วอนช่วยเหลือ สาวโรงงานนับ 100 ชีวิต ถูกเลิกจ้าง ยังไม่ได้เงินชดเชย หลังนัดจ่ายแล้วเงียบ

วันนี้ (31 พ.ค.) ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา น.ส.พรรณี อายุ 32 ปี พร้อมพนักงานบริษัท โซลานา สมาร์ท ไลต์ติ้ง จำกัด กว่า 100 ชีวิต ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียน ให้ทางสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดฉะเชิงเทราช่วยเหลือ หลังโรงงาน โซลานา สมาร์ท ไลต์ติ้ง ที่พวกตนทำงานอยู่ แจ้งเลิกจ้างพนักงานและปิดกิจการ เนื่องด้วยปัญหาด้านเศรษฐกิจตกต่ำ ผลกำไรจากการประกอบธุรกิจประสบภาวะขาดทุน จึงจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา และจะชดเชยตามสิทธิ์ของการเลิกจ้างให้กับพนักงานทุกคน ในวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่หลังจากผ่านเมื่อวานมา ไม่มีการตอบรับ หรือมีเงินเข้ามาในบัญชีให้กับพนักงานแต่อย่างใด จึงรวมตัวเดินทางมายื่นหนังสือในวันนี้

น.ส.พรรณี เปิดเผยว่า ตนเองทำงานที่โรงงานแห่งนี้ เป็นพนักงานชุดแรกๆ ที่โรงงานเปิดกิจการมาได้ประมาณ 3 ปี โดยโซลานา สมาร์ท ไลต์ติ้ง เป็นโรงงานที่ผลิตแผงโซล่าเซลล์ ร่วมลงทุนและหว่างไทย-จีน ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.7 ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ที่ผ่านมาก็มีการปรับลดโครงสร้างมาแล้ว ทั้งปรับลดสวัสดิการ ลดการจ้างงานล่วงเวลา จนไปถึงหยุดกิจการชั่วคราว จนกลับมาเปิดใหม่และบอกเลิกจ้างพนักงานทั้งหมดในครั้งนี้ หลังจากมีหนังสือเลิกจ้าง พวกตนเองก็ยังไม่สามารถไปหางานทำใหม่ได้ เนื่องจากเกรงว่ายังไม่พ้นสภาพพนักงานของโรงงานนี้ กลัวจะเกิดปัญหาไม่ได้เงินเลิกจ้าง

เนื่องจากโรงงานชี้แจงว่า จะจ่ายเงินเดือน เดือนสุดท้ายที่พวกตนทำ พร้อมกับเงินชดเชยในการเลิกจ้าง ในวันที่ 30 พ.ค.67 นี้ เป็นเงินเดือน และเงินชดเชยการทำงานไม่ครบ 3 ปี จะจ่ายค่าจ้าง 3 เดือน รวมเป็น 4 เดือน แต่ใครที่ทำงานครบ 3 ปี จะได้เงินชดเชย 6 เดือน รวมเงินเดือน จะเป็น 7 เดือน ซึ่งรวมๆแล้วก็เกือบ 1 แสนบาท ต่อคน ทำให้เดือนที่ผ่านมา ทุกคนรอเงินก้อนนี้ เพื่อไปจ่ายค่าบ้าน ค่ารถ บางคนกู้หนี้ยืมสินมา ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก่อน เพราะต้องการรอเงินก้อนนี้ เนื่องจากเดือนที่แล้วทุกคนไม่ได้รับเงินเดือน ทุกคนที่มาในวันนี้ต่างลำบาก บางคนค่าผ่อนรถยนต์เข้าเดือนที่ 3 แล้ว หากไม่มีจ่าย ก็คงถูกยึดรถ ซึ่งเมื่อพวกตนสอบถามไปยังโรงงาน ก็ได้รับคำตอบว่า ลูกค้ายังไม่จ่ายเงินในยอดที่สั่งซื้อไป จึงทำให้บริษัทขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินก้อนนี้มาจ่ายพนักงานกว่า 100 ชีวิต จึงทำให้พวกตนนัดรวมตัวกัน เดินทางมาที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้ช่วยเหลือ เป็นตัวกลางบังคับใช้กฎหมาย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ให้บริษัทจ่ายค่าจ้าง ค่าชดเชย ตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้