ทนายเผย รพ.ราชทัณฑ์ใส่ท่อหายใจ 'บุ้ง' ผิดตำแหน่ง ราชทัณฑ์ยันช่วยชีวิตตามมาตรฐานวิชาชีพ

ทนายเผย พบ รพ.ราชทัณฑ์ ผิดพลาดใส่ท่อหายใจในหลอดอาหาร บุ้ง ทะลุวัง วันส่งตัวมาที่ รพ.ธรรมศาสตร์ พบท้องบวมมีแต่ลม


ด้าน ราชทัณฑ์ยืนยัน บุคลาการทางการแพทย์ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ให้การรักษาและช่วยชีวิตบุ้ง ตามมาตรฐานวิชาชีพอย่างเต็มที่เต็มกำลัง


เมื่อวันที่ 18 พ.ค.67 ที่วัดสุทธาโภชน์ ลาดกระบัง กทม. นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณี การเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง ภายหลังจากญาติร้องขอให้ทีมแพทย์ผ่าชันสูตรพลิกศพ ว่า  


ตนยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ ทางกรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ยังไม่ได้ส่งรายละเอียดการรักษาพยาบาล น.ส.เนติพร ก่อนวันเสียชีวิต 5 วัน ที่เราขอไว้ตั้งแต่วันที่ น.ส.เนติพรเสียชีวิต คือวันที่ 14 พ.ค. ซึ่งวันนี้ (18 พ.ค.) ก็ผ่านมา 4 วันแล้ว ตนไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมกรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลราชทัณฑ์ จึงไม่จัดส่งรายงานการรักษาพยาบาลมา เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน และเราคิดว่ารายงานการรักษาเท่าที่ดูจากอาการของ น.ส.เนติพร 5 วันย้อนหลังไปอาจจะบ่งชี้ได้ถึงมาตรฐานการรักษาพยาบาลหรือไม่อย่างไร


นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า รวมทั้งยังได้ขอภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่ง รมว.ยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ก็ยืนยันว่ามีภาพ และได้เคยแถลงกับสื่อมวลชนไปหลายครั้งว่าเห็นเหตุการณ์อย่างไร ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ไม่ได้มอบให้กับทางเรา เหตุผลก็ไม่มีอะไรมาก เขาอ้างกฎกระทรวงและระเบียบว่า พี่สาวคนเดียวของ น.ส.เนติพร มอบอำนาจให้ทนายความไปขอไม่ได้ ทั้งที่เป็นทนายความดูแลเรื่องคดีของ น.ส.เนติพร มาตั้งแต่ต้น และบอกว่าต้องให้พ่อหรือแม่ขอหรือมารับเอง ตนก็ไม่รู้ว่าเขาไปเจอกันการรักษาที่บกพร่องอย่างไรถึงถ่วงเวลาไว้ขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วเขาได้นำข้อเท็จจริงเกี่ยวกับรายงานการรักษามาแถลงกับสื่อมวลชนหลายครั้ง โดยไม่ได้รับการขออนุญาตจากญาติผู้เสียชีวิตด้วยซ้ำ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเอากฎกระทรวงข้อไหนมาอ้าง ซึ่งตรงนี้ก็พบพิรุธ


"พ่อแม่ญาติพี่น้องกำลังวุ่นวายกับงานศพ หัวใจก็สลายอยู่แล้วที่ต้องมาเสียลูกสาวไป คุณอย่ามาทำแบบนี้เลย" นายกฤษฎางค์ กล่าว


นายกฤษฎางค์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้สิ่งที่ตนได้รับจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งให้ความร่วมมือตั้งแต่วันแรกที่ น.ส.เนติพร เสียชีวิตให้รายงานการรักษาพยาบาลตั้งแต่รับตัว น.ส.เนติพร เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ทราบว่าสาเหตุการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร ตามใบแจ้งการเสียชีวิตของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ น.ส.เนติพรเสียชีวิตด้วยหัวใจล้มเหลว ขาดอากาศ และไม่หายใจ เพราะตอนที่ น.ส.เนติพร ไปถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เวลา 09.30 น. ก็ไม่หายใจและไม่มีสัญญาณชีพแล้ว โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯตรวจพบว่า การรักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้วส่งมาโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ


นายกฤษฎางค์ กล่าวด้วยว่า รถพยาบาลทำผิดพลาด ด้วยการใส่ท่อช่วยหายใจผิดตำแหน่ง โดยปกติท่อช่วยหายใจจะต้องใส่ไว้ในหลอดลม เพื่อช่วยหายใจ และนำอากาศเข้าไปสู่ปอด เพื่อกระตุ้นให้ปอดทำงาน และนำออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงหลอดเลือดบีบเข้าไปที่หัวใจ แต่ในสภาพตามรายงานของแพทย์ที่รับตัว น.ส.เนติพร ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ พบว่าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ใส่ท่อช่วยหายใจไว้ในหลอดอาหาร ซึ่งมีหลักฐานยืนยันจากเอกสารที่จะทำขึ้น และไม่มีโอกาสเปลี่ยนแปลงจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ


นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ผลทำให้ลมเข้าไปที่ท้องและลำไส้ใน ขณะที่มีการผ่าชันสูตรและตนก็เข้าไปเป็นพยาน พบว่าท้องของ น.ส.เนติพร บวมมากและลำไส้เต็มไปด้วยลม ซึ่งมาจากการที่ใส่ท่อช่วยหายใจเข้าไปในท้องผ่านหลอดอาหาร แทนที่จะเข้าไปในหลอดลมที่จะนำไปสู่ปอดโดยตรง จึงทำให้การวัดค่าหายใจมีค่าลมหายใจเป็นศูนย์ เมื่อถึงมือแพทย์ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ตนไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่ให้รายงาน และปิดบังการรักษา ถามว่าโรงพยาบาลราชมทัณฑ์ใส่ท่อหายใจไปที่หลอดอาหารตั้งแต่อยู่บนเตียงหรือไม่ เรื่องนี้เป็นสาเหตุ น.ส.เนติพร เสียชีวิต


ทั้งนี้ เรายังค้นพบสารบางอย่าง ซึ่งเราจะวิเคราะห์ และแยกแยะจากผลตรวจเลือดต่อไป เรายืนยันว่า น.ส.เนติพร เริ่มรับอาหาร และมีการให้ยาและให้โพแทสเซียม เขาก็รับมาตลอด ทนายความไปเยี่ยมทุกวัน และไม่เคยได้รับทราบข้อมูลหรือแพทย์แจ้งว่าน้องปฏิเสธการรับยา และโพแทสเซียม หรือมีการให้อะไรที่ผิดพลาดจึงปกปิดรายงาน ยืนยันว่าจะไม่จบ เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้เสียชีวิตในการควบคุมดูแลของโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโดยโรงพยาบาลราชทัณฑ์  


ตนได้แจ้งให้พี่สาวของ น.ส.เนติพรทราบแล้ว เพื่อไปดำเนินการในชั้นศาลต่อไป พร้อมกันนี้ยังพบว่ามีค่าบางอย่างในตัวของ น.ส.เนติพรที่มีค่าสูง แต่ตอนนี้ทางหมอที่ขอตรวจดูอีกหน่อย ซึ่งตนยังบอกได้ว่าเป็นค่าอะไร และตนก็ตกใจว่ามันทำกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ


นายกฤษฎางค์ กล่าวอีกว่า ส่วนอาการของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน ตนบอกเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์เลยว่า อย่าเข้าไปบังคับให้ น.ส.ทานตะวันต้องเซ็นอะไรต่าง ๆ อย่าเข้าไปหลอกลวงให้น้องเซ็นพยานเอกสาร เพราะเขาเป็นพยานบุคคลคนหนึ่ง ตอนนี้ต้องดูแลความปลอดภัยของ น.ส.ทานตะวันให้มากที่สุด เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุอะไรขึ้นหรือไม่ อันนี้ไม่ใช่เรื่องตลก หรือเรื่องจินตนาการ หรือเป็นการวาทกรรม เพราะมีผู้ต้องขังในเรือนจำเสียชีวิตด้วยเหตุเหล่านี้มากมาย เพียงแต่จะประชาชนหรือไม่ การที่ศาลไม่ให้ประกันตัว น.ส.ทานตะวัน เพราะกลัวจะหนี ตนขอบอกเลยว่าตอนนี้ น.ส.ทานตะวันเดินได้ไม่ถึง 5 เมตร


ด้าน กรมราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงกรณีที่ ทนายฤษฎางค์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน กล่าวพาดพิงถึงทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทำการรักษาและการช่วยชีวิตนางสาวเนติพร หรือ บุ้ง อย่างผิดวิธี จึงอาจเป็นสาเหตุทำให้นางสาวเนติพรเสียชีวิต


กรมราชทัณฑ์ได้รับรายงานจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ชี้แจงกระบวนการรักษา และการช่วยชีวิตนางสาวเนติพร เมื่อวันที่ 14 พ.ค.67 ว่า ทีมบุคลากรทางการแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้ช่วยชีวิตนางสาวเนติพร ในภาวะวิกฤตตามมาตรฐานการรักษาพยาบาล โดยมีแพทย์ดำเนินการใส่ท่อช่วยหายใจ นวดหัวใจ พร้อมให้ยากระตุ้นหัวใจ ยากระตุ้นความดันโลหิตตามมาตรฐานการช่วยชีวิตขั้นสูง และทีมบุคลากรทางการแพทย์ให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดตลอดช่วงเวลา จนส่งตัวผู้ป่วยถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ


กรมราชทัณฑ์ขอยืนยันว่า ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ยังคงให้การดูแลรักษาผู้ต้องขังทุกรายตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในการช่วยชีวิตผู้ป่วย ล้วนแล้วแต่ได้มาตรฐานถูกต้องทุกประการ ตลอดจนกระบวนการการรักษาที่เป็นไปตามหลักวิชาชีพ ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ขอให้ติดตามข้อมูลทางการแพทย์ และผลการชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมเกียรติ เพื่อเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ต่อไปสำหรับประวัติการรักษาพยาบาลของนางสาวเนติพร ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้เตรียมพร้อมให้ญาติหรือทนายความที่ได้รับมอบอำนาจมารับเอกสารในวันเปิดทำการ

รับชมผ่านยูทูป : https://youtu.be/T0VQKh88YIg