ผลการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ทั้ง 10 รัฐมนตรี ผ่านการลงมติได้รับการไว้วางใจ แต่มีคะแนนเสียงที่แตกต่างกัน โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้รับมากที่สุด 275 เสียง มากกว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้รับความไว้วางใจ 272 เสียง เท่ากับ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งน้อยกว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับความไว้วางใจ 274 เสียง ซึ่งมีคะแนนเสียงเท่ากับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้รับความไว้วางใจ 268 เสียง เท่ากับ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ส่วนนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้รับความไว้วางใจด้วยเสียง 263 เสียง มากกว่า นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้รับความไว้วางใจน้อยสุดด้วยเสียง 258 เสียง

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ขอบคุณพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่ได้ดี หลังจากนี้จะเป็นกระบวนการตรวจสอบ ที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล บอกว่า การอภิปรายเป็นเพียงการกรีดแผล ต่อไปเป็นยุทธการโรยเกลือ ขณะที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เห็นว่า นายกรัฐมนตรีควรพิจารณาตัวเอง ที่เป็นผู้นำแต่กลับได้คะแนนเสียงไว้วางใจ น้อยกว่า นายอนุทิน และพลเอกประวิตร เพราะขนาดในพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่ไว้วางใจกันเอง

สำหรับคะแนนเสียงไว้วางใจที่ต่างกันพบว่า ในส่วนนายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายศักดิ์สยาม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย มีเสียงไว้วางใจจาก ส.ส.พรรคก้าวไกล 4 คน คือ นายขวัญเลิศ พานิชมาท นายคารม พลพรกลาง นายพีรเดช คำสมุทร และนายเอกภพ เพียรวิเศษ ซึ่งนายอนุทิน ขอบคุณทุกคะแนนเสียง ที่เชื่อว่ามาจากการชี้แจงที่ชัดเจน

นายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจผ่านไปด้วยดี ซึ่งยังไม่คิดปรับคณะรัฐมนตรี ที่ไม่เกี่ยวกับคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจได้มากหรือน้อย แต่ต้องดูที่ผลงาน โดยจะนำข้อมูลที่อภิปรายไปใช้ประโยชน์ในสิ่งที่เป็นความจริง

ส่วนคะแนนเสียงของนายจุรินทร์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่พบว่า ส.ส.ของพรรค 3 คนงดออกเสียง โดยนายพนิช วิกิตเศรษฐ งดออกเสียงทุกคน นายอันวา สาและ ลงคะแนนไว้วางใจนายนิพนธ์ บุญญามณี เพียงคนเดียวขณะที่นายอภิชัย เตชะอุบล ที่งดออกเสียงให้นายจุรินทร์ จะให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ไปตรวจสอบ แต่ยังคงไม่ถึงขั้นขับออกจากพรรค

แต่สิ่งที่ทำให้ไม่น่าเชื่อ เมื่อพบว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงมิติไว้วางใจ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งนายพิธา มาทราบภายหลังผลคะแนนออกมาแล้ว จึงยืนยันว่า ไม่ไว้วางใจร้อยเอกธรรมนัส ปัญหาน่าจะมาจากเครื่องลงคะแนนผิดพลาด ร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงเตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อสภา และเป็นไปไม่ได้ที่จะทำสวนมติพรรคเสียเอง ทั้งๆที่ประกาศจะดำเนินการกับงูเห่าในพรรค

นอกจากนี้ยังพบว่า 6 ส.ส.ดาวฤกษ์ พรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย นางกรนิศ งามสุคนธ์รัตนา น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ น.ส.ธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี และนายศิริพงษ์ รัสมี ได้ลงมติงดออกเสียง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จากเหตุผลที่ตรวจสอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวด้วย

ขณะที่คะแนนไว้วางใจของนายณัฎฐพล น้อยที่สุด พบว่า คะแนนที่ต่างจากรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ได้คะแนนไว้วางใจเท่ากับ พลเอกประวิตร และมากกว่า พลเอกประยุทธ์ พบว่า มีนายดำรงค์ พิเดช ส.ส.พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค พรรคไทรักธรรม นายพิเชษฐ สถิรชวาล พลตรี ทรงกลด ทิพย์รัตน์ พรรคพลังชาติไทย ลงมติไม่ไว้วางใจนายณัฎฐพล ส่วน นายยรรยงก์ ถนอมพิชัยธำรง พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล พรรคพลังไทยรักไทย น.ส.ศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ พรรคพลเมืองไทย นายระวี มาศฉมาดล พรรคพลังธรรมใหม่ งดออกเสียง ให้นายณัฎฐพล แต่ไว้วางใจที่เหลือ

ส่วนพรรคเพื่อไทย มี 2 คน คือนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ และน.ส.พรพิมล ธรรมสาร ลงมติไว้วางใจ พลเอกประวิตร และ ร้อยเอก ธรรมนัส และมีผู้มาแสดงตนแต่ไม่ลงคะแนนในห้องประชุม พบว่า พรรคเพื่อไทย มี 2 คน คือ นายวันนิวัติ สมบูรณ์ และนายศักดา คงเพชร และพรรคเสรีรวมไทย 2 คน คือ นายเพชร เอกกำลังกุล และพล.ต.ท.วิศนุ ม่วงแพรศรี

ส่วนพรรคเพื่อชาติ มีชื่อ นายอารี ไกรนรา งดออกเสียง พล.อ.ประวิตร เพียงคนเดียว ที่เหลือไม่ไว้วางใจ ส่วน น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช และนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ งดออกเสียง ให้ ร.อ.ธรรมนัส เพียงคนเดียว ที่เหลือ ไม่ไว้วางใจ 

มีรายงานว่า เสียงไว้วางใจของนายกรัฐมนตรี ที่น้อยกว่า ร้อยเอกธรรมนัส ทำให้นายกรัฐมนตรี ออกอาการเหน็บด้วยว่า ได้มากแบบนี้ เป็นนายกฯดีกว่าไหม ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า เสียงของพรรคเล็ก กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้คะแนนเสียงต่างกัน การลงมติครั้งนี้ จึงพบทั้งปรากฏการณ์ งูเห่า และ ลิงหลับ ที่มีลักษณะ แจกกล้วยให้แล้ว แต่ไม่ต้องทำอะไรก็มี

สำหรับกระบวนการตรวจสอบต่อจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในส่วนพรรคเพื่อไทย จะดำเนินการยื่นร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ กรณีคดีทุจริตทำสัญญาลวงซื้อขายถุงมือยาง อคส. และนายนิพธ์ บุญญามณี ที่พรรคก้าวไกล จะยื่นป.ป.ช.กรณีที่ดินนิคมอุตสาหกรรมจะนะด้วย