สังคม

คุมตัว 'ด.ต.เชาวลิต' ขโมยปืนหลวง ส่งฝากขัง อ้างไม่ได้นำไปขายส่วนมากจำนำเล่นพนัน

โดย weerawit_c

22 ต.ค. 2565

407 views

จากการกรณี ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 1 ควบคุมตัว ด.ต.เชาวลิต พุ่มขจร เจ้าหน้าที่ธุรการ ทำหน้าที่เบิกจ่ายอาวุธปืนของ สภ.ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี หลังพบว่าเป็นผู้ที่นำปืนของราชการไปขายกว่า 159 กระบอก สารภาพไม่ได้นำไปขาย ส่วนมากนำไปจำนำเพื่อนำเงินมาใช้จ่าย ทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี การพนันเล่นบ้างแต่ไม่ได้ติด



ล่าสุดสามารถติดตามปืนคืนมาได้แล้ว 60 กระบอก เป็นปืนที่ใส่กระเป๋านำมาทิ้งไว้หน้าสโมสรตำรวจ 27 กระบอก ใส่กระสอบนำมาทิ้งไว้ในพื้นที่ สภ.ปากเกร็ด อีก 9 กระบอก เป็นปืนพกสั้นยี่ห้อก๊อกและซิกซาวเออร์ ไม่มีเครื่องกระสุน สภาพปืนยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเสียหาย รวมเป็น 36 กระบอก ส่วนอีก 24 กระบอก เป็นการติดตามจากเป้าหมาย ทำให้ขณะนี้ตำรวจยังติดตามปืนอีก 99 กระบอกที่หายไป



สำหรับอาวุธปืนที่หายไป รวม 159 กระบอก เป็น ปืนยาว M16 จำนวน 25 กระบอก และปืนสั้นจำนวน 134 กระบอก ในจำนวนนี้มีปืนกล็อก 24 กระบอก ปืนซิกซาวเออร์ 68 กระบอก และปืนลูกโม่สมิธแอนด์เวสสัน 42 กระบอก



วานนี้ (21 ต.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด คุมตัว ดาบตำรวจเชาวลิต พุ่มขจร ผบ.หมู่งานธุรการ สถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาขโมยปืนของหลวงไปขายต่อ ไปขออำนาจศาลศาลทุจริตฯ ภาค 1 จังหวัดสระบุรี ฝากขังผัดแรก หลังจากทำการสอบปากคำตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 20 ต.ค.ต่อเนื่องมาจนถึงช่วงเช้าวานนี้



ซึ่งถูกแจ้งข้อหา ความผิดตาม ม.147 เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนฯ / ม.157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ / ปลอมแปลงเอกสารทางราชการและลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ รวมทั้งหมด 4 ข้อกล่าวหา พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจาก เป็นคดีร้ายแรงและผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนี



โดยระหว่างคุมตัวขึ้นรถ ดาบตำรวจเชาวลิต ไม่ตอบคำถามนักข่าว ทั้งเรื่องระยะเวลาที่ขโมยปืนออกไปและเงินที่ได้จากการขายปืน มีอะไรที่จะฝากถึงผู้บังคับบัญชาหรือไม่ แต่นักข่าวสังเกตเห็นว่า ดาบตำรวจเชาวลิต มีสีหน้าเคร่งเครียด



ทั้งนี้ ดาบตำรวจเชาวลิต ให้การเพิ่มเติมว่า ปืนที่ขโมยไปเกือบทั้งหมดนำไปจำนำในพื้นที่ กทม.และนนทบุรี ไม่ได้นำไปขาย เนื่องจากเป็นปืนสำหรับให้ตำรวจใหม่ใช้ในการปฏิบัติภารกิจ แบบใช้แล้วคืนเป็นรายวัน ซึ่งเงินที่ได้นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ส่วนเรื่องการพนัน ดาบตำรวจเชาวลิต รับสารภาพว่าเล่นจริงแต่ไม่ได้ติด และจำไม่ได้นำปืนออกไปทั้งหมดกี่กระบอก



ขณะที่ พลตำรวจตรี ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี บอกภายหลังสอบปากคำดาบตำรวจเชาวลิตด้วยว่า จากการสอบปากคำ ดาบตำรวจเชาวลิต ค่อนข้างเครียด แต่ก็ให้ความร่วมมือในการให้ปากคำเป็นอย่างดีไม่มีปัญหาอะไร สำหรับดาบตำรวจเชาวลิต



พล.ต.ต.ไพศาล ยอมรับว่า เส้นทางการหายของปืนมีการจำนำและขาย ซึ่งมีความยากลำบากในการติดตามกลับมา แต่ตำรวจจะพยายามตามกลับมาให้ได้ แต่ขณะนี้ก็สามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลผู้รับซื้อปืนได้จำนวนมากแล้ว และเชื่อว่าจะมียอดเพิ่มขึ้น โดยมีประชาชนทยอยสอบถามข้อมูลกับตำรวจที่จะนำปืนมาคืน และฝากถึงประชาชนว่าคนไหนที่ครอบครองสามารถสังเกตได้ง่าย จะมี “ตราสัญลักษณ์โล่ตำรวจ” ก็ขอให้นำมาคืน ส่วนจะพิจารณาโทษหรือไม่นั้นต้องสอบปากคำถึงเจตนาในการได้มาของปืนก่อน



ส่วน สภ.ปากเกร็ด จะมีอาวุธปืนมากน้อยเพียงใด เรื่องนี้ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะถือเป็นความลับ แต่ยังมีปืนอีกจำนวนมากที่ยังคงอยู่ในคลังอาวุธ สำหรับมูลเหตุปืนหายจากคลังเก็บอาวุธ พล.ต.ต.ไพศาล เปิดเผยว่า มีพลเมืองดีมาแจ้งข้อมูลให้ตนทราบว่ามีปืนจาก สภ.ปากเกร็ด สูญหาย จึงเร่งตรวจสอบโดยใช้เวลาระยะหนึ่ง และพบว่าปืนสูญหายไปจากคลังจริง จึงสืบสวนกระทั่งมีการขอศาลอนุมัติออกหมายจับ ดาบตำรวจเชาวลิต ที่เป็นผู้ก่อเหตุ



ขณะที่ พลตำรวจโท จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 เปิดเผยว่า ดาบตำรวจ เชาวลิต สารภาพว่า ทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี โดยจัดทำเอกสารเท็จว่า เบิกปืนให้กับกำลังพล สภ.ปากเกร็ด นำไปใช้ ทำให้ผู้บังคับบัญชา ตรวจสอบไม่พบว่าปืนหายไป จากนั้นทยอยนำปืนออกมาจากคลังทีละ 2 ถึง 4 กระบอก ไปจำนำและขาย ให้กับคนคุ้นเคยในวงพนัน รวม 11 คน และปืนก็ถูกขายต่อไปอีกทอด ส่วนเงินที่ได้จะนำไปใช้หนี้พนันและใช้จ่ายส่วนตัว



หลังศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายค้นให้ชุดสืบสวน เข้าตรวจสอบพื้นที่ 9 จุดเป้าหมายตามที่ ดาบตำรวจเชาวลิต อ้างว่าเป็นจุดที่นำปืนไปจำนำให้กับผู้รับซื้อ ซึ่งพื้นที่เป้าหมายทั้ง 9 จุด ตามอ้างนั้น ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ กรุงเทพมหานครและนนทบุรี ส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยของประชาชน ไม่เกี่ยวข้องกับร้านค้า ร้านทอง หรือโรงรับจำนำตามที่มีข่าวปรากฎ ส่วนกลุ่มผู้ซื้อและรับจำนำจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาหรือไม่นั้น ประเด็นนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบและยังไม่มีความเชื่อมโยงหรือข้อมูลกับกลุ่มผู้ซื้อขายต่างประเทศ



ส่วนกรณีที่ มีผู้นำเอาปืนจำนวน 27 กระบอก ใส่กระเป๋าขนาดใหญ่ มาวางทิ้งไว้ที่หน้าสโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต อยู่ระหว่างส่งให้กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อนำหลักฐานมาขยายผลทางคดีต่อไป ขณะที่ปืนที่เหลือ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เชื่อว่าจะสามารถติดตามกลับคืนมาได้เกือบทั้งหมด



ทีมข่าวไปที่ห้องพักของ ดาบตำรวจเชาวลิต ซึ่งเป็นแฟลตตำรวจ อยู่ใน สภ.ปากเกร็ด มีหมายจับติดอยู่ที่ประตูหน้าห้อง เพื่อนตำรวจที่อาศัยอยู่แฟลตเดียวกัน ไม่ขอให้สัมภาษณ์แต่ให้ข้อมูลว่า ดาบตำรวจเชาวลิต อาศัยอยู่คนเดียว นานๆ ทีจะเจอกันเพราะต่างคนต่างปฏิบัติหน้าที่ เจ้าตัวเป็นที่รู้จักของตำรวจทุกนายในโรงพักเพราะทำหน้าที่ธุรการ ที่ผ่านมาไม่มีใครทราบว่าติดพนันหรือมีปัญหาการเงิน ดาบตำรวจเชาวลิต ไม่เคยเล่าให้ฟัง “ไม่น่าเลยเสียดายตำรวจดีๆ”



15.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้นำตัว ดาบตำรวจเชาวลิต พุ่มขจร อดีต ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.ปากเกร็ด ขึ้นรถตราโล่แบบตู้ทึบของ สภ.ปากเกร็ด มีรถตราโล่ของของ สภ.ปากเกร็ด ขับนำหน้า จำนวน 2 คัน มีกำลังตำรวจ 6 นาย ควบคุมตัว ดาบตำรวจเชาวลิต ส่งฝากขังที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 จ.สระบุรี



โดยพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้คัดค้านการประกันตัว ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 จ.สระบุรี ใช้เวลาพิจาณาคดีประมาณ 45 นาที แล้วส่งตัว ดาบตำรวจเชาวลิต ฝากขังผลัดแรก ที่เรือนจำ จ.สระบุรี โดยมีรถของเรือนจำ จ.สระบุรี มารับตัว ดาบตำรวจเชาวลิต ซึ่งไม่มีญาติหรือเพื่อนเดินทางมาที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 จ.สระบุรี แต่อย่างใด


ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/WSj4aimVU-M

คุณอาจสนใจ

Related News