วงจรปิดเผย! กระบะต้องสงสัยโยงการตาย 'ป้าอี๊ด' ลูกสาวยันเป็นรถ 'อา' ตร.จ่อตรวจ DNA ลูกทั้ง 5 คน

ลูกสาวป้าอี๊ดเผยข้อมูล รถกระบะต้องสงสัยเป็นของญาติที่รู้จักกัน ซึ่งเจ้าของรถมาบอกว่า วันดังกล่าวขับไปหาญาติเพื่อดูสวนทุเรียนไม่เกี่ยวข้องกับการตายของป้าอี๊ด ขณะที่ตำรวจ เรียกสอบปากคำและขอตรวจ DNA ลูกป้าอี๊ดทั้ง 5 คน

ทีมข่าวเที่ยงวัน ทันเหตุการณ์ ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดก่อนวันพบศพป้าอี๊ด 1 วัน ตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน โดยพบว่าช่วงเวลาประมาณ 12.35 น. ของวันที่ 6 มีนาคม จะเห็นรถกระบะ สีบรอนด์เงิน ใส่ล้อแต่งซิ่ง ได้ขับมาจอดหน้าบ้านของชาวบ้าน พร้อมกับลดกระจก

ซึ่งจะเห็นชายปริศนารายหนึ่งได้นั่งอยู่ภายในรถใช้มือป้องแดด คล้ายปิดบังใบหน้า และพยายามมองดูกล้องวงจรปิดของชาวบ้าน ใช้เวลาไม่กี่วินาที จากนั้นกระบะปริศนาดังกล่าว ได้ค่อย ๆ ขับออกจาก มุ่งหน้าไปทางจุดพบศพ ซึ่งห่างกันประมาณ 200 เมตร

ขณะเดียวกันทีมข่าวเที่ยงวัน ทันเหตุการณ์ คุณนฤชา กมุทโยธิน ได้เดินทางไปพูดคุยกับ นางทิพย์ ลูกสาวคนโตของป้าอี๊ด บอกว่า ตนอยู่บ้านข้างๆติดกับแม่ วันที่แม่หายตัวไปตนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า แม่เสียชีวิตเพราะปกติแม่ก็จะไปเที่ยว ไปหาเพื่อนอยู่ตลอด แต่ปกติจะติดต่อแม่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ครั้งนี้ที่แม่หายตัวไปและติดต่อแม่ไม่ได้

ซึ่งช่วงสายเมื่อวาน ที่มีข่าวว่าพบศพหญิงปริศนา ถูกฆ่าทิ้งศพอยู่ในบ่อน้ำ ตนเองก็ยังไม่คิดว่าเป็นแม่อี๊ด เพราะตามข่าวตอนแรก บอกเป็นหญิงอายุประมาณ 40 ปี ส่วนแม่มีปัญหาหรือทะเลาะกับใครตนไม่ทราบไม่เคยรู้เลย รอให้ตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย

ขณะที่นางทัด ลูกสาวคนที่ 2 เปิดเผยถึง ข้อมูลเรื่องรถกระบะสีบรอนซ์เงิน ขับมาใกล้จุดที่พบศพ 1 วัน ก่อนพบศพแม่ โดยนางทัดบอกว่า รถกระบะคันดังกล่าว เห็นในข่าวแล้วซึ่งเป็นรถของ อา ซึ่งอา มาเล่าให้ฟังว่า อาไปดูสวนทุเรียนและมีญาติอยู่แถวๆนั้น ซึ่งอา ก็ยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตายของแม่อี๊ด แต่อย่างใด

นางทัด บอกว่า ส่วนปมความขัดแย้ง แม่ไม่เคยมีเรื่องหรือมีปัญหากับใคร เรื่องลุงวิว ชายคนสนิทของแม่ ตนก็ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว ไม่ได้ปรักปรำหรือสงสัยอะไร

ทีมข่าวของเรา ได้ไปคุยกับ ลุงวิว อายุ 69 ปี เพื่อนของป้าอี๊ด โดยลุงวิว บอกว่า ลุงเป็นคนที่สนิทที่สุดของป้าอี๊ดก็ว่าได้ จะคอยไปช่วยเหลืองานต่างๆของป้าอี๊ด ซึ่งครั้งล่าสุดที่เจอป้าอี๊ด นั่งอยู่หน้าบ้าน แต่จำวันไม่ได้แน่ชัด น่าจะ 1-2 วันที่แล้ว ซึ่งวันนั้นไม่ได้พูดคุยอะไรกัน

ซึ่งลุงวิวยอมรับว่า ในวันที่ 4 มีนาคม ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ไปกับป้าอี๊ดจริง โดยเป็นการพาไปซื้ออุปกรณ์การเกษตรที่จะนำมาทำสวนทุเรียน จากนั้นก็พากลับมาส่งที่บ้าน และตนก็ยังเข้าออกบ้านอยู่ตลอด เพราะต้องไปตัดยางให้ป้าอี๊ด

ซึ่งลุงวิว เชื่อว่าป้าอี๊ดเสียชีวิตจากการฆาตกรรม ซึ่งไม่ปรักปรำว่าเป็นนายแอ๊ว ลูกชายคนที่ 4 ของป้าอี๊ดหรือไม่ แต่ นายแอ๊วและลูกสะใภ้ เคยมีปากเสียงทะเลาะกับป้าอี๊ด เป็นประจำ ล่าสุดก็เพิ่งมีปากเสียงทะเลาะกันก่อนป้าอี๊ดจะเสียชีวิต ซึ่งตนไม่ได้ตั้งใจฟังว่าทะเลาะกัน

ลุงวิว บอกว่า ป้าอี๊ด เคยมาตัดพ้อให้ฟังเรื่องของการไปแจ้งตำรวจให้มาจัดการปัญหายาเสพติดกับนายแอ๊ว ลูกชายด้วย แต่ไม่มีใครมาดำเนินการ นอกจากนี้ป้าอี๊ด ยังเคยมาปรึกษาเรื่องมรดก ที่จะมีการแบ่งที่ดินให้กับลูกทั้ง 5 คนด้วย ซึ่งตนได้เสนอไปว่า "ทำไมไม่ขายที่แล้วเอาเงินไปเที่ยว แต่ป้าอี๊ดบอกรักลูกทุกคนมาก"

ลุงวิว บอกอีกว่า เชื่อว่าการเสียชีวิตของป้าอี๊ดครั้งนี้ ไม่น่าจะเป็นการฆ่าเพื่อชิงมรดก เพราะลูกทุกคนต่างมีการมีงานทำที่ดี มีแต่นายแอ๊ว คนเดียว ที่มีปัญหาติดยาเสพติด

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/dwmrp-QQ-8c