สังคม
รพ.ไม่ทน! แจ้งความสาวกุเรื่องตั้งท้องทิพย์ เพจดังโดนด้วย ‘เอกภพ’ ไม่กังวล ยันไม่มีเจตนาหลอกลวง
โดย petchpawee_k
8 ก.พ. 2568
837 views
รพ.เอาผิด รุ่งอรุณ กุเรื่องตั้งท้องทิพย์ เพจดังรับเรื่องก็ไม่รอด รอตร.สอบผัวเกี่ยวด้วยมั้ย หลังทำองค์กรเสื่อมเสีย ทำหมอเสียเวลาดูแลผู้ป่วย ด้าน ‘เอกภพ’ ยันไม่กังวลใจถูกแจ้งความ เพราะไม่ได้มีเจตนาหลอกลวง จะเชิญท่านธนกฤตมาเป็นพยาน พร้อมขอโทษหมอ และโรงพยาบาลปทุมธานี หากทำให้ไม่สบายใจ
จากกรณีที่มีหญิงคนหนึ่งอ้างว่าตนตั้งท้องและได้ไปฝากท้องที่ รพ.ปทุมธานี และอ้างว่าระหว่างที่ตั้งท้อง 7 เดือน ก็มีการตั้งท้องซ้อนขึ้นมาในถุงน้ำคร่ำอีก 1 ใบ
จนวันที่จะคลอดแพทย์กลับแจ้งว่า ลูกในท้องคนแรกไม่อยู่แล้ว แต่ไม่ได้ให้เหตุผล จึงมาร้องเพจสายไหมต้องรอดให้ตรวจสอบว่าเด็กหายไปได้อย่างไร ขณะที่ทางสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานีได้ตรวจสอบพบว่า หญิงคนดังกล่าวมารับบริการที่ รพ. 15 ครั้ง แต่ 11 ครั้งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตั้งท้องแต่อย่างใด
จากการตรวจสอบ OPD การ์ด พบว่าจากบัตรคิว 4 ครั้ง ที่หญิงคนดังกล่าวอ้างว่ามาฝากครรภ์ มีเพียงครั้งเดียวที่พบแพทย์จริงในวันที่ 19 สิงหาคม 2567 แต่เป็นการรักษาอาการปวดเมื่อยตัว คลื่นไส้ อาเจียน ไม่ใช่การฝากครรภ์ ส่วนการตรวจครรภ์ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 หลังพบว่าประจำเดือนขาด 2 เดือน
และระหว่างการแถลงข่าว ได้มีการให้หญิงคนดังกล่าวชี้ตัวสูตินารีแพทย์ ที่อ้างว่าตรวจครรภ์ให้ จากแพทย์ทั้ง 8 คนที่อยู่ในห้อง ผู้กล่าวหาระบุว่าไม่มีแพทย์คนดังกล่าว แต่มีสูตินารีแพทย์หนึ่งคนยืนยันว่าเป็นผู้ตรวจครรภ์ให้ในเดือนมกราคม 2568
ความคืบหน้าเมื่อวานนี้ (7 ก.พ.) นพ. นินนาท มุขดี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปทุมธานี พร้อมด้วยทีมกฎหมายของโรงพยาบาลเดินทางมายัง สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์กรณีที่เกิดขึ้น
โดย นพ.นินนาท มุขดี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปทุมธานี เปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีการแถลงข่าวร่วมกับทางผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงข้อเท็จจริงและผลการตรวจสอบของโรงพยาบาลไปอย่างครบถ้วนแล้ว แต่ข่าวการร้องเรียนก่อนหน้านั้นสร้างความเสื่อมเสียให้กับโรงพยาบาลอย่างมาก
ทั้งนี้ ในการแถลงชี้แจงของโรงพยาบาลถือว่ามีความชัดเจนว่าทางโรงพยาบาลได้ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา และให้ข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้กระทบต่อความรู้สึกของแพทย์ และยังพบว่าแพทย์บางรายมีผลกระทบตารางการให้บริการของผู้ป่วย โดยเฉพาะแผนกสูตินารีเวชกรรมที่จะต้องเลื่อนนัดหมายผู้ป่วยเพื่อมาตรวจสอบข้อเท็จจริงและร่วมแถลงข่าว และสำคัญที่สุดคือการสูญเสียโอกาสของผู้ป่วยบางรายที่จะต้องเลื่อนนัดหมายการเข้าตรวจ ทางผู้บริหารและบุคลากรซึ่งได้หารือและมีมติร่วมกันจึงมีความจำเป็นต้องแจ้งความกล่าวโทษร้องทุกข์กับทางเพจที่นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ รวมถึงต้องแจ้งความกล่าวโทษบุคคลผู้ซึ่งเป็นต้นเรื่องที่แจ้งยังเพจ
โดย นายแพทย์นินนาท กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเดิมนั้นตั้งใจจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ทางเพจ เนื่องจากเพจที่รับเรื่องร้องทุกข์ควรจะมีการตรวจสอบข้อมูลกับทางโรงพยาบาลก่อน ซึ่งทางโรงพยาบาลพร้อมเปิดเผย แต่สำหรับบุคคลหรือผู้ร้องทุกข์ โดยปกติแล้วทางโรงพยาบาลจะไม่ร้องทุกข์กล่าวโทษเพราะอาจเข้าใจได้ว่าเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือการสื่อสารผิดพลาด ระหว่างโรงพยาบาลกับผู้ป่วย แต่เนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการชี้แจงข้อมูลอย่างเต็มที่และใช้บุคลากรเกือบทั้งโรงพยาบาลมาชี้แจงรวมถึงให้ข้อมูลทางวิชาการเพิ่มเติมด้วย แต่บุคคลก็ยังไปนำเสนอข้อมูลร้องทุกข์ของตนเองอยู่ ทางโรงพยาบาลจำเป็นต้องกอบกู้ชื่อเสียงและความเชื่อมั่นของผู้ป่วย จึงมีความจำเป็นจะต้องเข้ามาแจ้งความกล่าวโทษร้องทุกข์
แต่อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ร้องเรียนซึ่งอีกสถานะคือผู้ป่วยของโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลยังยินดีให้การบริการตามสิทธิ์ทางกฎหมาย
ด้าน พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมดำเนินคดีกับเพจชื่อดัง พร้อมกับดำเนินคดี สาวท้องทิพย์ ในฐานความผิดนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้อาจจะเข้าค่ายข้อหาหมิ่นประมาทอีกด้วย
ส่วนในโครงการแฟลตปลาทองตึก 41 ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของน.ส.รุ่งอรุณ หญิงที่อ้างว่าตั้งครรภ์ เมื่อวานนี้ (7 ก.พ.) บ้านปิดสนิทไม่มีผู้ใดพักอาศัยอยู่ โดยชาวบ้านให้ข้อมูลว่าช่วงเช้าวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ยังพบเห็นรุ่งอรุณ อยู่ที่บ้านพักก่อนออกเดินทางไปที่รพ.ปทุมธานี เพื่อไปพูดคุยกับ ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข จากนั้นก็ไม่กลับมาที่บ้านพักอีกเลย
ขณะที่ทีมข่าวสอบถามไปยังคุณเอกภพ เหลืองประเสริฐ ระบุ หลังจากที่ตัวแทนโรงพยาบาลปทุมธานีทักเข้าไปแจ้งความเอาผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ว่า ในกรณีนี้ทราบจากข่าวตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมาแล้ว และไม่ได้กังวลอะไร และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มันชัดเจนว่าต้องมีเจตนาพิเศษจริงๆ หรือเป็นการตั้งใจหลอกลวงประชาชนให้เกิดความเสียหาย ซึ่งเรื่องการฟ้องร้องตนเองไม่ได้กังวลอะไร หากมีการฟ้องร้องจริงตนเองจะเชิญนายกองตรี ดร.ธนกฤต มาเป็นพยาน เพราะคุยกับท่านธนกฤต ตั้งแต่ต้นแล้วยืนยันกับท่านธนกฤตว่าสิ่งที่พูดไม่อาจจะเป็นความจริงได้ แต่อยากให้มาตรวจสอบตามสิ่งที่หญิงรายนี้เข้าใจก่อน เพราะฉะนั้นไม่ได้รู้สึกกังวลใจ และตนไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอะไร
แต่สิ่งที่กังวลคือตอนนี้ยังติดต่อคุณรุ่งอรุณไม่ได้ กังวลว่าจะเครียด และคิดมาก และก็มีแพทย์หลายท่านประสานมาที่ตนเองว่าอยากให้พาคุณรุ่งอรุณไปตรวจรักษาเบื้องต้นก่อน ก่อนจะดำเนินคดีกับเขา ซึ่งหากเขาเป็นผู้ป่วย ก็อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ไม่ค่อยจะถูกนัก หากดำเนินคดีกับผู้ป่วย ซึ่งหากเจอตัวก็จะประสานให้ไปพบกับจิตแพทย์
ซึ่งยังไม่สามารถติดต่อคุณรุ่งอรุณได้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าตัวไปที่โรงพยาบาล ทั้งนี้ ย้ำว่าหากเขามีเจตนาหลอกตนเองจริงคุณเอกก็จะดำเนินคดีกับเขาเช่นเดียวกัน แต่ถ้าหากป่วยก็จะต้องดำเนินการรักษา
พร้อมย้ำว่าตนเองกับทางแพทย์และโรงพยาบาลปทุมธานีไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน หากมีสิ่งใดที่ทำให้คุณหมอและโรงพยาบาลไม่สบายใจ ผมก็ขอโทษไว้ด้วย แต่ด้วยเจตนาแล้วไม่มีอย่างอื่น
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/EDDX6BDuXVg