เปิดแผนขบวนการปล้นเงิน 3.3 ล้าน พบเกลือเป็นหนอน 'แจ็ค' สารภาพร่วมมือกับ 'บอล' ก่อนโดนหักหลัง

ความคืบหน้าคดีคนร้ายปล้นเงินสด 3 ล้าน 3 แสนบาท จากกลุ่มคนที่มาเบิกเงินที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ภายในห้างย่านประเวศ ล่าสุดตำรวจพบเกลือเป็นหนอน คนวงในส่งซิกให้โจร ตอนนี้รวบได้แล้ว 2 คน จ่อขยายผลเพิ่ม


ย้อนกลับไปวันที่ 3 กรกฎาคม กล้องวงจรปิดจับภาพ 1 ในทีมงานที่ไปเบิกเงิน 3 ล้าน 3 แสนบาทเดินมาที่รถ แล้วเปิดประตูหลังขึ้นมานั่ง ชายในคลิปคนนี้ คือ นาย จักรพงษ์ พรหมเสน หรือ แจ๊ค ลูกน้องของนายหนุ่ม เจ้าของธุรกิจรับแลกเงินตราต่างประเทศ จากนั้นนาย นันทพร เพียนทำดี หรือ บอล ปากแหว่ง คนร้ายเดินตามมาประกบแล้วดันตัวนาย แจ็คเข้าไปในรถ ใช้เวลาปฏิบัติการราว 30 วินาที ก่อนที่นาย บอล ปากแหว่ง จะลงจากรถ แล้ววิ่งไปขึ้นรถมอเตอร์ไซต์ที่มีคนร้ายอีกคนติดเครื่องรออยู่


โดยมีชายคน 1 วิ่งตามมารถมอเตอร์ไซต์เพื่อถ่ายคลิป อีกคนขับรถไล่ตาม ส่วนชายอีกคนที่กึ่งวิ่งกึ่งเดินตามออกมาคือ นาย แจ็ค ชายที่ถูกตำรวจระบุว่าเป็น "หนอนบ่อนไส้" และ 1 ในหลักฐานที่ตำรวจมี คือ กล้องวงจรปิดที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านนวมินทร์ ช่วง 2 ทุ่ม 15 นาที จะเห็นว่านาย บอล ซ้อนมอเตอร์ไซต์เพื่อนที่ชื่อ นาย ม.ม้า มาหานาย แจ็ค ที่นี่ จะเห็นว่านาย แจ๊ค ยื่นถุงบางอย่างให้ แล้วยืนพูดคุยกันสักพักก่อนจะแยกย้ายกันไป


ทำให้เมื่อวานนี้ (8ก.ค.67) ตำรวจฝ่ายสืบสวนนครบาล 4 เรียกตัวนาย แจ๊ค มาสอบปากคำอีกครั้ง สุดท้ายนาย แจ็ค ก็เปิดปากรับสารภาพว่าเป็นหนอนบ่อนไส้ ทำหน้าที่ชี้เป้าจริง โดยรู้จักกับนาย บอล ปากแหว่ง ในคุกจึงร่วมกันวางแผนชิงเงิน จากนั้นตำรวจคุมตัวไปค้นบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านรับซ่อมมอเตอร์ไซต์และจักรยาน เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่ม ก่อนจะคุมตัวขังไว้ที่ สน.ประเวศ


จนช่วงเที่ยงวันนี้ (8ก.ค.67) แม่ของนาย แจ็ค มาเยี่ยมลูกชาย พร้อมให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ปกติลูกชายจะทำงานซ่อมมอเตอร์ไซต์แล้วขายต่อ ไม่เคยรู้ว่าลูกชายไปทำงานกับบริษัทรับแลกเงิน หรือไปทำงานอะไร เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก่อนหน้านี้ลูกชายเคยติดคุกคดียาเสพติดแต่ผ่านมากว่า 10 ปีแล้ว หลังพ้นโทษก็รับปากว่า จะกลับตัวเป็นคนดี และหางานทำ จนถูกจับ


เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล ตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล มาสอบปากคำนาย แจ๊ค ด้วยตัวเอง ซึ่งจังหวะที่ตำรวจคุมตัว นาย แจ๊ค ออกมาจากห้องขัง นักข่าวพยายามสอบถามถึงมูลเหตุและแรงจูงใจ แต่ไม่มีคำตอบใดๆ


พลตำรวจตรี นพศิลป์ ใช้เวลาสอบปากคำราว 2 ชั่วโมงก่อนจะเปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ 3 กรกฎาคมราว บ่าย 2 โมง 25 นาที กล้องวงจรปิดที่ลานจอดรถของห้างแห่งหนึ่งย่านประเวศ จับภาพนาย บอล ใส่เสื้อฮู้ดสีดำ สวมหน้ากากอนามัยสีสีดำ เดินผ่านหน้าธนาคาร มาทางบริเวณหน้าห้าง เพราะเป็นลักษณะทางเดินเชื่อถึงกันระยะทางประมาณ 10-20 เมตร


2 นาที ถัดมา กล้องวงจรปิดอีกตัวหนึ่งจับภาพบริเวณทางเดินหน้าประตูทางเข้าออกของห้าง โซนที่จะมีร้านขายของ จะเห็นว่า นาย บอล เอาหน้ากากอนามัยลงเพื่อดูดน้ำที่ซื้อมา 2 แก้ว ทำให้เห็นใบหน้าชัด และจะเห็นว่าคุยโทรศัพท์ตลอดเวลา และคล้ายกับพยายามมองหาอะไรอยู่


จากนั้นนาย บอล เดินกลับไปทางใกล้กับธนาคารเพื่อนำน้ำที่ซื้อมาอีก 1 แก้ว ไปให้เพื่อนที่มาด้วยกัน ซึ่งภาพจุดนี้ยิ่งทำให้เห็นรูปพรรณสัณฐานชัด ช่วงหน้าผาก ตา จมูก ทำให้เปรียบเทียบกับประวัติคดีเก่าจนทราบตัวคนร้ายได้


จนบ่าย 15.15 น. นาย บอล ยังเดินวนเวียนอยู่แถวทางเดิน และใช้โทรศัพท์ จนมายืนในมุมทางโค้งระหว่างทางเชื่อมของห้างกับทางไปธนาคาร ก่อนจะไปนั่งม้านั่งบริเวณหน้าร้านอาหาร ซึ่งอยู่ห่างจากธนาคารไม่ถึง 10 เมตร ซึ่งมีการใช้โทรศัพท์ตลอดเวลา กระทั่งมาก่อเหตุในเวลาบ่าย 3 โมง 27 นาที แล้วหลบหนีไป


กระทั่งเมื่อวานนี้ (7ก.ค.67) ตำรวจ สปป.ลาวตามจับนาย บอล ปากแหว่ง ได้ที่แขวงคำม่วน สปป.ลาว ในคดีชิงทองหนัก 3 บาท จากร้านทองใน สปป.ลาว เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ตำรวจลาวจึงประสานทางการไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขอส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทย


จากการสอบสวนนาย แจ็ค บอกว่า รู้จักกับนาย บอล ตั้งแต่ปี 2550 เพราะเรียนโรงเรียนช่างกลด้วยกัน นาย แจ็ค เป็นรุ่นพี่ รุ่นที่6 และนาย บอล เป็นรุ่นน้อง คือ รุ่น15 ซึ่งระหว่างที่เรียนอยู่นั้น นายแจ๊ค เป็นประธานสาย ที่ต้องคอยพาน้อง ๆ เดินทางกลับไปกลับจากรามอินทราไปนวมินทร์ เลยทำให้รู้จักกัน


จนปี 2566 นายบอลไปก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ สน.โชคชัย นาย บอล เอาพระเครื่องของผู้เสียหายมาให้นาย แจ๊ค ไปขาย คดีนั้นนาย แจ็คโดนข้อหารับของโจร


ต่อมาในปี 2567 นาย แจ๊ค มาทำงานเกี่ยวกับการถอนเงินออกจากบัญชี กับกลุ่มเพื่อน ๆ ได้ประมาณ 1 เดือน ได้ค่าจ้างครั้งละ 2,000 บาท ก็รับรู้ความเคลื่อนไหวเรื่องเงินเข้าออก จึงคุยกับนาย บอล ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่า นาย บอล เป็นคนคิดเพราะอยากได้เงิน ส่วนนาย แจ็ค ทำหน้าที่แค่ดูลาดเลา และแผนที่วางกันไว้ คือ เมื่อนาย แจ็ค เบิกเงินมาแล้ว จะส่งให้กับผู้รับเงิน จากนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของนาย บอล ที่จะชิงเงินระหว่างทาง แต่นาย บอล กลับตลบหลัง ชิงเงินไปเลย และเอาเงินไปคนเดียว


เมื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรพบว่า นาย บอล ปากแหว่ง เคยจับเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2551 ในคดีชิงทรัพย์และกระทำอนาจาร โดยใช้วิธีดักจี้เหยื่อ ซึ่งเป็นนักศึกษาที่ขี่มอเตอร์ไซต์มากับแฟนหนุ่ม แล้วจี้เอารถกับผู้หญิงไป จากนั้นพาผู้หญิงไปข่มขืน คดีนี้ติดคุกเกือบ 15 ปี และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อต้นปี 66


ต่อมาเดือนธันวาคม 2566 ไปลงมือแบบเดิมอีก คือจี้ผู้หญิงที่จอดรถตู้ อัลพาร์ดนอนหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง แล้วบังคับขืนใจผู้หญิง ก่อนจะทิ้งผู้หญิงลงข้างทางแล้วเอารถอัลพาร์ดหนีไป ซึ่งคดีนี้ยังหลบหนีหมายจับอยู่ จนกระทั่งมาก่อเหตุที่ชิงทองที่ สปป.ลาว วันที่ 1 กรกฎาคม แล้วหนีเข้าไทยมาก่อเหตุจี้ชิงเงิน 3 ล้าน 3 แสนบาท วันที่ 3 กรกฎาคม และโดนตำรวจ สปป.ลาวจับได้ เมื่อวานนี้ (7ก.ค.67)


หลังจากนี้ตำรวจจะขยายผลออกหมายเรียกเจ้าของบัญชี มาสอบสวนเพราะพฤติการณ์การทำธุรกรรมต้องสงสัย เนื่องจากใช้วิธีเบิกเงินจากธนาคารครั้งละไม่เกิน 2 ล้านบาท เพื่อเลี่ยงการชี้แจงกับ ปปง. ต้องตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายหรือไม่ อย่างไร

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/H1SV-af9_2c