พล.ต.ต.อิทธิพล สุวรรณวัฒนะ รอง ผบช.ภาค 6 พร้อมด้วย พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รองผบช.ภ 6 ร่วมกันนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ทั้งเสื้อผ้าชุดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ อาวุธปืน สร้อยทองคำที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ไปจากร้านทอง เวลา 19.00 น. เมื่อวันที่ 24 ม.ค. นำมาแถลงข่าว

โดยทางตำรวจใช้เวลาราว 12 ชั่วโมงหลังจากเกิดเหตุ ในการตามจับ จนผู้ต้องหาไม่มีทางไป จึงติดต่อขอมอบตัว พร้อมทั้งของกลางเป็นสร้องทองคำ ที่ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ไป โดยเฉพาะอาวุธปืน ผู้ต้องหาประดิษฐ์ดัดแปลงขึ้นเอง เนื่องจากผู้ต้องหาเคยอยู่โรงกลึง ทำให้มีความชำนาญ

ผู้ต้องหารับสารภาพว่า เหตุจูงใจมาจาก ทางผู้ต้องหาประกอบอาชีพค้าขายรับซื้อมะขามหวาน ทำมานานประมาณ 2 ปี แต่เนื่องจากขณะนี้ เป็นช่วงโรคระบาดโควิด ทำให้เศรษฐกิจไม่ดี เกิดปัญหาหนี้สิน และมีการปรึกษากับภรรยาว่าจะทำยังไงดี ไม่มีเงินจุนเจือครอบครัว จึงตัดสินใจกระทำความผิด

ซึ่งตามจริงแล้ว ผู้ต้องหาไม่ได้มีพฤติกรรมเป็นคนร้ายโดยนิสัย เขาก็ได้บอกกับภรรยาของเขา ซึ่งภรรยาก็เตือนว่าอย่าไปทำ แต่เนื่องจากเป็นอารมณ์ชั่ววูบจึงก่อเหตุ ตอนนี้ก็ได้ยินยอมนำของกลาง นำอาวุธปืนมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด ซึ่งของกลางนั้นคือ ทองคำน้ำหนักรวม 23 บาท แต่ ณ ขณะก่อเหตุ มีการกระชากทำให้ขาด แต่น้ำหนักก็ถือว่าใกล้เคียงจำนวน

ในส่วนพฤติการณ์ของคนร้าย คือตั้งแต่เวลา 10.00 น. มีการดูลาดเลา เดินไป เดินมา เข้าออกห้อง 3 รอบ เพื่อวางแผนว่าจะทำยังไง ที่จะชิงทรัพย์ กระทั่งมาตัดสินใจก่อเหตุ ตอน 19.00 น. โดยมีการสูบบุหรี่จัดมาก เพื่อทำใจก่อเหตุ ซึ่งหลังก่อเหตุ บ้านคนร้ายอยู่แถว ตำบลนาเกาะ อำเภอหล่มเก่า ก็ใช้เส้นทางนี้ในการหลบหนี ทางตำรวจก็ได้มีการวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์เส้นทางหลบหนี

ส่วนอาวุธปืนไทยประดิษฐ์นั้น ทางผู้ต้องหาเคยอยู่โรงกลึง เกี่ยวกับการทำเหล็ก ทำให้มีความชำนาญ ประดิษฐ์ปืนเองได้ เป็นปืนลูกซองนัดเดียว โดยดูตามยูทูบ ที่อยู่ในอินเทอร์เน็ต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็พยายามปราบปรามอยู่

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้คุมตัวผู้ต้องหาไปที่เกิดเหตุ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมทั้งมีการแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืนในการก่อเหตุ ซึ่งเจ้าตัวให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Go2xFeoA-q0