สังคม

ดรามาปางช้างยังเดือด! 'หนูนา' ลั่นเตรียมไปรับช้าง 2 เชือกคืน ย้ำการเลี้ยงต้องมีสมดุล ไม่สุดโต่ง

โดย panwilai_c

9 ต.ค. 2567

60 views

ดรามาเรื่องช้าง ระหว่าง คุณแสงเดือน ชัยเลิศ เจ้าของศูนย์บริบาลช้าง Elephant Nature Park กับ คุณหนูนา กัญจนา ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ดูเหมือนจะไม่จบ เพราะ ต่างฝ่ายต่างโพสต์โต้ตอบกันในเฟซบุ๊ก โดยฝั่ง คุณแสงเดือน ประกาศคืนช้าง 2 เชือก ที่ คุณหนูนาเคยเอามาฝากเลี้ยง ขณะที่ คุณหนูนา บอกว่า เดี๋ยวจะไปรับกลับ ตอนนี้วางแผนเตรียมรับอยู่



เฟซบุ๊ก "แสงเดือน ชัยเลิศ-Saengduean Chailert " หรือ น.ส.แสงเดือน ชัยเลิศ ผู้อำนวยการศูนย์บริบาลช้างและประธานมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม และเป็นเจ้าของศูนย์บริบาลช้าง Elephant Nature Park อำเภอแม่แตงได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กวันนี้ (9 ต.ค.) ตอน 12.42น. ระบุว่า "มีช้างตัวผู้สองเชือก ชื่อพลายขุนเดชและพลายดอกแก้วที่คุณหนูนาเอามาฝากทางเราเลี้ยงไว้หลายปีถ้าคุณหนูนาสงสารและเป็นห่วงเขาจริงๆ ขอช่วยมาย้ายพวกเขาไปอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมโดยด่วนค่ะ"



ขณะที่ในคอมเมนต์ของโพสต์นี้ มีหลายคนเข้าไปแสดงความเห็น เช่น "แม่ดูแลน้องต่อได้มั้ย สงสารน้อง..เค้ามีครอบครัวที่ อบอุ่นแล้วแม่ อย่าพรากเค้าอีกเลยค่ะแม่ พรีสสสส"



หรือบางคน แท็กเฟซบุ๊กของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมบอกว่า พิจารณาด้วยคะท่าน ช้างป่าขุนเดช เป็นสิทธิ์ ของกรมอุทยาน สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า Wildlife Conservation Office, Thailand จะย้ายไปไหน ต้องผ่านการอนุมัติก่อน ไม่ใช่ จนท. ในสำนัก ย้ายได้เหรอ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม-ประเทศไทย #พลายขุนเดชช้างป่า #ช้างป่าพิการ



ส่วนอีกบอกว่า "เข้าใจค่ะถูกว่าไม่เลิกใครจะไม่โกรธ แต่ใจเย็นๆนะคะ สงสารช้างค่ะ"



"เปลี่ยนจากส่งคืน ให้แม่ไถต่อจากเขาดีมัย้คะ สงสารช้าง 2 เชือก"



"แรงส์มากค่ะ คุณแสงเดือน อย่าเล่นกับแม่เล็ก เดี๋ยวรู้เรื่อง"



ขณะที่ฝั่งของ คุณหนูนา กัญจนา ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา โพสต์เฟซบุ๊กโต้ตอบกลับในเวลาต่อเนื่องกัน คือ ตอน 13.13 น. ร่ายยาว เล่าที่มาของช้าง 2 เชือก ที่คุณแสงเดือนพูดถึง โดยบอกว่า



ช้างเชือกแรก คือ ขุนเดช เป็นช้างป่าที่ถูกบ่วงแร้วนายพรานรัดข้อจนเป็นแผลใหญ่บวม ทำให้เดินไม่ปกติ



คุณหนูนาไปเจอขุนเดช เมื่อปี 2557 (10ที่แล้ว) ที่ส่วนสัตว์ป่า ม. เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน น้องถูกเลี้ยงอยู่เชือกเดียวน่าสงสารมาก ช่วงนั้นเป็นปีแรกที่ดิฉันได้รู้จักคุณเล็ก และชื่นชมคุณเล็กมาก ดิฉันวิ่งเต้นทำเรื่องขออธิบดีอุทยานพาขุนเดชไปอยู่ที่ปางคุณเล็ก .. จนสำเร็จ.. ตอนที่แรกเจอขุนเดช อายุประมาณ 4 ขวบตอนนี้น้องก็คง 14 แล้ว



ส่วนเชือกที่ 2 คือ ดอกแก้ว เจอที่โรงพยาบาลช้างคชบาล ลำปาง .. น้องมากับแม่ แต่แม่น้องป่วยหนัก ดอกแก้วตอนนั้นอายุสองเดือนคลอเคลียอยู่กับแม่ตลอด.. ดิฉันพูดกับ แม่ของดอกแก้วว่าอยู่กับลูกนะอย่าทิ้งลูกไป แต่หลังกลับจากลำปางได้ 3 วัน หมอโทรมาแจ้งว่าแม่ช้างล้มแล้ว.. ดิฉันสงสารดอกแก้วมากกลัวเจ้าของจะเอาไปขายในที่ไม่เหมาะสมจึงขอซื้อมาตอนนั้นราคา 850,000 (ถ้าตอนนี้คงเป็นล้าน)



จากนั้น คุณหนูนา ประสานไปที่คุณเล็ก แสงเดือน ขอให้รับดอกแก้วไปเลี้ยง ซึ่งเธอก็ยินดี



ช่วงท้ายของโพสต์ คุณหนูนา บอกว่า เธอขอบคุณคุณเล็กมากที่ตลอดเวลาได้เลี้ยงดูขุนเดชและดอกแก้วให้… แต่ดิฉันก็ไม่ได้ไปฝากเฉยๆ .. ในช่วงปีแรกที่ดิฉันไปหาคุณเล็กบ่อยๆนั้น ดิฉันได้สนับสนุนคุณเล็กอย่างที่ในชีวิต แม้จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่เคยให้ใครเท่านี้มาก่อนเพราะรักคุณเล็กมาก…



ดิฉันต้องขอบคุณเล็กอีกครั้ง สำหรับการดูแลขุนเดชและดอกแก้ว คุณเล็กให้ไปรับโดยเร็ว.. ดิฉันกำลังจะไปรับทั้งคู่มานะคะ



โพสต์ของคุณหนูนา มีคนเข้ามาคอมเมนต์เช่นเดียวกัน เช่นบอกว่า

"อ่านจบ ขนลุกมากค่ะ สุภาพ ไม่มีคำไหนหยาบคายเลย แต่เหมือนลากมาตบกลางสี่แยก ดีใจกับน้องช้างทั้ง 2 ค่ะ"



"ข้อมูลชัดเจนคนก็ชัดเจน นี่แหละค่ะบุคคลที่ควรเรียกว่าแม่พระมากที่สุด"



"แม่ๆพร้อมเป็นFCหนูนะลูก ดอกแก้ว ขุนเดช ต่อจากนี้ลูกจะได้รู้ว่าโลกข้างนอกสดใสและสวยงามแค่ไหน"



ทีมข่าวเรื่องเด่นเย็นนี้ โทรศัพท์ สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับ คุณหนูนา กัญจนา ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา บอกว่า ไม่ได้ตกใจกับการประกาศคืนช้างของคุณแสงเดือน และ ลึกๆก็คิดไว้แล้วว่าจะต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แต่หลังจากที่ คุณแสงเดือนโพสต์ ก็ยังไม่ได้โทรคุยกัน มีแค่การโพสต์ตอบกลับเท่านั้น



เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่เดิมก็สนิทสนม ทำไมวันนี้เดินมาถึงจุดนี้ได้ คุณหนูนา ขอไม่ลงรายละเอียด แต่บอกว่า ช่วงที่สนิทกับคุณแสงเดือน คือ ช่วงแรกๆที่เข้าสู่วงการช้าง รักและเคารพคุณแสงเดือนมาก ช่วยเหลือกันมาตลอด แต่หลังจากช่วยเหลือมาราวๆ 1 ปี เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น (ขอไม่ลงรายละเอียด) จากนั้นจึงเริ่มถอยห่างออกมา และทำให้เห็นว่า การเลี้ยงช้างต้องมีสมดุล การใช้โซ่ ตะขอ ทำได้ แต่ต้องเหมาะสม เพราะ การใช้จะทำให้คนเลี้ยงและช้างปลอดภัย



เมื่อถามว่า แล้วการคืนช้างจะดำเนินการอย่างไร หลังจากนี้ คุณหนูนา บอกว่า กำลังวางแผนรับช้างกลับ โดยช่วงแรก ช้างทั้ง 2 เชือก จะไปอยู่ที่ ปางช้างที่อ.หางดง จากนั้น ขุนเดชจะถูกส่งกลับมาที่ คชบาล เพราะ เป็นช้างของกรมอุทยานฯ


https://youtu.be/bZmE7M_kDzo

คุณอาจสนใจ

Related News