บก.น.6 ตั้ง กก.สอบ ตร. กักตัวชายเส้นเลือดในสมองแตกขับฟอจูนเนอร์ชนจยย. นาน 2 ชม. จนเสียชีวิต

ความคืบหน้ากรณีหญิงสาวร้องเพจสายไหมต้องรอดว่า แฟนหนุ่มเส้นเลือดในสมองแตกขณะขับรถ ทำให้ขับรถชนรถยนต์และรถจักรยานยนต์หลายคัน แต่แทนที่ตำรวจจะนำตัวส่งโรงพยาบาล กลับกักตัวไว้ที่ สน.นานถึง 2 ชั่วโมงจนอาการหนักและเสียชีวิต


คดีนี้ต้องย้อนกลับไปวันที่ 13 กรกฎาคม เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้โพสต์คลิปรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีดำขับรถพุ่งชนรถยนต์ และรถจักรยานยนต์หลายคัน จนผู้ประสบเหตุต้องขี่รถตามเพื่อให้จอดรถทั้งทุบกระจก ทั้งเคาะเรียก ก่อนจะไปจนมุมถูกตำรวจหยุดไว้ได้ แต่ปรากฎว่าพอเปิดรถตัวคนขับก็เปรอเปื้อนไปด้วยอาเจียน และไม่มีสติ พอเป่าก็ไม่มีปริมาณแอลกอฮอล์ ก่อนจะมีข่าวออกมาในอีก 1 วันว่า ผู้ก่อเหตุป่วยเส้นเลือดในสมองแตก แต่ยินดีชดใช้ให้ผู้เสียหายทุกราย ถัดมาไม่กี่วันก็มีรายงานว่าเสียชีวิต


จนเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา แฟนสาวของผู้ก่อเหตุมาร้องกับเพจสายไหมต้องรอด บอกว่า คนที่ขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ชนรถยนตืแะรถจักรยานยนตืเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม คือนาย กฤษณ์ ธรรมมล อายุ 41 ปีแฟนหนุ่มของเธอเอง ก่อนเกิดเหตุเพิ่งขับรถส่งผู้โดยสารจากสนามบินสุวรรณภูมิมาที่ยานนาวาเสร็จ พอส่งลูกค้าเสร็จระหว่างเดินทางกลับ แฟนหนุ่มโทรศัพท์บอกว่า ปวดหัวมากและอาเจียน จึงบอกให้แฟนไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ระหว่างขับรถไปโรงพยาบาลแฟนหนุ่มเริ่มมีอาการหนัก ไม่สามารถควบคุมรถได้ จึงประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คันอื่นหลายคัน พอโทรศัพท์หาแฟนเบอร์แรกไม่รับสาย จึงโทรเข้าอีกเครื่องซึ่งเชื่อมต่อกับระบบบลูทูธของรถ และรับสายอัตโนมัติ ตอนนั้นได้ยินเสียงคนเคาะกระจกรถ โวยวาย และบอกให้แฟนลงมาจากรถ แต่ไม่ได้ยินเสียงแฟน จึงวางสายไป ไปฟังเสียงบางช่วงที่เธอโทรหาแฟนหนุ่ม


จากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง แม่ของแฟนก็โทรศัพท์มาหา บอกว่าตำรวจโทรมา บอกว่าแฟนเมาแล้วขับรถไปชนคันอื่น ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.ยานนาวา เธอติดธุระอยู่ต่างจังหวัดจึงให้แม่ไปที่โรงพักก่อน ระหว่างนั้นก็โทรศัพท์หาตำรวจ ขอคุยกับแฟน และขอให้พาแฟนไปส่งโรงพยาบาลก่อน เพราะแฟนป่วย ไม่ได้เมา แต่ตำรวจไม่ยอมให้คุย บอกว่าแฟนไม่ยอมลงจากรถ และให้รีบตามบริษัทประกันมาที่ สน.ด่วน ไปฟังเสียงที่เธอคุยกับตำรวจ


กระทั่ง 21.00 น. วิดีโอคอลหาพี่ชายของแฟนที่อยู่ สน. พบว่าแฟนหมดสติไปแล้ว กู้ภัยจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล ถึงโรงพยาบาลเกือบ 4 ทุ่ม แพทย์ที่ให้การรักษาบอกว่ามาช้าไป หลังจากนั้นก็พยามรักษาตามอาการอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 3 วัน ก่อนเสียชีวิต ซึ่งในใบรับรองแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเส้นเลือดในสมองแตก เธอจึงตรวจสอบ GPS ย้อนหลัง พบว่าแฟนอยู่ที่ สน.ยานนาวา เกือบ 2 ชั่วโมง ซึ่งตนมองว่าหากนำส่งโรงพยาบาลเร็วกว่านี้แฟนอาจไม่เสียชีวิต


ทีมข่าวลงพื้นที่ สน.ยานนาวา คุยกับ 1 ในพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ยืนยันว่า ในวันเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และไม่สามารถสื่อสารกับตำรวจหรือเจ้าหน้าที่กู้ชีพได้ จึงไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตมีอาการดังกล่าวจากอะไร ตำรวจพยายามบอกให้ลงจากรถแต่ผู้เสียชีวิตไม่สามารถลงจากรถได้ จึงตัดสินใจนำทั้งรถและผู้เสียชีวิตขึ้นรถสไลด์มาที่สถานีตำรวจทั้งที่รถยังติดเครื่องอยู่


เมื่อเห็นว่าผู้เสียชีวิตอาการหนักขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสะเดาะประตูรถเพื่อรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ยืนยันว่าเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงที่สถานีตำรวจ ไม่ได้ยื้อหรือห้ามไม่ให้ผู้เสียชีวิตไปโรงพยาบาล แต่เพราะอยู่ระหว่างการช่วยเหลือนำผู้เสียชีวิตออกมาจากรถ และเมื่อนำออกมาได้ก็รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล


พันตำรวจเอกรัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผู้กำกับการ สน.ยานนาวา ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ว่า ตอนนี้กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว ซึ่งทาง สน.ยานนาวา ก็ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ตอนนี้ผู้บังคับบัญชาได้เร่งรัดให้ตรวจสอบโดยเร็วที่สุด หลังจากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเสร็จ จะมีการชี้แจงอีกครั้งหนึ่ง


ก่อนหน้านี้สั่งให้พนักงานสอบสวนให้ติดต่อนัดหมายญาติผู้เสียชีวิตมาพูดคุย แต่ทราบว่าทางญาติยังไม่สะดวก


ทีมข่าวโทรศัพท์ไปสอบถาม แฟนสาวของผู้เสียชีวิต บอกว่า จนถึงขณะนี้ ทางตำรวจยังไม่มีการติดต่อมาทางครอบครัวส่วนที่บอกว่าจะนัดเข้าไปพูดคุยวันพรุ่งนี้ (23 ก.ค.) ก็เป็นการพูดผ่านสื่อ แต่ไม่ได้ติดต่อมาโดยตรง ซึ่งได้บอกผ่านสื่อไปแล้วว่าไม่สะดวก เพราะยังต้องจัดพิธีสวดอธิธรรม

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/G_MF9p_sItw