เลือกตั้งและการเมือง

'จุรินทร์' ซัด 'เศรษฐา' เรียก ปชช.เอามาเป็นโล่ ปลุกระดม ปมแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่น

โดย nattachat_c

17 ต.ค. 2566

35 views

วานนี้ (16 ต.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่ให้ประชาชนที่เห็นด้วยออกมาส่งเสียง ยืนยันว่า ไม่ได้แบ่งแยกประชาชนออกเป็นสองฝ่าย หรือเป็นการปลุกระดม


แต่เพราะต้องการรับฟังเสียงประชาชน บางคนบอกว่า ระยะทาง 4 กิโลเมตร หรือ 5 กิโลเมตรก็ไม่มีร้านค้าแม้แต่ร้านเดียว หรือเรื่องระยะ 6 เดือนในการใช้เงิน


จึงอยากให้ประชาชนออกมาแสดงความคิดเห็น เพื่อนำไปปรับให้เหมาะสม และอยากปรับเพียงครั้งเดียว และย้ำว่าเป็นนโยบายที่ดี


ส่วนกรณีที่ สส.พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า มีเงินนอกงบประมาณ เป็นจำนวนเงิน 4.8 ล้านล้านบาท ซึ่งสามารถนำเงินส่วนนี้ มาใช้ในโครงการดิจิทอลวอลเล็ตได้

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยังๆไม่ใช่นะครับ ยังไม่รู้รายละเอียดเรื่องนี้ ขอให้รอการแถลงชี้แจงรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งจะมีการอธิบายที่มาที่ไปของงบประมาณ


ฝ่ายค้านท้วงติงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไม่อยากให้ซ้ำรอยโครงการรับจำนำข้าว

นายกฯ กล่าวว่า ตนรับฟัง


เมื่อถามว่า จะทำให้รัดกุมเพื่อไม่ให้เกิดการทุจริตหรือไม่

นายกฯ กล่าวว่า ตลอดทุกเรื่องทุกขั้นตอน เรามีคณะทำงาน มีคณะอนุกรรมการ ตนจึงไม่อยากจะพูดอะไร เพราะยังไม่เรียบร้อย เดี๋ยวจะสร้างความไม่เข้าใจเกิดขึ้น

------------
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ และรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนออกมาส่งเสียงต่อต้านการคัดค้านการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตคนละ 1 หมื่นบาท ของรัฐบาล ว่า


ถ้าเอาเงินไปแจก ส่วนใหญ่ใครก็เอา ไม่ต้องไปถาม หรือไปส่งเสียงให้เขาออกมาหนุนหรอก แต่ต้องบอกด้วยว่า เงินที่จะเอาไปแจกเป็นเงินของประเทศ ที่ประชาชนจะต้องแบกรับภาระร่วมกันในอนาคต ไม่ใช่เงินส่วนตัวของนายเศรษฐา  คนที่เขาเห็นต่าง เขาจึงมีสิทธิแสดงออก เพราะจะเป็นภาระกับเขาในอนาคตด้วย


นายจุรินทร์ กล่าวว่า ประชาชนไม่ได้ออกมาเรียกร้องแต่แรกว่า ต้องการเงินหมื่นบาท แต่เป็นเรื่องพรรคการเมือง ที่ไปเสนอให้เพื่อแลกกับคะแนนตอนหาเสียง  และเมื่อได้เสียงมาแล้ว ก็จำเป็นต้องทำ แต่ต้องทำบนความรับผิดชอบของพรรคการเมืองนั้น ๆ ที่เป็นต้นคิด รวมทั้งรัฐบาลที่ไปผูกมัดไว้เป็นนโยบายด้วย


“ฉะนั้น หากเกิดความเสียหายขึ้นในอนาคต จะไปโทษประชาชน หรือโทษคนอื่นไม่ได้ การไปปลุกประชาชนที่เห็นด้วย ให้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับฝ่ายที่เห็นต่าง จึงเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะเป็นการปลุกประชาชนออกมาชนกันแล้ว 


ยังเหมือนไปเอาประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ กำบังความรับผิดชอบประชานิยมในอนาคตให้กับพรรคการเมือง และรัฐบาลด้วย ซึ่งคนมีวุฒิภาวะไม่ควรทำ” 

------------

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เชิญชวนประชาชนที่เห็นด้วยกับการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ออกมาแสดงออกสนับสนุน เพื่อเป็นกำลังใจให้รัฐบาล ว่า


เป็นสิทธิของพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาล จะเดินหน้า หรือถอยหลัง ในนโยบายที่หาเสียงไว้ระหว่างการเลือกตั้ง


เมื่อนายกฯ ตัดสินใจจะเดินหน้า ก็ควรรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน ทั้งคนที่เห็นด้วย และคนที่เห็นต่าง แต่ควรรับฟังคนที่เห็นต่างอย่างจริงจัง เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจให้ละเอียดรอบคอบมากที่สุด ไม่ควรมองคนเห็นต่างเป็นเสียงนกเสียงกา


ส่วนพวกขาประจำ ที่มีอคติออกมาขัดขวางการทำงานตามนโยบายที่หาเสียงไว้ของรัฐบาล เมื่อพิจารณากลุ่มคนที่เห็นต่างส่วนมาก ก็เป็นกลุ่มคนที่ออกมาติติงนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมาหลาย ๆ รัฐบาลเช่นกัน


ขณะที่ บางส่วนยังเป็นกลุ่มคนที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคแกนนำรัฐบาลชุดนี้อีกด้วย ดังนั้น ความเห็นของคนเห็นต่างเปรียบเสมือนแสงสว่าง เพื่อนำทางให้นายกฯ ทำงานด้วยความสุขุมรอบคอบมากยิ่งขึ้น


“นายกฯ ไม่ควรปลุกประชาชนให้สนับสนุนนโยบายด้วยการแสดงออกว่าเห็นด้วย ชนกับพวกที่ไม่เห็นด้วย หรือพวกที่เห็นต่าง


ถึงแม้ภายหลัง คนของรัฐบาลจะออกมาชี้แจงว่า นายกฯ ไม่ได้ปลุกให้มาชนกัน แต่เป็นการอ้อนประชาชน เพื่อให้ออกมาให้กำลังใจนายกฯ และรัฐบาลมากกว่า”


นายกฯ ต้องเข้าใจว่า ท่าทีการแสดงออกของนายกฯ ที่บอกว่า อ้อนประชาชนกับปลุกประชาชน เป็นเส้นแบ่งบางๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ง่าย ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการทำนโยบายให้ประสบผลสำเร็จ และไม่ส่งผลดีต่อความน่าเชื่อถือต่อนายกฯ แต่อย่างใด


ดังนั้น นายกฯ ควรอดทน อดกลั้น ต่อความเห็นต่าง พร้อมกับอธิบายสร้างความเข้าใจให้ถึงที่สุด เพื่อนำไปสู่จุดหมายปลายทางที่ตั้งเป้าหมายไว้

------------

ที่รัฐสภา ก่อนการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า


สำหรับสัปดาห์นี้ จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มมาในวันศุกร์ 1 วัน เพื่อชดเชยจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาญัตติต่าง ๆ ที่ค้างอยู่ คงไม่มีอะไรเป็นพิเศษ


นายอดิศร ยังกล่าวถึงกรณีได้ข่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังเสร็จสิ้นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ส่วนตัวคิดว่า รัฐบาลนี้ทำงานมาเพียง 1 เดือน มีผลงานมากมายตามที่ปรากฏต่อพี่น้องประชาชน


นายอดิศร กล่าวว่า การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เป็นสิทธิ์ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน เมื่อมีคะแนนเสียงครบ และมีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แต่ต้องดูกาละเทศะ และขอให้ข้อสังเกตว่า การจะยื่นซักฟอกใคร ท่านควรจะยื่นซักฟอกตัวเองให้ขาวสะอาดก่อน การมาศาลต้องมาด้วยมือสะอาด เป็นหลักของกฎหมายทั่วไป


"ผมได้ยินว่าท่านกำลังซักฟอก ไม่ว่าจะเรื่องคุกคามทางเพศ หรือเรื่องอื่นใด ตามที่เป็นข่าว ขอให้ซักฟอกให้ขาวสะอาด แล้วค่อยมาเจอกันในศึกไม่ไว้วางใจ จะดีกว่าไหม ก็ยินดีครับ ไม่ว่าจะยื่นเมื่อไหร่ ทางรัฐบาลโดย คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ท่านก็พร้อม ตั้งแต่ทำงานมา ผมว่าท่านยังไม่มีเวลาพักผ่อนเลย"


นายอดิศร ยังกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของพรรคร่วมฝ่ายค้านจะต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจอยู่แล้ว ทางรัฐบาลก็ไม่ได้เกรงกลัว พร้อมจะตอบทุกคำถามที่ท่านสงสัย  สามารถอธิบายในทางการเมืองได้ทั้งหมด  


ตนเองก็เคยเป็นฝ่ายค้านโดยอาชีพเหมือนกัน  หากมีข้อสงสัยใด ๆ ก็ซัดมาเลย ไม่ต้องมาเล่นโวหาร แต่ถ้าเป็นข้อมูลลอย ๆ ก็จะไม่สมกับญัตติไม่ไว้วางใจ


นายอดิศร ยังย้ำว่า ขอให้พรรคร่วมฝ่ายค้านซักฟอกตัวเองก่อน และตนเองก็อยากรู้ผลของการซักฟอกด้วย เพราะถือเป็นเรื่องสะเทือนขวัญ หากเกิดขึ้นในพรรคการเมืองขนาดใหญ่


นายอดิศร ยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นเรื่องน่าห่วงมาก เพราะว่ามีประสบการณ์ โดยฝีไม้ลายมือแล้วส่วนตัวมองว่าพรรคประชาธิปัตย์เหนือกว่าพรรคก้าวไกลหลายขุม แต่มวยใหญ่เขาจะไม่ออกอาการ


"จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่ธรรมดานะ ถ้าวันไหนคืนดี ท่านชวน หลีกภัย สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นมานี่ สนุกไปเลย แต่ว่าจะมีสาระ" นายอดิศร กล่าว

-----------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/PoKblqNo3Hg


คุณอาจสนใจ

Related News