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากการตรวจสอบประวัติ พบ น.ส.มณีรัตน์ เดิมพักอาศัยอยู่กับครอบครัวและญาติพี่น้อง ภายในซอยหทัยราษฎร์ 33 ก่อนจะย้ายไปทำงานย่านรามคำแหง นานครั้งจะกลับมาที่บ้านพัก ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ญาติพี่น้องติดต่อได้ คือเมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา ก่อนจะขาดหายการติดต่อไป

กระทั่งคนในครอบครัวพบเห็นข่าวศพหญิงสาวนิรนามลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา ปรากฎตามสื่อต่างๆ จึงเอะใจเพราะมีตำหนิรูปพรรณตรงกัน ก่อนติดต่อเข้าแจ้งเบาะแสกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อพิสูจน์ทราบให้แน่ชัด

ต่อมามีรายงานว่า ในโลกโซเซียลมีการโพสต์ข้อความอาลัยถึงหญิงสาวนิรนามที่พบศพถูกฆ่าปริศนา โดยผู้ใช้เฟชบุ๊ก บุตร พระมารดา ได้โพสต์ข้อความแชร์ลิ้งค์ข่าวว่าขอให้แป้งไปสู่ภพภูมิที่ดีนะ ใครทำมึง

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบในเฟซบุ๊ก ปอแป้ง ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กของ น.ส.มณีรัตน์ กระจกภาพ ได้โพสต์ข้อความเมื่อวันที่  6 ก.พ. 65 ในลักษณะอาลัยอาวรณ์ว่า “สักวันพวกคุณจะคิดถึงเรา”

ทั้งนี้ มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา น.ส.มณีรัตน์ ได้คุยกับเพื่อนสนิทว่า สามีนอกใจ และจะไปกระโดดพานฆ่าตัวตาย ซึ่งเพื่อนก็ให้กำลังใจไปว่า อย่าทำแบบนั้น ก่อนที่มาอยู่กับเพื่อนตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. และบอกว่าจะไปทำงาน ก่อนจะหายตัวไป จนกระทั่งมาเจอศพที่เห็นรอยสักคล้ายกับ น.ส.มณีรัตน์ จึงรู้สึกตกใจ

ต่อมามีรายงานว่า ชุดสืบสวนได้เชิญตัว นายแม็ก (นามสมมติ) ซึ่งเป็นเพื่อนชายคนสนิทคนปัจจุบันของผู้ตาย มาทำการสอบปากคำที่สน.บางกอกน้อย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงถึงห้วงเวลาไทม์ไลน์ก่อนเกิดเหตุ รวมทั้งปูมหลัง และการใช้ชีวิตร่วมกันของทั้งคู่

นอกจากนี้ ยังสอบถามถึงเรื่องราวว่า ผู้ตายมีความขัดแย้งกับใครหรือไม่ เนื่องจากพฤติกรรมในการก่อเหตุครั้งนี้ค่อนข้างโหดเหี้ยม ขณะเดียวกัน ทางชุดสืบสวนได้แบ่งงานกันลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงกับจุดที่พบศพทั้งสามจุด เพื่อหาร่องรอยของคนร้าย

เบื้องต้นจากการสอบปากคำนายแม็ก ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา มีรายงานว่า ยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ “น้องแป้ง”

ขณะที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างสอบปากคำสามี รวมถึงครอบครัว คือ พ่อแม่และน้องสาว ซึ่งเข้าพบตำรวจ สน.บางกอกน้อย เมื่อช่วง 3 ทุ่มครึ่ง วันที่ 9 ก.พ. 65 เพื่อยืนยันรูปพรรณสันฐานของผู้เสียชีวิต จากการสอบถามทางตำรวจชุดสืบสวน ล่าสุดบอกว่าทางญาติยืนยันแล้วว่าเป็น “น้องแป้ง “

โดยขณะที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อหาเบาะแสคลี่คลายคดี ส่งชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบจุดที่พบศพ เพื่อหาเบาะแสของคนร้าย เนื่องจากลักษณะที่พบชิ้นส่วนศพกระจัดกระจาย จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะมีการขับรถแล้วมาทิ้งชิ้นส่วนในแต่ละจุด โดยตีกรอบไปตั้งแต่จุดที่พบชิ้นส่วนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ยาวไปจนถึงจังหวัดนนทบุรีซึ่งเป็นเขตติดต่อ ที่มีคลองบางกอกน้อยไหลผ่าน

ขณะเดียวกันยังได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านของ “น้องแป้ง” เนื่องจากมีรายงานว่าเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ น้องแป้งได้ขึ้นรถแท็กซี่ออกไปจากบ้านพัก โดยอ้างกับแม่ว่าออกไปทำงาน จนกระทั่งหายตัวไปและพบเป็นศพดังกล่าว

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/2IFFvbHoG-4