‘แสงเดือน’ ขอหยุดสร้างข่าวเท็จ ยัน ‘พลายขุนเดช’ ไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว

ดรามาเรื่องช้าง ระหว่าง คุณแสงเดือน ชัยเลิศ เจ้าของศูนย์บริบาลช้าง Elephant Nature Park กับ คุณหนูนา-กัญจนา ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ดูเหมือนจะไม่จบ เพราะต่างฝ่ายต่างโพสต์โต้ตอบกันในเฟซบุ๊ก โดยฝั่ง คุณแสงเดือน ประกาศคืนช้าง 2 เชือก ได้แก่ พลายขุนเดชและพลายดอกแก้ว ที่คุณหนูนาเคยเอามาฝากเลี้ยง ขณะที่คุณหนูนา บอกว่า เดี๋ยวจะไปรับกลับ ตอนนี้วางแผนเตรียมรับอยู่

ล่าสุด ทางคุณแสงเดือน ยังเคลื่อนไหว โดยโพสต์ชี้แจงอาการของพลายขุนเดช ระบุว่า

“น้องขุนเดชเป็นช้างพลายที่บาดเจ็บที่เท้าหน้า สาเหตุเท่าที่ทราบน่าจะมาจากแร้วกับดัก จากภาพที่พบวันแรกของกรมอุทยานน้องผอมมากแต่น้องแข็งแกร่งต่อสู้ชีวิตจนรอด

ขุนเดชเป็นช้างของกรมอุทยานและคุณหนูนาได้นำมาฝากเลี้ยงที่มูลนิธิฯ เมื่อสิบปีที่แล้ว เมื่อมาถึงที่มูลนิธิน้องได้รับการต้อนรับจากแม่รับช้างทันที แม่รับทุกตัวต่างหลงรักขุนเดช เนื่องจากเท้าของขุนเดชมีแผลใหญ่ลึกมากทางเราต้องดูแลรักษาล้างแผลใส่ยาทุกวัน พวกเราต้องสั่งตัดถุงเท้าชนิดพิเศษที่เป็นผ้าฝ้ายพื้นหนังเทียมให้ขุนเดชใส่ทุกวัน ตอนที่มาแรกๆแผลยังไม่ค่อยแห้งใช่ถุงเท้าวันละสามถุง แต่หลังจากนั้นแผลเริ่มดีขึ้นใส่ถุงเท้าวันละสองครั้งเช้าเย็น และใช้พลาสเตอร์ยืดอย่างน้อยเดือนละสองร้อยม้วน ในการปิดรองถุงเท้าป้องกันเท้าสกปรก

คุณหมอทุกท่านช่วยกันดูแลขุนเดชทุกวันอย่างดี ขุนเดชมีรองเท้าหลายคู่ และมีขาเทียมเสริมเกราะที่ผลิตโดยช่างทำขาเทียมสัตว์ชั้นนำจากอเมริกา ตอนนี้ขาดเทียมนั้นได้หายไปกับน้ำหมดแล้ว

น้องไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวอย่างที่มีการเอาไปกล่าวหา น้องสามารถสร้างปฎิสัมพันธุ์กับช้างที่อยู่ในรอบๆบริเวณ ดิฉันขอให้คนที่นำข้อมูลไปลงข่าวขอให้กรุณาหยุดสร้างข่าวเท็จและสร้างความสับสนให้กับสังคม ซึ่งมันไม่เป็นผลดีกับช้างแต่อย่างใด พวกเราเลี้ยงและดูแลน้องมานาน พวกเราย่อมรักและผูกพันจากการที่ดูแลน้องทุกวัน แต่การที่พวกเราถูกคุกคามจากรอบด้านเราไม่อาจที่จะยอมรับได้อีกต่อไป

สำหรับพลายทั้งสองทั้งขุนเดชและดอกแก้ว ถ้าท่านยังไม่สามารถหาพื้นที่ทีเหมาะสมที่จะให้น้องอยู่ได้ก็สามารถประสานมาได้ค่ะ น้องสามารถอยู่ที่นี่จนกว่าจะได้บ้านที่ดีกว่าที่อยู่กับพวกเรา เพียงแต่ต้องการให้มีการสื่อสารต่อคนรอบข้างให้เข้าใจชัดเจนถึงสภาพความเป็นอยู่ตามข้อเท็จจริง ไม่ไปบิดเบือนชีวิตความเป็นอยู่ของน้องสู่สังคม ขอบคุณค่ะ”