ออกหมายจับ 2 ยากูซ่า ฆ่าหั่นศพชายญี่ปุ่น ด้านคนขับรถ ยันไม่รู้เรื่อง-โดนข่มขู่

ตำรวจคุมตัว หนึ่งคนไทย เกี่ยวข้องคดีฆ่าหั่นศพชาวญี่ปุ่น พบ 2 ผู้ก่อเหตุชาวญี่ปุ่น ทำธุรกิจสีเทาอยู่ไทยเกินกำหนด

จากเหตุการณ์ พบชิ้นนายคาบาชิมา เรียวสุเกะ อายุ 47 ปี ถูกฆ่าหั่นศพ แล้วใส่ถุงดำ นำไปทิ้งในหลายแห่ง ทั้งใน ภายในซอยสวิง 2 อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยหลักฐานสำคัญ ที่ทำให้ตำรวจ สภ.บางบัวทอง รู้ว่าศพที่พบ คือ นายคาบาชิมา คือ ชิ้นส่วนที่ข้อมือขวาที่พบว่ามีรอยสักแบบญี่ปุ่น

ต่อมาตำรวจได้คุมตัว นายเกม ซึ่งเป็นคนไทย มาสอบปากคำที่ สภ.บางบัวทอง หลังมีหลักฐานว่า เมื่อคืนวันที่ 26 มี.ค. นายเกมส์ ซึ่งมีอาชีพรับจ้างขับรถ ได้ขับรถไปรับนายคาบาชิมา และ นายคาโตะ ทาคูยา อายุ 50 ปี และ นายซูซูกิ ฮิโรโตะ อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นคนร้ายที่ร่วมกันฆ่านายคาบาชิมา จากสถานบริการแห่งหนึ่งย่านพุทธมณฑลสาย 2

จากนั้นได้พาผู้ตายไปที่โกดังร้างซึ่งอยู่ในซอยสวิง 2 โดยนายเกมส์ บอกว่า เมื่อขับรถไปถึง ได้ถูกนายคาโตะ นายซูซูกิ สั่งให้ลงจากรถ ซึ่งหลังจากที่นายเกมส์ ลงจากรถแล้วได้เดินไปสูบบุหรี่ ส่วนชาวญี่ปุ่นทั้ง 3 คนได้เดินเข้าไปที่โกดัง ต่อมาได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงรีบไปดูที่โกดัง พบว่านายคาบาชิมา ถูกยิงเสียชีวิต นายคาโตะ และนายซูซูกิ จึงได้บอกให้นายเกมส์ ขับรถออกมา โดยทิ้งศพนายคาบาชิมา ทิ้งไว้ที่โกดัง

จากนั้นวันรุ่งขึ้น นายคาโตะ และนายซูซูกิ ได้ให้นายเกมส์ พามาส่งที่โกดัง และได้ซื้ออุปกรณ์ในการหั่นศพมาด้วยและเมื่อมาถึง โกดัง นายคาโตะ และนายซูซูกิ ได้เข้าไปหั่นศพนายคาบาชิมา แล้วเอาชิ้นส่วนศพใส่ถุงดำ นำขึ้นรถนิสสัน สีขาว และไปตระเวนทิ้งตามจุดต่าง ๆ ที่เตรียมมา หั่นร่าง ใส่ถุงดำแล้วนำไปทิ้งตามจุดต่าง ๆ

ล่าสุดตำรวจ สภ.บางบัวทอง ได้คุมตัวนายเกมส์ ซึ่งถูกควบคุมตัวไว้ตั้งแต่เมื่อคืนมาทำการสอบปากคำเพิ่มเติม โดยนายเกมส์ สวมเสื้อสีเทา สวมหมวก และใส่แมส เพื่อปิดบังใบหน้าแต่ระหว่างที่ถูกตำรวจควบคุมตัวมา เกิดความชุลมุนเล็กน้อย ทำให้หมวกของผู้ต้องหาหลุด แต่เจ้าหน้าที่ได้ใช้มือปิดป้องใบหน้าไม่ให้สื่อมวลชนบันทึกภาพได้ ก่อนที่ตำรวจพยายามรีบควบคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถออกไปแถลงข่าว เบื้องต้นมีรายงานว่าโดนแจ้งข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพ

นอกจากนี้ตำรวจได้อายัดรถเก๋งนิสสัน สีขาว มาตรวจสอบเพิ่มเติม โดยพบว่าภายในตัวรถยังปรากฏร่องรอยคราบเลือดบริเวณพื้นเบาะหลังฝั่งคนขับและส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งอย่างมาก

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบว่าทั้งนายคาโตะ และนายซูซูกิ อยู่ในประเทศไทยเกินกำหนด หรือ Overstay โดยนายคาโตะ ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยถึงวันที่ 1 ม.ค. 2566 ส่วนนายซูซูกิ ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยถึงวันที่ 5 มี.ค. 2566 และขณะนี้ ยังไม่พบข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศของทั้ง 2 คน

ตำรวจคุมนายเกม ทำแผนทิ้งศพชาวญี่ปุ่น 4 จุด เจ้าตัวอ้าง ไม่รู้เห็น แถมโดนข่มขู่ ด้านตำรวจเร่งติดตามตัวชายชาวญี่ปุ่นอีกสอง ที่ยังหลบหนี พบเข้ามาทำธุรกิจสีเทา เป็นเกี่ยวกับแก๊งคอลเซนเตอร์ด้วย

เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีภูธรบางบัวทอง ได้คุมตัวนายเกม มาสอบสวนที่เทศบาลพิมลราช อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งทันทีที่มาถึง ได้คุมตัวลงมาจากรถตู้ โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคอยควบคุมตัวเข้ามาภายในเทศบาล เจ้าตัวไม่ตอบคำถามใดๆ ก่อนถูกคุมตัวขึ้นมาชั้น 4

การสอบสวน นำโดย พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และทีมสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่น เข้าร่วมสบปากคำ หลังสอบสวนกว่า 1 ชั่วโมง

พล.ต.ท.จิรสันต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า คดีนี้เริ่มต้นจากได้รับรายงานว่า พบชิ้นส่วนมนุษย์ วันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา จึงเร่งหาชิ้นส่วนเพิ่ม จนพบเมื่อ 22 เมษายน โดยพบชิ้นส่วน 12 รายการ และที่มั่นใจว่า เจ้าของร่างไม่มีชีวิตอยู่แล้ว คือ การพบชิ้นส่วนสะบักขวา ที่เป็นจุดตาย และสันนิษฐานว่าเป็นการฆ่ากันตายแน่

ต่อมา 23 เมษายน พบกะโหลก มีรอยกระสุน 1 นัดนั้น จึงขยายผล และได้ตัวนายเกม ชายชาวไทย ให้การว่า ชายชาวญี่ปุ่นใช้อาวุธปืนลูกโม่ ยิงเพื่อนชายชาวญี่ปุ่นด้วยกันซึ่งขณะนี้ ตำรวจมีหลักฐานเพียงพอทั้งบุคคล วัตถุ การตรวจพิสูจน์ ในการเอาผิดผู้ก่อเหตุ

จากสืบสวนจนทราบว่า ผู้ตายเป็นชายชาวญี่ปุ่น และผู้ก่อเหตุเป็นแก๊งเดียวกัน จากข้อมูลทราบว่ามีประวัติการกระทำผิดที่ญี่ปุ่น มาทำธุรกิจในไทยแบบผิดกฎหมาย เป็นสีเทา เมื่อถามว่าเป็นธุรกิจอะไร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 บอกว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนนายเกมส์ ให้ความร่วมมือ และให้การเป็นประโยชน์ โดยอ้างว่ามาแค่ขับรถให้เป็นช่วง ๆ รับเป็นจ็อบ ๆ

ส่วนรายละเอียดนั้น กลุ่มผู้ต้องหาก่อเหตุ คืน 27 มีนาคม หลังไปร้านอาหารฝั่งธนฯ และไม่พอใจเรื่องส่วนตัว จึงขับมาที่โกดัง ก่อนจะปิดโกดัง ให้นายเกมรออยู่ข้างนอก และก่อเหตุใช้อาวุธยิงเพื่อนร่วมชาติเสียชีวิต

เมื่อเปิดมา ก็พบคนตายๆในรถเก๋งนิสสันอันเมล่าสีขาว ที่จอดในโกดัง หลังจากนี้ ต้องพิสูจน์ทราบว่า ก่อเหตุยิงใน หรือนอกรถ

จากนั้น ได้ปล่อยศพไว้ 1 คืน ก่อนที่ 10 โมงเช้าของวันที่ 28 มีนาคม จะขับรถนิสสัน โน๊ต สีแดง ออกไปซื้อวัสดุในการชำแหละที่ร้านสะดวกซื้อ และกลับมาชำแหละศพ

ต่อมาเวลา 16.00 ได้นำชิ้นส่วน ส่งใส่ถุงดำขนย้ายไปทิ้งตามจุดต่าง ๆ จากนั้น วันที่ 29 มีนาคม ได้วนเข้ามาที่โกดัง ซึ่งบางจุดโบกปูน ในโกดัง ส่วนนิสซัน อัลเมร่า ได้ขับไปจอดทิ้ง ที่ริมคลอง เมื่อวันที่ 30 มีนาคม

นายเกมส์ ให้การว่าขับรถให้ตลอด ส่วนการนำไปทิ้ง ญี่ปุ่นบงการสั่งให้จอด และเลือกสถานที่ทิ้งศพ  ทั้งนี้ยังพบว่าผู้ต้องหาทั้งสองยังอยู่ในประเทศไทย ส่วนรายละเอียดว่าอยู่ที่ไหนยังไม่ขอเปิดเผย เมื่อสอบสวนเสร็จ ได้คุมตัวนายเกม ไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ 4 จุด

โดยจุดแรก เป็นโกดังที่เกิดเหตุในซอยจัดสรรสวิง 2 ตำบลพิมลราช อ.บางบัวทอง ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ที่คนร้ายใช้สังหาร และชำแหละศพผู้ตายนาย คาบาชิมะ เรียวสุเกะ

จุดนี้ นายเกมอธิบายชุดสืบสวนว่า ในคืนวันที่ 27 มีนาคม หลังจากทานข้าวย่านฝั่งธนเสร็จ ก็ขับรถไปที่โกดัง โดยผู้ตายได้นั่งด้านหน้าฝั่งซ้าย

จากนั้น นาย Suzuki (ซูซูกิ) และ นาย KATO (กาโต๊ะ) ได้ลงจากรถ และพาผู้ตายคือ นายคาบาชิมะ เข้าไปในโกดัง ปิดประตูโกดัง ส่วนตนเอง รออยู่ด้านนอกประมาณ 10 นาที จากนั้นตนก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ตนก็ออกมาสูบบุหรี่รอ

จากนั้น คุมตัวไปจุดที่ 2 ซึ่งเป็นจุดที่ทิ้งชิ้นส่วนที่ชำแหละ โดยอยู่ในซอยใกล้กับโกดัง เป็นหญ้าข้างทาง และเป็นจุดที่พบกระดูกกะโหลก ซึ่งจุดนี่นายเกม ขับรถมาจอด ส่วนผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่น 2 คน เป็นคนเอาถุงดำไปโยนลงริมทาง

จุดที่ 3 อยู่ในซอยจัดสรรสวิง 1 ในตำบลพิมลราช ซึ่งเป็นจุดที่อยู่นำถุงดำมาทิ้งเพิ่มเติม โดยผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่นทั้ง 2 เป็นคนโยนทิ้ง ส่วนนายเกมอ้างว่าอยู่บนรถ

จากนั้น ตำรวจได้พาตัวไปยัง จุดที่ 4 ซึ่งอยู่ริมคลองบ้านกล้วย จุดนี้นายเกมอ้างว่า ผู้ต้องหาเอาอาวุธมีดมาทิ้ง

โดยระหว่างทำแผน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายเกม ว่ามีส่วนรู้เห็นกับการก่อเหตุหรือไม่ เจ้าตัวบอกว่าถามตำรวจเลย เรื่องมันยาว ผู้สื่อข่าวเลยบอกว่า ฟังได้ ให้เล่ามา นายเกมเลยว่า ผมบอกตำรวจไปหมดแล้ว เมื่อถามว่า รู้เห็นกับการก่อเหตุหรือไม่ นายเกมยืนยันไม่รู้เรื่อง ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ร่วมวางแผนหรือไม่ เจ้าตัวตอบย้ำว่า ผมไม่รู้เรื่องพี่ จะวางแผนได้ยังไง ต่อมา ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีส่วนรู้เห็นใช่หรือไม่ เจ้าตัวย้ำว่าไม่รู้เรื่อง เมื่อถามว่าถ์กข่มขู่หรือไม่ เจ้าตัวบอกว่าถูกขู่

เมื่อถามข่มขู่อะไรบ้าง เจ้าตัวบอกพูดไปหมดแล้ว ยืนยันว่าถูกข่มขู่ และถามผู้สื่อข่าวกลับว่า ต้องให้บอกเลยหรอว่าข่มขู่แบบไหน ก่อนบอกว่า ตนบอกทุกอย่างกับตำรวจไปหมดแล้ว

https://youtu.be/fvX1Etn6hN0