ชาวเมียนมารวมพลังไม่แผ่ว อารยะขัดขืน หยุดงานต้านรัฐประหาร ไม่กลัวคำขู่กองทัพ

ต่างประเทศ

ชาวเมียนมารวมพลังไม่แผ่ว อารยะขัดขืน หยุดงานต้านรัฐประหาร ไม่กลัวคำขู่กองทัพ

โดย passamon_a

23 ก.พ. 2564

78 views

วันที่ 22 ก.พ. ชาวเมียนมาในหลายเมืองทั่วประเทศ หยุดงานประท้วงครั้งใหญ่ แม้รัฐบาลของกองทัพเมียนมา จะใช้คำขู่ที่ดูรุนแรงและเป็นอันตราย หากประชาชนออกมาร่วมชุมนุม


ตั้งแต่ช่วงเช้า กลุ่มธุรกิจ ร้านค้า รวมถึงโรงงานต่าง ๆ ในหลายเมืองทั่วประเทศ พากันปิดให้บริการเพื่อให้พนักงานออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐประหาร ตามคำเรียกร้องของกลุ่มเคลื่อนไหวคัดค้านการรัฐประหารด้วยการแสดงอารยะขัดขืน หรือกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ซิวิล ดิสโอบีเดี้ยนส์ มูฟเมนท์ (Civil Disobedience Movement) ที่ออกมาประกาศเชิญชวนให้ชาวเมียนมาหยุดงานออกมาชุมนุมประท้วงทั่วประเทศ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ 


โดยที่นครย่างกุ้ง ผู้ชุมนุมจำนวนมากรวมตัวกันเต็มท้องถนน ทำให้ยานพานะไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ส่วนที่บริเวณสถานทูตสหรัฐอเมริกา แม้จะมีการสั่งปิดถนนโดยรอบ แต่ก็ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมหลายพันคน รวมตัวกันที่นั่น และมีรถบรรทุกทหารจอดอยู่ 20 คัน พร้อมด้วยตำรวจปราบจราจลหลายร้อยนาย นอกจากนี้ยังมีการชุมนุมในลักษณะเดียวกัน เกิดขึ้นในเมืองมัณฑะเลย์ และเมืองทวาย


การชุมนุมในวันนี้ ถูกเรียกว่าเป็นการปฏิวัติเมียนมา 2222 เนื่องจากจัดขึ้นในวันที่ 22 เดือน 2 ปี 2021 ซึ่งตั้งให้สอดคล้องกับเหตุการณ์ 8888 ที่เกิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหารครั้งใหญ่ที่สุด เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 1988 


โดยเมื่อวานนี้ สถานีโทรทัศน์ MRTV ของทางการเมียนมา ได้อ่านแถลงการณ์กองทัพ ประกาศเตือนไปถึงกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาเคลื่อนไหวในวันนี้ จะทำให้สถานการณ์รุนแรงมากขึ้น และมีความเป็นไปได้ที่เจ้าหน้าที่จะต้องใช้กำลังที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เนื่องจากอาจมีผู้ชุมนุมบางกลุ่มยั่วยุให้เกิดเหตุจลาจล 


นอกจากนี้ ยังกล่าวโทษผู้ประท้วงกลุ่มที่พยายามให้เกิดเหตุรุนแรง และทำให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงต้องตอบโต้กลับ และส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ยังระบุอีกว่า ผู้ชุมนุมพยายามปลุกปั่นประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่และเยาวชน ต้องเผชิญกับเส้นทางที่ต้องทุกข์ทรมานจนถึงแก่ชีวิตได้ 


ทั้งนี้ นับตั้งแต่ที่การชุมนุมต่อต้านรัฐประหารในเมียนมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ เป็นเวลา 22 วัน มีผู้ชุมนุมถูกยิงเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 คน โดย 1 คน อยู่ในกรุงเนปิดอว์ และอีก 2 คน อยู่ในเมืองมัณฑะเลย์ มีผู้ถูกจับกุมตัวไปแล้วมากกว่า 500 คน 


ล่าสุด นายอันโตนิโอ้ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ออกมาเรียกร้องให้ทางการเมียนมาหยุดใช้ความรุนแรงในการปราบปรามประชาชน และปล่อยตัวผู้ที่ถูกจักกุมตัวไปทั้งหมด พร้อมกับเคารพสิทธิมนุษยชนและความต้องการของประชาชน ที่แสดงออกมาผ่านการเลือกตั้งที่ผ่านมา 

คุณอาจสนใจ

Related News