กรณีแม่น้องหลิว แจ้งมูลนิธิกระจกเงาขอให้ช่วยตามหาลูกสาวที่หายตัวไปนาน 8 ปี สุดท้ายพบเป็นศพไร้ญาติ แถมยังมีร่องรอยถูกฆาตกรรม ล่าสุดตำรวจเตรียมออกหมายจับผู้ต้องสงสัยแล้ว

นางสุรีวรรณ ยอดพะเนา ถือรูปของ นางสาวมยุรี ยอดพะเนา หรือ น้องหลิว ลูกสาววัย 19 ปี ที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2555 มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของลูกสาวที่กลางไร่อ้อย ในอำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว หลังลูกสาวถูกฆาตกรรมทิ้งศพกลางไร่อ้อยโดยไม่มีใครรู้

การหายตัว ของน้องหลิว สร้างความสงสัยให้แก่คนในครอบครัวและบุคคลใกล้ชิดเป็นอย่างมาก โดยจุดเริ่มต้นของการตามหาน้องหลิว เริ่มต้นเมื่อปี 2562 เมื่อครอบครัวตัดสินใจแจ้งกับมูลนิธิกระจกเงา เพื่อตรวจสอบกรณีน้องหลิวหายตัวอย่างมีเงื่อนงำ ตั้งแต่ปี 2555 โดยข้อมูลสุดท้าย ครอบครัวได้รับแจ้งจากแฟนของน้องหลิวว่า น้องหลิวไปทำงานต่างประเทศ จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อที่บ้านอีกเลย

ซึ่งทีมงานได้เริ่มตรวจสอบข้อมูล พบว่า ตั้งแต่ปี 2555 ที่น้องหลิวหายตัว ไม่ได้ทำธุรกรรมใด ๆ อีก และไม่มีประวัติเดินทางออกนอกประเทศ จึงเริ่มเสาะหาศพนิรนามของหญิงสาวที่พบในพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ ชลบุรี ปราจีนบุรี และ สระแก้ว กระทั่งพบว่ามี 3 ศพ ต้องสงสัย จึงตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอ กับนางสุรีวรรณ กระทั่งพบว่า ศพที่พบกลางไร่อ้อย ที่อำเภอวัฒนานคร คือ ร่างของน้องหลิว

นายเอกลักษณ์ หล่มชุมแข หัวหน้าโครงการศูนย์ข้อมูลคนหายฯ มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า ได้พาพ่อ แม่น้องหลิวมาดูพบศพป่าอ้อย ส่วนการติดต่อนำกระดูน้องหลิวมาบำเพ็ญกุศล อยู่ในระหว่างประสานงานเนื่องจากผ่านมา 8 ปีแล้ว และจุดที่ฝังศพมีการล้างป่าช้าไปแล้ว

จากข้อมูลของตำรวจ ไล่เรียงไทม์ไลน์การหายตัวของน้องหลิว พบว่า น้องหลิวออกจากบ้านที่อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ไปทำงานที่นิคม 304 จังหวัดปราจีนบุรี ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2555 ก่อนจะหายตัวไป โดยจอดมอเตอร์ไซค์ไว้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาคลองรั้ง เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม กระทั่งต้นเดือนมิถุนายน 2555 โทรศัพท์ของหลิวส่งข้อความถึงเพื่อน บอกว่า "ไม่ต้องห่วงจะไปทำงานต่างประเทศ" 

ส่วนแม่ของน้องหลิว ได้รับโทรศัพท์จากแฟนของน้องหลิว บอกว่า หลิวไปทำงานต่างประเทศ แต่น้องหลิวเงียบหายไปผิดปกติ กระทั่งเดือนพฤศจิกายน ปี 2555 ครอบครัวจึงไปแจ้งความคนหายที่ สภ.ศรีมหาโพธิ  ปี 2562 ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิกระจกเงา ปลายปี 2563 ตรวจศพนิรนาม 3 ศพ เทียบดีเอ็นเอของแม่ ก่อนพบตรงว่า ศพที่ไร่อ้อย

ตำรวจเผยว่า ร่างของหลิวถูกพบเป็นศพวันที่ 13 พฤษภาคม 2555 สภาพศพเริ่มเน่า มีบาดแผลถูกยิงที่หน้าอกซ้าย แขนซ้าย หลังซ้าย แตไม่สามารถยืนยันตัวบุคคลได้ จึงกลายเป็นศพนิรนามและฝากไว้ที่สุสานในจังหวัดชลบุรี

ส่วนข้อมูลจากชุดสืบสวน ระบุว่า น้องหลิว ทำงานอยู่ในโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง  ในช่วงก่อนหายตัวได้คบหากับหนุ่มใหญ่รายหนึ่ง มีตำแหน่งเป็นระดับผู้อำนวยการสถานศึกษา สอดคล้องกับข้อมูลจาก พ่อและแม่ ของน้องหลิว ที่ยอมรับว่าเมื่อ 8 ปีก่อน ลูกสาว เคยพาชายคนนี้มาไหว้พ่อและแม่

สำหรับรายละเอียดชายคนนี้ มีคนใกล้ชิดให้ข้อมูลว่า ในช่วงคบหากัน น้องหลิวและชายรายนี้ มีปัญหากระทบกระทั่งกันบ่อยครั้ง ซึ่งในช่วงที่น้องหลิวหายตัวไป พ่อและแม่ได้ให้เบาะแสตำรวจเกี่ยวกับชายคนสนิทรายนี้ ไว้เช่นกัน และเคยเรียกสอบปากคำเบื้องต้นมาแล้ว

ด้านพี่สะใภ้ของน้องหลิว บอกว่า ก่อนน้องหาย เพิ่งออกมาทำงานได้ 10 วัน แล้วหายไป ซึ่งแฟนของน้องได้โทรศัพท์หาแม่ว่า น้องไปทำงานต่างประเทศไปกับเพื่อน แล้วชายคนนี้ก็หายไปเลย ทราบว่าย้ายกลับไปอยู่บ้านเฉย ๆ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไปมาหาสู่กัน คบหากันเป็นปี เชื่อว่า คนนี้เป็นคนทำให้น้องเสียชีวิต นอกจากนี้เพื่อนของน้องยังบอกว่า ก่อนที่น้องจะหายไป แฟนน้องโทรบอกเพื่อนว่า จะพาไปกลับบ้าน แต่แล้วน้องก็หายสาบสูญไป เท่าที่ทราบชายคนนี้เคยทำร้ายและขังน้องในห้อง อีกทั้งน้องยังเคยเล่าว่า อยากเลิกกับแฟนคนนี้ เพราะหึงหวงและทุบตี

สำหรับคดีนี้ ตำรวจแบ่งทำคดีเป็น 2 ส่วน คือ สภ.วัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว พื้นที่พบศพ ส่วน สภ.ศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี คาดว่าเป็นจุดที่ น้องหลิวหายตัว นอกจากนี้ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 และ ตำรวจกองปราบปราม ได้เข้ามาร่วมติดตามคดีแล้ว ทั้งนี้มีรายงานว่า ผู้ต้องสงสัยขณะที่คบหาดูใจกับน้องหลิว มีตำแหน่งเป็นถึง ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง พื้นที่อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ตอนนี้ย้ายไปอยู่จังหวัดสุพรรณบุรี บ้านภรรยา ซึ่งก่อนหน้านี้ ตำรวจเคยมายศาลเข้าตรวจสอบภายในบ้านพักที่จังหวัดสุพรรณบุรี มาแล้วครั้งหนึ่ง

ด้าน พันตำรวจเอกสาธิต มิตรรัก ผู้กำกับการ สภ.วัฒนานคร เผยว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 80 ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัย คือแฟนของน้องหลิวที่มีอายุมากกว่า คาดว่า ออกหมายจับได้ภายใน 2-3 วันนี้.

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/DHQac-cpRUk