ไบโอเทค เปิดตัวพันธุ์ข้าว หอมสยาม ผลผลิตสูง ทนโรค ทนศัตรูพืช เริ่มกระจายเมล็ดพันธุ์ปีหน้า

ข่าวดีของชาวนาไทย เมื่อนักวิจัยจากศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ หรือ ไบโอเทค ได้พัฒนาพันธุ์ข้าวนาปี หอมสยาม ที่ให้ผลผลิตสูง ทนต่อสภาพอากาศ และ โรคต่างๆ มากขึ้น โดยขณะนี้ผ่านการปลูกทดสอบในแปลงเกษตรกรให้ผลเป็นที่น่าพอใจ คาดว่าข้าวหอมสยามนี้จะสามารถเริ่มตีตลาดได้ในช่วงปีหน้า

ข้าวเจ้าหอมปรับตัวได้ดีกับสภาพน้ำน้อย ทนทานต่อโรคใบไหม้ ให้ผลผลิตสูง เมล็ดถี่เรียงตัวแน่นต่อรวง นี่คือคุณสมบัติเบื้องต้นของข้าวหอมสยาม ฝีมือนักวิจัยไทยจากศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ หรือ ไบโอเทค ที่ใช้เวลาศึกษาข้อมูลเพื่อพัฒนากว่า 10 ปี ปรับปรุงพันธุกรรมระหว่างข้าวเจ้าหอมนุ่มทนแล้ง RGD กับ ข้าวเจ้าแก้วเกษตร ที่ให้ผลผลิตสูงเเละทนต่อโรคไหม้

ข้าวหอมสยามจึงมีลำต้นแข็ง เตี้ย เฉลี่ยประมาณ 15 กอ ออกรวงเฉลี่ย 13 รวง ให้ข้าวประมาณ 220 เมล็ดต่อรวง ทนทานต่อการหักล้ม ต้านทานโรคไหม้คอรวง เป็นจ้าวนาปีปลูกได้แม้มีน้ำน้อย ความสูงของต้นประมาณ 120 เซนติเมตรเท่านั้น กลายเป็นคุณสมบัติเด่นที่ได้จากพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ที่ถ่ายทอดออกมา

ช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา นักวิจัยได้นำพันธุ์ข้าวหอมสยามมาปลูกทดสอบในแปลงร่วมกับเกษตรกรจำนวน 31 แปลง กระจายไปตามพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ควบคู่ไปกับพันธุ์ข้าวหอมมะลิอื่นๆ รวม 21 ไร่ ซึ่งแปลงนา ต.นาราชควาย อ.เมือง จ.นครพนม เป็น 1 ในนั้น

โดยข้าวหอมสยามให้ผลผลิตประมาณ 530 กิโลกรัมต่อไร่ สูงกว่าข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ที่ให้ผลผลิตประมาณ 250 กิโลกรัมต่อไร่ เท่ากับว่าสูงกว่าถึง 2.1 เท่ากับข้าวที่ปลูกในแปลงเดียวกัน ซึ่งได้ผลเดียวกันนี้ในทุกแปลงที่นำไปทดสอบ

ข้าวพันธุ์นี้จึงเหมาะกับพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีน้ำน้อย ซึ่งทางไบโอเทคยืนยันจำเป็นต้องมีการปรับปรุงพันธุ์ข้าวเสมอ เพื่อให้เกษตรกรไทยได้มีพันธุ์ข้าวที่ทนต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เลือกอาหารสุขภาพมากขึ้น สู่การตอบโจทย์ตลาดข้าวทั้งในและต่างประเทศ