สังคม

ตร.เตรียมแจ้งข้อหา 2 คน แม้ยังหาตัวเด็กไม่เจอ - 'มูลนิธิกระจกเงา' โพสต์ข้อความแทนใจ 'น้องต่อ'

โดย weerawit_c

19 ก.พ. 2566

62 views

สำหรับคดีนี้ ผ่านไปหลายวันแล้วการติดตามตัวไร้วี่แวว แต่ตำรวจมีเบาะแส จากการลงพื้นที่และสอบปากคำ



โดยพบว่า ในสัปดาห์หน้า จะมีการแจ้งข้อหา 2 คน มีคดีพากผู้เยาว์ ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ส่วนน้องต่อ ตำรวจยังคงตามหาต่อไป แม้จะไม่เห็นตัว หรือร่างของน้อง แต่ตำรวจเชื่อว่าจะสามารถคลี่คลายคดีนี้ได้ จะทำทุกทางเพื่อหาคำตอบว่าเด็กหายไปไหน



ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะมีการนำเด็กไปโยนทิ้งแม่น้ำท่าจีน หรือจุดที่มีสัตว์เลื้อยคลานและเด็กอาจจะถูกกินไปแล้วจึงหาไม่เจอ



เรื่องนี้ ชุดสืบสวนให้ข้อมูลว่า ก็มีสิทธิเป็นไปได้ แต่การที่สัตว์เลื้อยคลานกินเด็กไป ต้องหลงเหลือเสื้อผ้า ที่เด็กใส่ และบริเวณนั้นต้องมีชิ้นส่วนหลงเหลือบ้าง แต่กลับไม่พบอะไร อีกทั้งการประชาสัมพันธ์เบาะแสต่างๆ ก็ยังไม่มี ทำให้ตอนนี้ชุดสืบสวนเรียกว่าทำงานเหมือนงมเข็มในมหาสมุทรและคนที่รู้ดีที่สุด ของการหายตัวของน้องต่อ ก็มีเพียงแค่พ่อและแม่เท่านั้น



อย่างไรก็ตามมีข้อมูลจากชุดสืบสวนที่ลงพื้นที่มาแกะรอยไล่กล้องวงจรปิดในชุมชนอีกครั้ง ย้อนกลับไป 7 วันก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ เบื้องต้นพบ “หลักฐานใหม่” สามารถจับภาพได้อย่างชัดเจนว่ามีรถของบุคคลใดบ้างที่ขับเข้า-ออกบริเวณบ้านหลังเกิดเหตุ  โดยตอนนี้ทราบว่ามีทั้งหมด 25 คัน เป็นรถกระบะ 1 คัน รถพ่วงข้าง 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 23 คัน ซึ่งจากการตรวจสอบแล้ว รถกระบะ 1 คัน เป็นของสารวัตรกำนันในพื้นที่ แต่รถคันอื่นๆ อยู่ระหว่างตรวจสอบและคัดทีละคันทีละภาพว่าเป็นของบุคคลใด ประกอบกับจากการสังเกตลักษณะของการขับรถ “ไม่พบพิรุธ” เพราะทุกคันวิ่งด้วยความเร็ว ไม่ได้ชะลอจนผิดสังเกต แต่อย่างไรก็ตามยังต้องตรวจสอบเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง



นอกจากนี้ยังปรากฎภาพพระสงฆ์ 1 รูป ที่เดินเข้ามาบิณฑบาตรภายในซอย ในช่วงเวลา 06.51 น. จริง ตามคำบอกเล่าของพยานในพื้นที่ที่เคยให้กันก่อนหน้านี้



ความคืบหน้าการหายตัวปริศนา ของน้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือน ที่หายออกบ้านพัก บ้านหินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม  ขณะที่นอนหลับกับแม่ เมื่อวันที่ 5 ก.พ ที่ผ่านมา



เป็นเวลา 14 วันแล้วที่ตำรวจชุดสืบสวนเรียกว่าระดมมาทั้งภาค 7 ทั้งเดินเท้าค้นหา และกระจายกำลังออกสืบสวนสอบสวน แต่ก็ไร้วี่แวว



วานนี้ช่วงเย็น พันตำรวจเอก สุธี วรรณสูตร ผู้กำกับการ สภ.บางหลวง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อบต.หินมูล นำรถกระเช้า ไปค้นหาหลักฐานบริเวณป่าหญ้าริมเเม่น้ำท่าจีน ระยะทางห่างจากบ้านน้องต่อ 2 กิโลเมตร หลังจากมีชาวบ้านในระเเวกดังกล่าว ได้กลิ่นเหม็นเน่า จึงเดินทางมาตรวจสอบให้สิ้นข้อสงสัย



พบว่า บริเวณดังกล่าวลักษณะเป็นป่ารก มีต้นเพ็กขึ้นปกคลุมเป็นจำนวนมาก พื้นดินเต็มไปด้วยโคลน ไม่สามารถเดินปูพรมได้ และในพื้นที่ป่า มีแต่ตัวเงินตัวทอง และงูเหลือมอาศัยจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงใช้วิธี ขึ้นไปบนกระเช้า ความสูง 12 เมตร เพื่อมองหารอยยุบของต้นหญ้า หรือร่องรอยการทิ้งวัตถุบางอย่าง ใช้เวลาค้นหาประมาณ 1 ชั่วโมง เเต่ยังไม่พบความผิดปกติ เเละวันนี้ก็ไม่ได้กลิ่นเเล้ว



ทีมข่าวได้พูดคุยกับชาวบ้านที่เป็นคนได้กลิ่นคนเเรก คือ นายประสาท กองเเก้ม อายุ 60 ปี ซึ่งบ้านอยู่ท้ายซอย ห่างจากจุดที่ได้กลิ่น ระยะทาง 400 เมตร



นายประสาท เปิดเผยว่า ถนนเส้นนี้จะเป็นทางตันและเปลี่ยว หากไม่ใช่คนในพื้นที่ จะไม่รู้จักเส้นทางนี้ โดยช่วงวันที่ 7 หรือวันที่ 8 กุมภาพันธ์ (จำวันเเน่ชัดไม่ได้) เวลาประมาณ 2 ทุ่ม ได้ยินเสียงหมาเห่า ซึ่งเป็นหมาที่ตนเลี้ยงไว้ที่บ้าน 2 ตัว ตอนนั้นตนเองก็เอาไฟออกมาส่องดูรอบๆ บ้าน เเต่ไม่พบความผิดปกติ



จนกระทั่งวันถัดมา คาดว่าวันที่ 8 - 9 กุมภาพันธ์ ตนเองขี่รถจักรยานยนต์ช่วยออกตามหาน้องต่อ ผ่านถนนเส้นนี้ ซึ่งเป็นทางเข้าบ้าน ปรากฎว่าได้กลิ่นเหม็นเน่า เเต่ตอนนั้นคิดว่าเป็นกลิ่นซากสัตว์ เพราะบริเวณนี้มีสัตว์เลื้อยคลานจำพวกตัวเงินตัวทองอยู่เป็นจำนวนมาก และกลางคืนเป็นทางเปลี่ยว ไม่มีไฟส่องสว่าง ซึ่งตนได้กลิ่นอยู่ราว 3 - 4 วัน กระทั่งมีผู้ใหญ่บ้านได้เข้ามาถามเบาะเเส ว่าเห็นใครผ่านมาเเถวนี้ช่วงเด็กหายหรือไม่ ตนเองก็ให้ข้อมูลว่าได้ยินเสียงหมาเห่า เเละได้กลิ่นเหม็นเน่า เเต่ไม่ทราบว่าจะเกี่ยวข้องกันหรือไม่ วันนี้ทางเจ้าหน้าที่จึงเข้ามาตรวจสอบ เเต่ก็ยังไม่พบอะไร



ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก 'มูลนิธิกระจกเงา' ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า "ไม่ว่าผมจะมีลมหายใจหรือจากโลกใบนี้ไปแล้วก็ตาม เรื่องราวของผมและคนรอบตัวผม กำลังถูกพูดถึงในโลกออนไลน์

โลกที่ผมสงสัยว่า พวกเขาห่วงใยผมจริงๆ หรือไม่ ผมมีพ่อตามชื่อในเอกสารราชการ แต่มีคนประกาศให้โลกรู้ว่า พ่อไม่ใช่พ่อที่แท้จริงของผม ผมอาจไม่อยากรับรู้เรื่องนี้จากคนอื่น ผมควรรับรู้เพียงในครอบครัวของผม และในเวลาที่เหมาะสม นั่นคือสิทธิพื้นฐานที่ผมควรได้รับจากคนที่ทำตัวเหมือนห่วงใยผม



ไม่ว่าผมจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่คนรอบตัวผมได้ตายทั้งเป็นไปแล้ว ตายจากคำดูหมิ่นดูแคลน ตายจากความยุแยงให้เกลียดชังกัน สุดท้ายแล้วทุกคนจะกลับไปนอนที่บ้าน ส่วนบ้านของผมน้้น…

อาจเป็นบ้านที่ไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิม



แม่ผมอาจตกเป็นผู้ต้องสงสัย ถึงการหายตัวไปของผม หรือมีใครอื่นพาผมออกจากบ้านไป นั่นเป็นสิ่งที่ผมก็บอกไม่ได้ ผมรู้เพียงว่า เด็กหญิงอายุเพียง 17 ปี ที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตด้วยวัยเพียงเท่านี้ คือ แม่ที่คลอดและเลี้ยงผมมา 8 เดือนเต็ม และคือเด็กสาวที่ถูกพิพากษาในทุกการกระทำ แต่กลับไม่มีใครมองว่า แม่ผมถูกใครกระทำต่อชีวิตมาบ้าง ผมขอขอบคุณทุกท่าน ที่ช่วยตามหาผมด้วยความเป็นห่วง ถ้าผมยังมีชีวิตรอดกลับไป ให้คิดเสมือนว่าผมคือลูกของคุณ

คือ เด็กคนหนึ่ง ที่ต้องเติบโตต่อไปบนโลกใบนี้."


ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/_X6QeBnCKAg

คุณอาจสนใจ

Related News