ผิดวินัยแต่ไม่ร้ายแรง! สั่งปลด 5 พระวัดดังเชียงราย ลอบเล่นน้ำเต้าปูปลา ในเมียนมา อ้างเป็นประเพณีท้องถิ่น

พระวัดดัง 5 รูปเล่นพนันดื่มน้ำสีเหลืองฝั่งท่าขี้เหล็กพ้นสภาพ จากเจ้าคณะตำบลเวียง เจ้าอาวาส เตรียมสอบเพิ่ม และดำเนินการตามขั้นตอนสงฆ์


กรณี เพจคุณท้าวศรีสุวรรณภิรมย์ภักดี โพสต์ข้อความระบุว่า  “6 4 เอี่ยว เจริญพร น้ำเต้า ปู ปลา เลขารองเจ้าคณะภาค และเจ้าอาวาสวัดดังใน อ.เมืองเชียงราย ทำแบบนี้ได้เหรอเจ้าคะ สำนักพุทธตรวจสอบด่วน” พร้อมโพสต์รูปถ่ายพระสงฆ์หลายรูป กำลังเล่นพนันมะโขกโหลกและบาคาร่า อย่างสนุกสนาน นั่งใกล้ชิดสีกา แถมมีแก้วน้ำสีเหลืองคล้ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วางอยู่ด้วย  พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย มีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด

โดยมอบหมายให้พระครูสิริธรรมนิวิฐ เจ้าหน้าที่คณะอำเภอเมือง ร่วมกับนายโสไกร ใจหมั้น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สอบสวนข้อเท็จจริงและวางมาตรการบทลงโทษกับคณะสงฆ์ที่ปรากฎในภาพดังกล่าว

เมื่อวานนี้  (11 ต.ค.66)  นายโสไกร ใจหมั้น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นจริง แต่เป็นเหตุซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา มีพระสงฆ์ใน จ.เชียงราย จำนวน 5 รูป  ประกอบด้วย เจ้าคณะตำบล 1 รูป เจ้าอาวาสวัด 2 รูป และพระลูกวัดอีก 2 รูป   รับกิจนิมนต์ ไปร่วมงานวัดเวียงแก้ว ในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงข้ามชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย แต่เพิ่งจะมีการเผยแพร่ในโซเชียล เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา

หลังทราบเรื่องทางสำนักพุทธ จ.เชียงราย ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ร่วมกับคณะสงฆ์เชียงราย ตั้งกรรมการสอบสวนในทันที ซึ่งพระสงฆ์ทั้ง 5 รูปก็ยอมรับว่าเป็นบุคคลในภาพจริง โดยอ้างว่าการละเล่นเหล่านั้นเป็นประเพณีของท้องถิ่นที่เล่นกันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ถือเป็นการกระทำผิดวินัยของสงฆ์และเป็นเรื่องที่เหมาะสม เมื่อวานนี้ จึงมีนัดหมายประชุมเพื่อพิจารณาบทลงโทษกันอีกครั้ง แต่ปรากฎว่าพระสงฆ์ทั้ง 5 รูปได้หลบหนีไปทั้งหมด ทำให้ไม่ได้มีการสอบสวนเพิ่มเติม หรือดำเนินลงโทษใดๆ

นายโสไกร กล่าวว่า จากการพิจารณาของคณะสงฆ์อย่างถี่ถ้วน ได้มีมติและคำสั่งให้ปลดพระสงฆ์ทั้ง 5 รูป  ออกจากตำแหน่งที่มีอยู่ทั้งหมด โดยไม่สามารถที่จะยุ่งเกี่ยวกับทางคณะสงห์หรือกับทางวัดต่างๆได้อีก แต่ยังไม่ขั้นที่ปาราชิก เพราะถือเป็นความผิดวินัยที่ยังไม่ร้ายแรงมากนัก และทางผู้กระทำผิดยังไม่ได้ชี้แจงโดยละเอียดเพราะหลบหนีไปก่อน

อย่างไรก็ตาม โทษจะถึงปาราซิกหรือไม่นั้น ทางคณะสงฆ์จะมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำขึ้นมาอีก ทางคณะสงฆ์ได้มีการวางกฎสำหรับพระภิกษุที่จะเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จะต้องได้รับอนุญาตจากทางวัดหรือทางคณะสงฆ์ระดับอำเภอหรือระดับจังหวัดเสียก่อน และต้องมีรายละเอียดกิจนิมนต์มาแสดงว่า มีการนิมนต์ให้ไปร่วมงานต่างๆ จริง  ไม่สามารถที่จะเดินทางโดยพละการได้อีก 

 และอยากเตือนให้พระภิกษุสงฆ์ ควรตระหนักว่า เข้าไปร่วมในวงอโคจรนั้นเป็นเรื่องไม่ดีและไม่เหมาะสม  ควรหลีกเลี่ยงเข้าไปในทุกสถานการณ์ แม้กิจกรรมเหล่านั้นจะเป็นเรื่องปกติของท้องถิ่นนั้นๆ  แต่หากพระภิกษุสงฆ์เข้าไป  ก็เป็นภาพที่ไม่งาม และทำให้ภาพของพระสงฆ์ได้รับความเสื่อมเสีย

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Og9wtZ4ZXjA