บขส.แจงยิบดรามาหมอชิต อ้างบันไดเลื่อนเคยเกิดอุบัติเหตุ เลยต้องงดใช้ ‘สส.แบงค์’ ซัดตอบแบบปัดความรับผิดชอบ

บขส.ชี้แจงข้อกล่าวหาหลัง ส.ส.ก้าวไกล แฉความไม่เรียบร้อยของสถานีขนส่งหมอชิต 2 ยาว 14 ข้อ ถามความปลอดภัยพื้นฐาน ปชช.อยู่ตรงไหน ยันระบบสาธารณูปโภคใช้ได้ทุกจุดเตรียมยกระดับคุณภาพการให้บริการโดยเร็ว ระบุ บันไดเลื่อนเคยเกิดอุบัติเหตุจำเป็นต้องงดใช้ ยันไม่มีตั๋วผี

วานนี้ (26 ธ.ค.) นางสาวระพิพรรณ วรรณพินทุ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารการเดินรถ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า บขส. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจประเภทจดทะเบียนบริษัทตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เป็นการบริหารงาน เพื่อบริการประชาชนแบบไม่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณแผ่นดิน ขอชี้แจงต่อข้อกล่าวหาของคุณศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล กรณีพื้นที่การให้บริการของสถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต 2 มีความไม่เรียบร้อย ถึง 14 ประการ ขอเรียนข้อเท็จจริง

1.ข้อกล่าวหาต่อระบบโครงสร้างพื้นฐาน เช่น บันไดเลื่อนเสีย ลิฟต์ไม่ได้ให้บริการ ห้องปฐมพยาบาลปิด ห้องให้นมบุตรปิด จุดดับเพลิงเสีย ชานชาลาไม่มีห้องแอร์ บริษัทได้ดำเนินการบริหารงานสถานีขนส่งหมอชิต 2 ที่ได้เช่าที่จากการรถไฟมาถึงขณะนี้เป็นเวลา 26 ปี ให้เกิดความเรียบร้อย ปลอดภัยต่อผู้โดยสาร ถึงแม้ว่าอาคารรับรองผู้โดยสาร ชานชาลา จะมีอายุ และได้ปรับปรุงให้เกิดความปลอดภัยมาโดยตลอด โดยงบประมาณของบริษัท

โดยในปัจจุบันบริษัทจำเป็นต้องปิดบันไดเลื่อนชุดที่ติดตั้งมา 26 ปี เนื่องจากไม่สามารถหาอะไหล่ได้ และถึงแม้จะเปิดได้ ในช่วงเทศกาลก็จะปิดเพราะอาจเป็นอันตรายต่อประชาชนหากมีเหตุคนล้นอาคารชานชาลาในช่วงเทศกาล ส่วนลิฟต์ และระบบสาธารณูปโภค เช่น จุดดับเพลิง แอร์คอนดิชั่นที่อาคารผู้โดยสารนั้น ขอยืนยันว่าใช้งานได้ทุกจุด ส่วนห้องปฐมพยาบาลบริษัท เปิดให้บริการตลอด ห้องให้นมบุตร โดยขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ประจำห้อง เนื่องจากหากเปิดไว้ตลอดอาจเป็นจุดลับตาในการก่อให้เกิดเหตุอาชญากรรมได้

สำหรับในส่วนพื้นที่ทิ้งร้างนั้น เป็นพื้นที่เพื่อการพาณิชย์ อยู่นอกอาคาร และเป็นส่วนการให้บริการ เดิมเป็นจุดเชื่อมต่อกับเขตเดินรถที่ 8 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) แต่ในช่วงปี 2563-2566 ที่ผ่านมาไม่มีผู้เช่า บริษัทจึงทำการปิดพื้นที่ เพื่อเตรียมการพัฒนาโดยรื้อสิ่งปลูกสร้างออกทั้งหมดและพัฒนาเป็น Transpotation Hub ตามนโยบายของรัฐบาลให้เกิดการเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อโดยอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดทำผังและแบบการพัฒนาให้แล้วเสร็จใน1ปี

2.ข้อกล่าวหาในเชิงบริการ การเชื่อมต่อผู้โดยสาร บริษัทขอเรียนยืนยันว่า ตลอดระยะเวลาการให้บริการที่ผ่านมา ประชาชนสามารถเดินทางเชื่อมต่อเข้าสู่หมอชิต 2 ได้ โดยระบบรถโดยสารสาธารณะได้หลายสายและในช่วงตั้งแต่รัฐบาลได้เข้ามาบริหารประเทศได้มีนโยบายในการเชื่อมต่อและบูรณาการระบบการขนส่ง บริษัทจึงได้ประสานงานกับทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในการส่งผู้โดยสารขาเข้าโดยมีจุดแวะส่งที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

ปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการมาวันที่ 15 ธ.ค.2566 มีประชาชนใช้บริการการเชื่อมต่อในปัจจุบันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ บริษัทยังประสานงานกับ ขสมก. ในการจัดให้มีรถของ ขสมก. เข้ามาจอดในบริเวณชานชาลา ภายในบริเวณสถานี จำนวน 12 สาย ซึ่งได้เริ่มทดลองให้บริการตลอดเดือน ธ.ค.2566 มีประชาชนใช้บริการมากถึง 77,000 ราย และจะเพิ่มจำนวนสายทางเพิ่มขึ้น ในเส้นทางที่ประชาชนเดินทาง

สำหรับการปราบปรามผู้มีอิทธิพล วินแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์เถื่อน ทางบริษัทได้ดำเนินการมีหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีการดำเนินการจับกุมผู้บุกรุก ผู้กระทำความผิดกฎหมายในทุกวัน อย่างไรก็ตามบริษัทจะทำการจัดการขั้นเด็ดขาดต่อผู้กระทำความผิดผู้บุกรุกและดำเนินคดีอาญาอย่างเข้มงวดในทุกรายต่อไป

บริษัทขอเรียนว่ารัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ได้มีความห่วงใยต่อบริษัทที่ประสบปัญหาการขาดทุนในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากการเดินทางในระบบรถขนส่งสาธารณะระหว่างเมืองได้รับความนิยมลดลง ตลอดจนประสบปัญหาสถานการณ์โรคระบาด จนทำให้ประสบปัญหาการขาดทุนถึง 3 ปีซ้อน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาการให้บริการในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถฟื้นฟูสถานะทางการเงินไปสู่สถานะที่ดีขึ้น โดยการเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายสูงขึ้นมากกว่าปี 2565 ถึงประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่ในปัจจุบันบริษัทยังไม่มีหนี้สิน และพร้อมที่จะพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอาคาร ชานชาลา และสิ่งอำนวยความสะดวกตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการโดยเร็วที่สุดและขอน้อมรับข้อติชมจากทุกฝ่ายเพื่อนำมาปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ ให้อยู่ในระดับเป็นที่พึงพอใจของทุกฝ่ายต่อไป

นางสาวระพิพรรณ ยังกล่าวถึงกรณีการขายตั๋วราคาเกิน ว่าเป็นการสื่อสารที่มีปัญหา ซึ่งเส้นทางปกติสามารถรองรับได้ 30,000 คน แต่ช่วงเทศกาลต้องรองรับถึง 70,000 คน จึงต้องหารถนอกระบบ (รถเสริม) เข้ามาดูแลแต่ต้องมีมาตรฐานความปลอดภัย การอำนวยความสะดวก ซึ่งต้องได้รับการอนุญาตจากกรมขนส่งทางบก มีความชำนาญเส้นทาง มีประกันภัย

ดังนั้นการขายตั๋วของรถเสริมจะไม่สามารถรับคนจากปลายทางกลับมาได้ ต้องเดินทางเที่ยวเดียวแล้วกลับ (ตีรถเปล่ากลับ) จึงต้องมีการขายตั๋วในราคาที่สูงขึ้น แต่ไม่เกินราคาหรือตั๋วผี ไม่เช่นนั้นจะไม่มีผู้ประกอบการรายใดเข้าร่วมเพื่อให้บริการประชาชนในส่วนต่างนี้ ยืนยันว่าเป็นการขายตั๋วด้วยมาตรฐานปกติ และราคาที่สูงกว่าก็เป็นไปตามระเบียบที่ดำเนินการมาตลอด ดังนั้นหากประชาชนมีข้อสงสัยรบกวนถามมาที่  บขส.ก่อนที่จะเผยแพร่ลงโซเชียล

กรณีแท็กซี่และวิน จยย.เถื่อน นางสาวระพิพรรณ เผยว่า เป็นพฤติกรรมของมิจฉาชีพ และมีบางส่วนแต่งกายคล้ายญาติแล้วดึงกระเป๋าผู้โดยสารไป ซึ่งการเฝ้าระวังของเราอาจสังเกตได้ไม่ครบ  จึงขอให้ประชาชนใช้บริการรถสาธารณะที่มีการร่วมมือกับ ขสมก. ซึ่งปัจจุบันก็มีพนักงานคอยให้บริการอยู่ตามจุดต่าง ๆ แต่เพื่อความสบายใจ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจการของกรมฯ มาประจำจุดเพิ่มขึ้น 2 นาย หากพบว่ากระทำผิดจะมีการจับปรับและถอนใบอนุญาตทันที และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.บางซื่อ ตรวจตราอยู่เช่นกัน

-------------------------------------------

'แบงค์ ศุภณัฐ' ร่ายยาว บขส. แจงย้อนแย้ง-ขาดความชัดเจน ซัดทำงานไร้แบบแผนบวกขาดทุนก่อนหน้าทำสถานีเสื่อมโทรม ให้คะแนน 5 เต็มสิบ ตอบคำถามปัดความรับผิดชอบ สะท้อนไม่เคยลงพื้นที่ งง ก่อนหน้า 3 เดือนไม่เจอเจ้าหน้าที่ พอโพสต์ลงโซเชียลทีทำงานพรึ่บ ถามแบบนี้เป็นผักชีโรยหน้าหรือไม่ ขู่ถ้ายังเงียบเตรียมชงเข้า กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ กางโต๊ะคุยทุกหน่วยงานพร้อมกัน

นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กรุงเทพฯ เขต 9 (หลักสี่ จตุจักร บางเขน) พรรคก้าวไกล เปิดเผยกับทีมข่าวการเมืองช่อง 3 ว่า อันดับแรก เรื่องบันไดเลื่อนเสียที่ชี้แจงมา มันเสียมาตั้งนานแล้วไม่ใช่แค่เพิ่งเสีย ประชาชนสะท้อนมาโดยตลอด

“บขส. เพิ่งจะมาทราบเหรอครับว่าอะไหล่ไม่มี อย่าลืมนะครับว่าเมื่อเดือนเมษายน ทาง Managing Director (MD-กรรมการผู้จัดการ) ของ บขส. ก่อนที่ท่านจะลาออกไป ก็เป็นคนพูดเองว่าหลังจากทำการปรับปรุงซ่อมแซม แต่ ณ วันนี้ ทางรอง MD บอกว่าไม่มีอะไหล่ ก็แปลว่าซ่อมแซมไม่ได้ แปลว่าท่านต้องซื้อใหม่ถูกหรือไม่ ท่านทำงานกันมา 8 เดือน ท่านต้องรู้ตั้งนานแล้วว่าไม่มีอะไร ต้องมีคนใดคนหนึ่งย้อนแย้งกันแน่ ผมว่า” นายศุภณัฐ กล่าว

นายศุภณัฐ กล่าวต่อว่า ตอนที่ตนลงพื้นที่ เจ้าหน้าที่หน้างานก็ตอบอีกแบบหนึ่ง ไม่ได้ตอบแบบรอง MD เขาบอกว่าข้างใต้บันไดเลื่อนเป็นโพรง มีความเสี่ยง

ส่วนที่มีการชี้แจงว่าเพื่อเตรียมเป็น Hub ในการเดินทางใหม่ นายศุภณัฐ กล่าวว่า ก็ดี ถ้าทำได้จริง เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวหลุดออกมาว่าจะย้ายหมอชิตบ้าง อะไรบ้าง แต่ก็ไม่มีการฟันธงว่าจนแล้วจนรอดจะเอาอย่างไร

เมื่อถามว่ามองว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลอาจย้ายขนส่งมวลชนไปอยู่จุดเดียวที่บางซื่อ ทำให้ลดบทบาทของหมอชิต 2 ลง นายศุภณัฐ กล่าวว่า ถ้าจะทำแบบนั้น รัฐบาลต้องมีความชัดเจนว่าจะย้าย แต่สิ่งหนึ่งที่สามารถทำได้และไม่ได้ใช้เงินมาก เช่น การทำป้ายบอกทาง

“ผมคิดว่าลงทุนทั้งหมด ติดป้ายไม่เกิน 30,000 บาท ทำได้ทั้งหมดแล้ว อย่างน้อยก็ 30 จุด ป้ายอันละพันบาท ไม่ได้แพงอะไร ถูกไหมครับ ประชาชนจะได้ไม่สับสน”

เรื่องของวินเถื่อน ท่านต้องแก้ได้อยู่แล้ว เพราะท่านมีหน้าที่ปกป้องประชาชน ไม่ใช่จะย้ายฮับ แล้วปล่อยให้วินเถื่อนโก่งราคา มันปัดความรับผิดชอบไม่ได้ ส่วนห้องให้นมบุตรและห้องพยาบาล ช่วงที่ตนไปเจอเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ถูกปิดทั้งหมด สัปดาห์ที่แล้ว ทีมงานของตนไปก็ยังปิดอยู่ แต่ตนเข้าใจว่าช่วงเทศกาลก็อาจจะมีการเปิด ซึ่งก็ไม่มีอะไร ดีแล้ว เป็นผลประโยชน์ของประชาชน ก็ขอให้เปิดตลอด ไม่ใช่แค่ช่วงเทศกาล แล้วหลังจากนั้นก็ปิดเหมือนกัน

เมื่อถามว่าเรื่องนี้สะท้อนการทำงานของรัฐบาลอย่างไรบ้าง นายศุภณัฐ กล่าวว่า เรื่องนี้อาจจะมองได้ว่า พอช่วงเทศกาลหรือช่วงที่ประชาชนให้ความสำคัญมาก ท่านก็จะทำ แต่พอไม่สำคัญมากท่านก็ไม่ทำ 3 เดือนที่แล้วตนได้ยื่นหนังสือไปที่หน่วยงาน แต่ผ่านมาแล้วก็ไม่ได้ตอบกลับ จนกระทั่งตนส่งหนังสือย้ำไปอีกรอบ ก็หมายความว่าทางหน่วยงานไม่ได้ให้เกียรติรัฐสภาเลย

เมื่อถามว่าให้คะแนนเท่าไหร่กับการจัดการปัญหานี้ นายศุภณัฐ กล่าวว่า ให้ 5 เต็ม 10 อย่างน้อยก็พยายามชี้แจง แต่ตนพูดตรงๆ เป็นการตอบที่ปฏิเสธ ไม่ได้น้อมรับอะไรเลย

“มันเป็นปัญหาหมักหมมมาตั้งนานแล้ว อยู่ดีๆ ท่านจะบอกปัดๆ และเป็นการตอบที่แสดงว่าท่านไม่ได้ลงพื้นที่ เพราะอย่างเช่น ตัวตำแหน่งถังดับเพลิงที่ผมลงพื้นที่มีส่วนที่เสียหาย ท่านยืนยันว่ามันครบ มันครบได้ยังไงทั้ง 3 อาคารผู้โดยสาร เมื่อวานผมเห็นอยู่ ไม่มีถังดับเพลิงด้วยซ้ำในกล่องสีแดง ตรงที่ขายตั๋วมีแอร์อยู่แล้ว ใช่ แต่ประชาชนเขาไม่อยู่กันครับ เขาอยู่ตรงชานชาลาที่รอขึ้นรถครับ ซึ่งตรงนั้นมันไม่มีแอร์ครับ ที่เขานั่งรอบนฟุตบาธ รอกันเป็นพันคน ท่านต้องไปแก้ปัญหาตรงนั้น” นายศุภณัฐ กล่าว

เมื่อถามว่าแม้นายศุภณัฐจะอยู่ใน กมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ ไม่ใช่ กมธ.คมนาคม แต่จะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงได้หรือไม่ นายศุภณัฐ กล่าวว่า ได้ ตนอยากได้แผนการแก้ปัญหาที่ชัดเจน เพราะเรื้อรังมานานแล้ว แต่ไม่มีใครเคยขีดเส้นใต้

“ความชัดเจนในแผนงานมันไม่มี และท่านก็เจอกับปัญหาภาวะขาดทุนมาก่อนหน้านี้ ผสมรวมกันก็กลายเป็นว่าทำงานอย่างไร้แบบแผน ปล่อยตามยถากรรมไปจนกระทั่งมีข่าว ... ไม่แน่ใจเขาอาจจะลงพื้นที่มาก่อนหรือไม่ ไม่รู้ แต่มันอยู่ในช่วงเทศกาล พอโพสต์ลงโซเชียล ปกติผมไม่เคยเจอเจ้าหน้าที่เยอะขนาดนี้ เท่าที่ผมไป 3 เดือนที่แล้ว ผมหาเจ้าหน้าที่ไม่เจอ ส่วนใหญ่ก็มีพนักงานขายตั๋ว ไม่ได้เจอเจ้าหน้าที่ 7-9 คน เต็มไปหมดเยอะขนาดนี้ มันแสดงออกว่าอาจจะเป็นผักชีโรยหน้าหรือไม่” นายศุภณัฐ กล่าว

นายศุภณัฐ ย้ำว่า หากยังเงียบตนจะนำเข้า กมธ.ในสภาเพื่อเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง เรียกมาพร้อมกันให้ครบทุกหน่วยงาน

นายศุภณัฐ ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า สิ่งเหล่านี้คือปัญหาที่ประชาชน ทั้งที่เดินทางออกต่างจังหวัดและกลับเข้ามากรุงเทพฯ ต้องพบเจออยู่เป็นประจำ แต่ไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ซึ่งสะท้อนว่า บขส. รวมถึงกระทรวงคมนาคม ไม่ได้ลงมารับรู้และรับทราบปัญหาของพี่น้องประชาชนเลย พร้อมตั้งคำถามว่า ในเมื่อสถานีขนส่งหมอชิต 2 คือ “หน้าด่าน” ของเมืองรอง การมีสถานีขนส่งผู้โดยสารที่เสื่อมโทรมเช่นนี้ จะถือเป็นการทำลายเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเมืองรองหรือไม่ โดยเฉพาะเมืองที่ไม่มีเครื่องบินหรือรถไฟเดินทางไปถึง แล้วอย่างนี้ นโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองจะเกิดขึ้นได้อย่างไร

รับชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/XTowDnV8fMg