ศาลยกฟ้อง 'อัจฉริยะ' คดีบิ๊กจ๋อฟ้องหมิ่นฯ-แจ้งเท็จ ชี้เป็นสิทธิ์ตรวจสอบ

ศาลยกฟ้องอัจฉริยะ หลังถูกบิ๊กจ๋อ ฟ้องหมิ่นประมาท โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าการกระทำของของนายอัจฉริยะ เป็นการติชมด้วยความเป็นธรรม



นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาฟังคำพิภากษาของศาลอาญา คดีที่ พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน.บชน. หรือผู้การจ๋อ



เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอัจฉริยะ ในฐานความผิดฐานแจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตาม ป.อาญา มาตรา 326, 329



โดยคดีนี้เริ่มต้นมาจากที่ นายอัจฉริยะ ได้ไปแจ้งความกับตำรวจ ปปป. ว่า บิ๊กจ๋อ สั่งย้ายลูกน้อง คือ พันตำรวจโท มานะพงศ์ วงศ์พิวัฒน์ และชุดทำงาน โดยไม่เป็นธรรม ซึ่งทำคดีการจับกุมขบวนการค้ายาเสติด คือ นายทุนมิตลัต และขยายผลซัดทอดไปถึง นายอุปกิต ปาจรียางกูร ซึ่งเป็น ส.ว. ในขณะนั้น



โดยนายอัจฉริยะ อ้างว่าบิ๊กจ๋อ ได้สั่งให้ พันตำรวจมานะพงศ์ ไม่ต้องรีบร้อนทำคดี และรอให้ นายอุปกิต พ้นจากตำรวจ ส.ว. ไปก่อน แต่ชุดทำงานของ พันตำรวจโท มานะพงศ์ กลับสืบสวนคดีต่อ จนทำให้ถูกย้าย



ซึ่งบิ๊กจ๋อ ยืนยันว่าสิ่งที่นายอัจฉริยะ นำข้อมูลดังกล่าวมาเปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนนั้น ไม่เป็นความจริง และทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงยื่นฟ้องต่อศาลอาญา และศาลรับฟ้องเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2566



ทั้งนี้ศาลใช้เวลาอ่านคำพิภากษาประมาณ 1 ชั่วโมง และมีคำพิภากษายกฟ้องนายอัจฉริยะ โดยพิเคราะห์ว่าเรื่องยาเสพติด เป็นเรื่องที่สร้างความเสียหาย ให้กับประเทศเป็นอย่างมาก การที่ชุดสืบสวนขยายผลไปจนผู้ต้องหาเพิ่ม เป็นการทำหน้าที่โดยสุจริต จนรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งให้กองบัญชาการตำรวจปราปรามยาเสพติด เป็นการทุ่มเททำงานเพื่อพิทักษ์สันติราษฎร์ เป็นตำรวจที่ดี



อีกทั้งจำเลยที่ทำองค์กรเพื่อปกป้องคนดี เชื่อโดยสุจริตใจ ว่า โจทก์แต่งตั้งโยกย้ายชุดทำงาน ออกนอกหน่วยโดยไม่สมัครใจ เพราะไม่ทำตามคำสั่งเรื่องคดีนายอุปกิต การกระทำของจำเลยเป็นการทำโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม



ทั้งนี้ผู้การจ๋อ เปิดเผยหลังฟังคำพิภากษาว่าเป็นเพียงแค่ศาลชั้นต้น คงต้องให้ต้องให้เป็นหน้าที่ของทนายความที่จะดูแลเรื่องในเรื่องข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงในการยื่นอุทธรณ์ต่อไป ก็ยังมีความเชื่อมั่นในการขบวนการยุติธรรม และในความเชื่อของตนเองจำเลยจะต้องได้รับสิ่งที่กระทำไว้ในอนาคต



ขณะที่ นางสาวอาชิรญาณ์ ธนาพีระพงศ์ ทนายความของบิ๊กจ๋อ ระบุว่า ข้อเท็จจริงทั้งหมดตอนนี้อยู่ในสำนวนของศาล ซึ่งส่วนตัวก็มีความเชื่อมั่นในพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคล และพยานแวดล้อม ยืนยันว่ามั่นใจในชุดพยานหลักฐานเก่า ที่จะให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา



ขณะที่นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า จากคำพิพากษาของศาล สามารถพิสูจน์ความจริงได้ว่ามีการแทรกแซงการทำหน้าที่ของพันตำรวจโทมานะพงษ์ มีการโยกย้ายโดยไม่เป็นธรรม ที่มาฟ้องตนเองว่า แจ้งความเท็จและหมิ่นประมาทโดยการโฆษณานั้น ศาลเห็นว่าการทำหน้าที่ของตนเองนั้นเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ จึงไม่มีความผิดตามฟ้อง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/KjUpJAPid3U