วอนช่วยเหลือ หลานวัย 16 ดูแลย่าป่วยหนัก ไม่มีเงินรักษา ต้องออกจากรร.ให้น้อง 9 ขวบได้เรียน

วันนี้ (31 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากนายกิตติพงษ์ ข้อยุ่น หรือ เฟิร์นอายุ 33 ปี ได้มียายคนหนึ่งนอนล้มป่วยอยู่กับที่ไม่สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเองและหลานชายอีก 2 คน ได้ ซึ่งทั้ง 3 คน อาศัยบ้านไม้เก่าๆ 2 ชั้น เป็นที่ซุกหัวนอน บริเวณริมทางรถไฟใต้สะพานข้ามรางรถไฟ (สะพานคลองหวะ) อยู่บ้านเลขที่ 439 ถนนพลพิชัย-บ้านพรุ ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ และไม่รู้ว่าบ้านหลังดังกล่าวจะพังถล่มลงมาตอนไหนซึ่งมีสภาพทรุดโทรมพุพังอย่างหนัก

ส่วนสาเหตุที่นายกิตติพงษ์ร้องทุกข์สื่อเข้ามา อยากให้หน่วยงานในพื้นที่เข้ามาดูแลและเร่งช่วยเหลือนำยายส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาให้ ซึ่งตอนนี้ร่างกายของยายเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกไม่สามารถกินข้าวได้นอนอยู่บนที่นอน โดยมีหลานชายอายุ 16 ปี และอายุ 9 ขวบ สลับกันคอยดูแลยาย

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ใต้สะพานคลองหวะข้ามรางรถไฟ พบบ้านไม้ 2 ชั้น สภาพทรุดโทรมอย่างหนัก เบื้องต้นได้พบ นางสุภาพ พรมเดช หรือ ย่านุช อายุ 61 ปี กำลังนอนหายใจรวยรินในห้องนอนใต้ถุนบ้าน สภาพร่างกายเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ได้ล้มป่วยนอนอยู่กับที่มาได้ 5-6 เดือนแล้ว โดยมีหลานชาย 2 คน คอยดูแลทราบชื่อ น้องนุ๊ก อายุ 16 ปี (หลานชาย/พี่ชาย) และน้องธันวา อายุ 9 ขวบ (หลานชาย/น้องชาย) โดยทั้ง 2 คน มีพ่อเดียวกันแต่คนละแม่ซึ่งทางแม่เด็กทั้ง 2 คน ได้เลิกลากันไปและได้ทิ้งเด็กไว้อยู่กับพ่อ ก่อนพ่อของเด็กทั้ง 2 คน จะทิ้งไว้อยู่กับย่าให้เลี้ยงดูก่อนที่พ่อเด็กจะหายตัวไปจนถึงปัจจุบันรวม 3 ปี

ช่วงที่ผ่านมาก่อนนางสุภาพจะล้มป่วยนั้นนางสุภาพได้ประกอบอาชีพขายผักในตลาดและเป็นเสาหลักของบ้านจะส่งเสียเด็กทั้ง 2 คน เรียนหนังสือ คนโตเรียนอยู่ ม.3 ส่วนคนน้องเรียนอยู่ ป.3 แต่พอเจอเหตุการณ์ย่าล้มป่วยทำให้ขาดเสาหลักที่จะดูแลเด็กทั้ง 2 คน จึงทำให้คนโตตัดสินใจไม่เรียนหนังสือเพื่อที่จะเสียสละให้น้องชายเรียนหนังสือก่อน

ส่วนตนเองทำงานหาเงินส่งน้องเรียนและดูแลย่า แต่ด้วยอายุยังคงเป็นเยาวชนจึงไม่สามารถสมัครงานได้ต้องรอเวลารุ่นพี่มาตามและจ้างให้ไปทำงานก่อสร้างหากมีงานเข้ามา ส่วนเรื่องอาหารการกินโชคดีได้ชาวบ้านใกล้เคียงสลับกันก็จะซื้อกับข้าวมาฝากให้ทั้ง 3 คนได้กินแต่ไม่บ่อยนักวันไหนไม่มีชาวบ้านซื้อกับข้าวมาฝากวันนั้นก็จะอดข้าวกันทั้ง 3 คน แต่ช่วงเวลานี้โชคดีหน่อยมีผู้ใจบุญมากหน้าหลายตาแวะเวียนกันมาเยี่ยมพร้อมกับซื้อข้าวสารอาหารแห้ง ขนม นมเนย มากฝากให้ทั้ง 3 คน ได้กิน หลังนายกิตติพงษ์ได้โพสต์คลิปวิดีโอย่านุชและหลานทั้ง 2 คน ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พูดคุยสอบถาม น้องนุ๊ก อายุ 16 ปี ว่าต้องการความช่วยเหลืออะไรบ้าง โดยทางน้องนุ๊ก เปิดเผยว่า อยากให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือพาย่าไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาเพราะที่ผ่านมาป่วยหลายโรคและไม่มีเงินพาย่าไปรักษาที่โรงพยาบาลจึงได้อาศัยยารักษาจากอนามัยในพื้นที่เท่านั้น

ส่วนเรื่องเรียนนั้นตนไม่มีเงินเรียนหนังสือและซื้ออุปกรณ์การเรียนซึ่งปกติแล้วตนกำลังจะขึ้นเรียน ม.4 ก็เลยตัดสินใจให้น้องชายได้เรียนหนังสือก่อนตอนนี้น้องชายเรียนอยู่ ป.3 โรงเรียนบ้านคลองหวะ ส่วนตนนั้นก็จะทำงานหาเงินดูแลน้องชายและย่า ซึ่งเรื่องทำงานหาเงินนั้นต้องรอรุ่นพี่มาตามที่บ้านให้ไปทำงานจึงจะไปทำงานได้งานที่ไปทำนั้นก็จะเป็นงานก่อสร้าง ถ้าเป็นงานทั่วไปไม่มีใครกล้ารับสมัครเข้าทำงานเนื่องจากอายุยังไม่ถึง จึงได้แต่รอรุ่นพี่มาตามให้ไปทำงานก่อสร้างอย่างเดียว ตอนนี้ตนอยากเรียนหนังสือมากๆ อยากเรียนสายช่างยนต์เพราะชอบพอจบเรียนมาได้ทำงานจะได้มีเงินดูแลย่าและน้อง

อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงหน่วยงานจังหวัดช่วยลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมให้การช่วยเหลือครอบครัวสามยายหลาน ในด้านการรักษา ด้านการศึกษาและด้านที่พักอาศัยหากมีการซ่อมแซมบ้านให้สภาพดีขึ้น