อาชญากรรม

รวบแม่บ้านสาวไทใหญ่ แทงนายจ้างปางตาย ชิงเงิน 30,000 อ้างส่งให้พี่ชายทหาร ฝั่งเพื่อนบ้าน

โดย nut_p

12 ก.พ. 2567

753 views

รวบแม่บ้านสาวไทใหญ่วัย 19 ปี ทำงานเพียง 5 เดือน ก่อเหตุใช้มีดแทงนายจ้างหญิงปางตาย ชิงทอง และเงินสด 30,000 บาท สารภาพต้องการนำเงินไปให้พี่ชายที่เป็นทหารอยู่ที่ดอยไตแลง



กล้องวงจรปิดภายในบ้านพักของนางสาวสุพัตรา อายุ 46 ปี ผู้เสียหาย ในตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ บันทึกภาพขณะที่นางสาวแววดาว อายุ 19 ปี ชาวไทใหญ่ เดินเข้าภายในบ้านพักพร้อมนายจ้างหญิงและลูกสาวในช่วงกลางดึก จากภาพดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น



หลังจากที่นายจ้างและลูกสาวได้เดินเข้าไปในห้องนอนแล้ว นางสาวแววดาวได้เดินมายังห้องครัวและหยิบมีดปลายแหลมหนีบไว้ใต้แขนข้างซ้ายก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง



ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 00.00 น. นางสาวแววดาวได้สวมเสื้อฮูดแขนยาวกางเกงขายาวเดินถือมีดปลายแหลมไปยังห้องของนางสาวสุพัตรา นายจ้าง และใช้มีดปลายแหลมที่นำมาจากห้องครัวงัดประตูห้องนอนเพื่อจะเข้าไปชิงทรัพย์ โดยในภาพจะเห็นลูกสาวของผู้เสียหายวิ่งออกมาก่อนๆกลับเข้าไปในห้องนอนและมีการเปิดไฟโดยนางสาวแววดาวพยายามวิ่งเอามีดไล่แทงนางสาวสุพัตรา



ก่อนที่นางสาวสุพัตราจะต่อสู้ปาข้าวของใส่ และวิ่งไปหลบซ่อนตัวภายในห้องของนางสาวแววดาว โดยนางสาวแววดาวพยายามจะพังประตูห้องเข้าไปทำร้ายผู้เสียหายอีก แต่พังประตูไม่ได้ จึงได้ถือมีดที่ใช้ก่อเหตุมานั่งรอที่ห้องครัว และเดินไปยังห้องนอนผู้เสียหายอีกรอบ เพื่อรื้อค้นทรัพย์สิน ก่อนจะมานั่งรอผู้เสียหายที่ห้องครัวอีกรอบอย่างใจเย็น เพื่อรอให้ผู้เสียหายออกจากห้องพักมาเพื่อที่จะลงมือก่อเหตุซ้ำอีก แต่ผู้เสียหายไม่ออกมา นางสาวแววดาวนั่งอยู่สักก็ได้หลบหนีไปพร้อมทรัพย์สินกระเป๋าสะพายของนางสาวสุพัตรา มีเงินสด 30,000 บาทและ สร้อยคอทองคำ 1 สลึง



เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 0.52 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุทางนางสาวสุพัตรา อายุ 46 ปี เจ้าของบ้านได้โทรแจ้งตำรวจ จึงได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและนำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาล โดยนางสาวสุพัตรา เจ้าของบ้านนั้นได้รับบาดเจ็บถูกแทงเข้าที่บริเวณหน้าอกด้านซ้าย สะบักหลัง และแขนข้างซ้าย เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลและเร่งติดตามตัวคนร้าย



นางสาวแววดาว ชาวไทใหญ่ อายุ 19 ปี แม่บ้านซึ่งเป็นผู้ลงมือก่อเหตุมาดำเนินคดี ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ช้างเผือกได้แกะรอยจากกล้องวงจรปิดและประสานงานไปยังพื้นที่ต่าง ๆ กระทั่งทราบว่าผู้ต้องหา หลังก่อเหตุได้ไปพักกับพี่ชายในพื้นที่อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม พร้อมของกลางกระเป๋าเงินสีน้ำเงิน 1 ใบ เงินสดแบงค์ 100 ดอลลาร์ จำนวน 1 ใบ เงินสดไทย 7,500 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง 1 เส้น มีดปลายแหลม ยาว 12 นิ้ว 1 ด้าม



ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.ช้างเผือก เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหา "ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะกวดแก่การหลบหนีหรือพาทรัพย์นั้นไป"



พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนสอบสวน หญิงสาวแรงงานไทใหญ่ดังกล่าวให้การรับสารภาพว่ามาทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ให้เแก่เจ้าของร้านขายของชำที่นี้นานกว่า 5 เดือนกินนอนอยู่ที่นี่ แต่ช่วงนี้พี่ชายที่เป็นทหาร ดอยไตแลง มีปัญหาต้องการใช้เงินจำนวนมาก ตนเองขอเบิกเงินล่วงหน้าหลายเดือนแต่ไม่ได้ จึงตัดสินใจเอามีดแทงเจ้าของร้านเพื่อหวังชิงทรัพย์ พอก่อเหตุเสร็จก็หวังหนีไปกบดาน หลังจากนั้นเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศกระทั่งมาถูกจับกุมตัว



ซึ่งของผู้ต้องหารายนี้ มีเจตนาในการชิงทรัพย์ตั้งแต่ต้น เป็นลักษณะของการวางแผนมาก่อน ใช้พฤติการที่โหดร้ายทารุณ คงต้องแจ้งข้อหาทุกข้อหาในการกระทำผิด ทั้งข้อหา"ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะกวดแก่การหลบหนีหรือพาทรัพย์นั้นไป"ข้อหาพยายามฆ่าเนื่องจากอาวุธมีดที่ใช้สามารถทำให้เสียชีวิตได้



สำหรับผู้ต้องหารายนี้สัญชาติเมียนมา ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่มีข้อมูลในการตรวจสอบประวัติย้อนหลังว่าเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาก่อนหรือไม่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามเก็บข้อมูลพฤติกรรมของผู้ต้องหาเพื่อนำมาตรวจสอบคดีย้อนหลัง รวมทั้งประวัติของการเสพยาเสพติด และคดีอื่นๆ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ



และอยากจะฝากเตือนถึงพี่น้องประชาชนที่จะรับสมัครแรงงานต่างด้าวมาทำงาน เช่นเดียวกับผู้เสียหายรายนี้ที่รับสมัครแรงงานต่างด้าวมาทำงานเป็นแม่บ้าน แล้วก็เป็นผู้หญิงที่อยู่กันสองคน เราไม่ทราบประวัติของผู้ที่จะมาสมัครทำงาน ไม่ผ่านกรมการจัดหางาน ไม่ได้มีการขออนุญาตทำงานอย่างถูกต้อง ทำให้คนดังกล่าวได้มีการตรวจสอบประวัติอย่างถูกต้องหรือไม่ เมื่อรับมาไม่ต้องถึงขั้นชิงทรัพย์แค่ลักทรัพย์เราก็ไม่สามารถติดตามเบาะแสของผู้ก่อเหตุได้ ไม่มีประวัติ ไม่มีรอยพิมพ์ลายนิ้วมือ ไม่มีอะไรต่างๆ ทำให้การสืบสวนจะยาก และไม่สามารถไว้ใจกลุ่มพวกนี้ได้ เพราะเขาอาจจะเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาจากที่อื่นหากรับมาทำงานก็เสี่ยงได้

คุณอาจสนใจ

Related News