สังคม

‘เอกภพ’ ยันบริสุทธิ์ใจ หิ้วพยานแจงปมดิไอคอน หลัง ‘ทนายบอสพอล’ เตรียมเอาผิด พ.ร.บ.คอมฯ

โดย thichaphat_d

26 ต.ค. 2567

101 views

‘ทนายบอสพอล’ เตรียมเอาผิด ‘เอกภพ สายไหมต้องรอด-พยานเท็จ’ ผิด พ.ร.บ.คอมฯ - หมิ่นประมาท ภายในสิ้นเดือนนี้ ด้าน ‘เอกภพ’ ยืนยันบริสุทธิ์ใจนำพยานให้ข้อมูลปมดิไอคอน หากถูกฟ้องพร้อมเข้าสู่กระบวนการ

วานนี้ 25 ต.ค.2567 เวลา 13.00 น. นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้ต้องหาในคดี The iCon ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าเยี่ยมบอสพอลในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯถึงกรณีเตรียมดำเนินคดีกับ 1 ออเดอร์ จากบอสพอล คือ การดำเนินคดีกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และพยานเท็จที่อ้างเรื่องโอนเงินคริปโตเคอเรนซี่

โดยระบุว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และเอกสารการมอบอำนาจการแจ้งความดำเนินคดีจากบอสพอล ซึ่งคาดว่าภายในเดือนนี้จะสามารถแจ้งข้อหานายเอกภพและพยานได้ โดยนายเอกภพจะแจ้งข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ส่วนพยานเท็จแจ้งข้อหาหมิ่นประมาท แล้วตนทราบมาว่าวันที่นายเอกภพนำข้อมูลและพยานมาแถลงข่าวหน้ากองปราบ แต่ไม่มีการเข้าไปพบหรือให้ข้อมูลกับตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บิ๊กเต่า ที่อ้างว่าพยานเท็จเป็นบุคคลใกล้ชิดมีการจ่ายเงินคริปโตเอาไปให้เทวดา ตนมองว่า ประเด็นนี้ทำไมต้องกุเรื่องขึ้นมาสร้างประเด็นพาดพิงไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองและทำให้คดีฉ้อโกงประชาชนกลายเป็นองค์กรอาชญากรรมมีการจ่ายสินบนให้หน่วยงานรัฐผมมองว่าแบบนี้มันไม่แฟร์กับดิไอคอน

วานนี้ (25 ต.ค.67) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า สำหรับเรื่องนี้ตัวเอง ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ 100 เปอร์เซ็นต์ เมื่อพยานรายนี้ให้ข้อมูลมา ตรวจสอบแล้ว พยานพร้อมแล้ว ตัวเองก็พาไปให้การกับตำรวจ ซึ่งพยานคนนี้ทางบก.ปปป.ก็เชิญให้ไปสอบปากคำเอง ตัวเองไม่ได้ยัดเยียดให้ตำรวจ

สำหรับเรื่องนี้ต้องขอบคุณทนายบอสพอล ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ ฟังคำสัมภาษณ์แล้ว ถือว่าเป็นคนมีเหตุผล ก็อยากยืนยันว่าตัวเอง มีแต่ความปรารถนาดี ไม่ได้มีเจตนาให้รายใคร เมื่อมีพยานมาแจ้งเรื่อง หรือมีพลเมืองดีมาแจ้ง ตัวเองมองว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญ ก็พาไปให้การกับตำรวจ เพราะทางเพจสายไหมต้องรอด เราไม่มีหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้ว

ข้อมูลของพยานรายนี้ ที่บอกว่าหนึ่งในบอส ของบริษัท The icon โอนเงินบาทหลายพันล้านบาท เปลี่ยนไปเป็นเงินดิจิทัล จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครตอบได้ว่า เงินก้อนนี้เป็นเงินของใคร ยังไม่มีใครให้คำตอบในเรื่องนี้ได้ และการพาพยานไปให้การ ตัวนายเอกภพ มองว่า ยังไงมันก็เป็นประโยชน์มากกว่า มันดีกว่าการไม่ทำอะไรเลย ถ้ามีคนมาแจ้งข้อมูล แล้วไม่ทำอะไรเลย ถ้าเวลาผ่านไป กลับกลายเป็นเรื่องจริง ก็จะโดนด่าอีก ว่าทำไมไม่ทำอะไรเลย ตัวเองมีหน้าที่รับข้อมูลรับมา แล้วก็ส่งต่อไป ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับบริษัท The icon ถ้าไม่ใช่ก็จบไป แค่นั้น

ส่วนเรื่องเทวดาทั้งหลาย ที่พยานรายนี้ยืนยันว่า บริษัท The icon คอยจ่ายเงินให้ตลอด เรื่องนี้มีคนคอยเตือนตลอด ว่าอย่าไปยุ่ง เพราะมันเกี่ยวกับคนหลายคน

แต่ตัวเองอยากเข้าไปยุ่งเอง เพราะรู้สึกสงสารผู้เสียหาย ตัวเองคิดแค่ว่าอยากทำความจริงให้ปรากฏ ลองคิดดูว่า ถ้ามันไม่มีเทวดามาเกี่ยวข้อง เรื่องนี้จะไม่ถูกปล่อยผ่านมาขนาดนี้

ถ้าเรื่องนี้ไปกระทบกับใคร ต้องกราบขอโทษด้วยความจริงใจ อยากจะบอกกับทุกหน่วยงานว่า เรื่องที่เกิดขึ้น มันผ่านมาแล้ว มันไม่ใช่เรื่องปัจจุบัน เพราะฉะนั้นแต่ละหน่วยงาน ต้องตรวจสอบย้อนหลังกันเอง

ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ทะเลาะกับตำรวจ ตัวเองออกมาช่วยด้วยซ้ำ ถ้ามองว่าได้รับความเสียหายจากสิ่งที่ตัวเองทำ ก็พร้อมให้เนินคดี

เมื่อถามว่า รู้สึกท้อใจหรือไม่ นายเอกภพ บอกว่า ก็มีบ้าง เพราะตัวเองจี้เรื่องเทวดารับส่วยมาตั้งแต่ต้น ต้องยอมรับว่าพวกส่วยต่างๆ มันกัดกินสังคม จึงอยากรื้อระบบ ฝากไปบอกทนายคนต่างๆ ของบริษัท The icon ดิ ว่ามาร่วมช่วยสังคม

ทนายคนไหนที่มีคลิปของข้าราชการ หรือนักการเมือง ที่มาเรียกรับเงินต่อจากบริษัท The icon ให้ออกมาเปิดเผยต่อสังคม เพราะคนพวกนี้ มีอิทธิพล ชี้นำสังคมได้ ปล่อยเอาไว้ไม่ได้ วันนี้เราไม่มีอะไรจะเสียไปมากกว่านี้แล้ว ส่วนใครที่มีข้อมูลเรื่องเทวดารับส่วย ให้ติดต่อมาที่สายไหมต้องรอด เราจะไม่คุยเรื่องเงิน แต่เราจะปกป้องพวกคุณ และนำพาพวกคุณไปแจ้งเรื่องต่อรัฐบาล



รับชมทางยูทูบที่ :   https://youtu.be/nCOoxiZsSfs

คุณอาจสนใจ

Related News