‘เอ๋ มิรา’ ปล่อยโฮเล่านาทีหวิดติดคุก ไม่คิดว่าพ่อของลูกทำให้ไปถึงหน้าห้องขัง

เรื่องของ ‘เอ๋ มิรา’ ที่ถูกอดีตสามี ‘ครูไพบูลย์ แสงเดือน’ ยื่นฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท ที่ศาลจังหวัดเลย หลังจาก เอ๋ มิรา ได้ไปให้สัมภาษณ์ในรายการโหนกระแสเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564  และมีการพูดพาดพิงไปถึงครูไพบูลย์  

ล่าสุด เอ๋ มิรา ได้ออกมาไลฟ์ทั้งน้ำตา เผยถึงตอนที่ตนเองไปขึ้นศาล ซึ่งวันนั้น ทนายเก่ง ซึ่งเป็นทนายความของตนเองไม่ได้ไปที่ศาลด้วย แต่ส่งน้องสาวของ ทนายเก่ง ไปแทน และบอกว่าจะเตรียมเงินประกันไว้ เอ๋ยังงงประกันอะไร พอไปศาล ทีมทนายของทนายเก่งเอาเอกสารมาให้อ่าน ก็ได้นั่งอ่านในศาล เป็นใบขอประกันตัวออกชั่วคราวเพื่อไปสู้คดี พี่เก่งถามว่าหนูมีโฉนดบ้านไหม หนูก็บอกไม่มี ไม่มีอะไรเลย ทนายบอกจะเอาทรัพย์สินของเขาไปประกันตัวให้

ตอนนั้นหนูไม่รู้คดีของหนูมันคือคดีที่ต้องติดคุกขนาดนั้นเลยเหรอ เห็นใบขอประกันตัวชั่วคราวเพื่อไปสู้คดี หนูตกใจ ยังไม่ทันได้พูดอะไร แค่ไปก็ประกันตัว ส่วนเขาสองคนไม่ได้มา มีแต่ทนายเขามา ได้ยินเสียงตำรวจมาเคาะข้างหลังผู้พิพากษาที่นั่งอยู่บนบังลังก์ แล้วเอากุญแจมือมา หนูก็ไม่ได้คิดว่าจะมาจับหนู เพราะนั่งในศาลมีคดีอยู่ 3 คดี ไม่ใช่ของหนูคนเดียว

จากนั้นศาลถามว่าวันที่นัดสืบพยานจะเอาใครมา หนูก็บอกว่าพี่เก่งบอกจะเอาพี่หนุ่ม กรรชัย กับทนายเกิดผล มาเป็นพยานให้ ทนายน้องออกไปคุยโทรศัพท์กับทนายเก่ง วินาทีนั้นยังไม่ทันได้คุยกับทนายน้อง ศาลให้ตำรวจมาพาหนูไปใต้ศาล หนูก็งงพาหนูไปไหน หนูกลัว ลงไปกับตำรวจสองคน หนูกลัวมาก ศาลบอกให้ลงไปนั่งรอหน้าห้องขังแต่ไม่ต้องเข้า พอหนูเข้าไปข้างในมีตำรวจ 7-8 คน ข้างหลังหนูเป็นห้องขังคนร้ายประมาณ 5-6 คน

วินาทีนั้นหนูคิดว่าพี่เก่งอยู่ไหน ตอนนั้นโคตรกลัวเลย ก่อนที่ เอ๋ มิรา จะเริ่มเสียงสั่นและพูดต่อว่า ทำไมหนูมานั่งตรงนี้ ทั้งห้องขังมีแต่ผู้ชาย ข้างหน้าก็มีตำรวจผู้ชาย คำแรกที่คิดคือนึกถึงตอนที่พี่เก่งถามหนูว่ามีบ้านไหม มีที่ไหม แล้วหนูบอกว่าไม่มี แล้วเขาบอกว่าจะเอาทรัพย์สินประกันตัวให้ แล้วก็คิดว่าพี่เก่งอยู่ไหน  

ตอนนั้นนั่งอยู่เป็นผู้หญิงคนเดียว กลัวมาก ตำรวจก็มาถามว่าคดีอะไร หนูทำผิดอะไรมา หนูไม่รู้จะอธิบายยังไง ก็บอกตรงๆ ว่าหนูถูกผัวเก่าหนูฟ้อง หนูคิดถึงหน้าลูก ลูกจะรู้ไหมแม่นั่งหน้าห้องขัง คนที่เราเคยรักทำให้เรามานั่งจุดนี้ได้ คนเป็นพ่อของลูกทำให้หนูไปนั่งตรงนั้น ไม่คิดไม่ฝันเลย นั่งร้องไห้คนเดียว ไม่อยากให้คนรู้สึกว่าหนูท้อ หนูอ่อนแอ แค่ไปออกรายการโหนกระแสไม่คิดคดีจะร้ายแรงขนาดนี้  

โดยเรื่องราวแตกหักของอดีตสามีภรรยา เอ๋ มิรา กับ ครูไพบูลย์ แสงเดือน ผู้บริหารค่ายเพลงจ้วดจ้าดสตูดิโอ เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ ครูไพบูลย์ และนักร้องสาวในสังกัด กระต่าย พรรณนิภา วัย 17 ปี (ณ ตอนนั้น) ได้ออกมายอมรับว่ามีลูกด้วยกันจริง และได้จดทะเบียนกันเรียบร้อยแล้ว จากนั้น เอ๋ มิรา อดีตภรรยาของ ครูไพบูลย์ ก็ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กบอกว่า “3 ปีที่รอคอย ขอบคุณฟ้าที่มีตา”  

ก่อนจะออกมาเปิดใจในรายการโหนกระแสว่า ที่เธอโพสต์ข้อความไปแบบนั้น เพราะทุกคนเข้าใจว่าเธอไปใส่ร้ายอดีตสามี เนื่องจากที่ผ่านมา อดีตสามีปฏิเสธมาตลอดว่าเขาไม่ได้คบกัน แต่วันนี้ทุกคนได้รู้แล้วว่า เขาท้องแล้ว เธอก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก และทุกคนคงรู้แล้วว่าสิ่งที่เธอพูดเมื่อ 3 ปีก่อนคือความจริง พร้อมยอมรับว่าสาเหตุที่เธอกับอดีตสามีต้องเลิกกัน เพราะมีปัญหาเรื่อง น้องกระต่าย  

โดยตอนที่หย่ากัน ไม่ใช่เพราะเธอจับได้ว่าเขามีความสัมพันธ์กัน แต่อดีตสามีเป็นคนมาบอกกับเธอเองว่า ขอรักเด็กคนนี้ได้ไหม และเขาก็ยอมรับว่ามีอะไรกับเด็กคนนี้แล้ว สุดท้ายเธอก็เลยตัดสินใจขอหย่ากับอดีตสามี ซึ่งในระหว่างที่ เอ๋ กำลังให้สัมภาษณ์ในรายการ ครูไพบูลย์ ก็ได้โทรศัพท์เข้ามาในรายการ และเกิดมีปากเสียงกัน จนเป็นเหตุให้ ครูไพบูลย์ ตัดสินใจยื่นฟ้อง เอ๋ มิรา ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

จากนั้น เอ๋ มิรา ก็ได้ฟ้องกลับอดีตสามี ในข้อหาพรากผู้เยาว์และฟ้องแบ่งสินสมรสมูลค่า 20 ล้านบาท รวมถึงได้ยื่นฟ้องศาลขอเพิกถอนการดูแลบุตรจาก ครูไพบูลย์ และสุดท้ายศาลก็ได้ตัดสินใจ ให้ลูกชายมาอยู่ในความดูแลของ เอ๋ มิรา แต่เพียงผู้เดียว

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/H_iTz5yQ7-k