เค้นสอบ 'แจ็ค' หนึ่งในแก๊งปล้นเงิน 3.3 ล้าน ตร.เร่งขยายผลหาที่มาเงิน

ความคืบหน้า คดีคนร้ายบุกปล้นเงินสด 3.3. ล้านบาท บริเวณลานจอดรถหน้าธนาคาร ภายในห้างสรรพสินค้าย่านประเวศ ล่าสุด ตำรวจตามจับผู้ร่วมขบวนการได้อีก 1 คนคือ นายจักรพงษ์ พรหมเสน หรือ แจ็ค การสืบสวนพบว่าผู้ต้องหารายนี้ เป็น 1 ในพนักงานที่ไปเบิกเงินจากธนาคาร ทำทีเป็นเหยื่อถูกปล้น เเต่เบื้องหลังคือมีการวางเเผนไว้ล่วงหน้า คอยชี้เป้าเเละส่งสัญญาณให้คนร้าย



14.25 น. วันที่ 3 กรกฎาคม วงจรปิดบริเวณลานจอดรถ บันทึกภาพ 1 ในพนักงานงานที่เพิ่งเข้าไปเบิกเงินสด 3 ล้าน 3 แสนบาทจากธนาคาร เดินกลับไปขึ้นรถ ซึ่งต่อมาทราบว่าพนักงานคนนี้ ก็คือ นายจักรพงษ์ พรหมเสน หรือ แจ๊ค



จากภาพจะเห็นชายอีกคนที่ปกปิดใบหน้า ซึ่งต่อมาชัดเจนว่าคือ นายนันทพร เพียนทำดี ฉายา "บอลปากแหว่ง" ดันตัวนายแจ็คเข้าไปในรถ ผ่านไปราว 30 วินาที นายบอลออกจากรถ วิ่งไปขึ้นมอเตอร์ไซค์เร่งเครื่องหลบหนี ระหว่างนั้นมีชาย 1 คน พยายามวิ่งตามเพื่อถ่ายคลิป อีกคนขับรถไล่ตาม ส่วนชายอีกคนที่ตามมาคนสุดท้าย ก็คือ นายแจ็ค ตำรวจตามเเกะรอยทันที กระทั่งได้หลักฐานวงจรปิดที่คอนโดย่านนวมินทร์ เวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษในคืนก่อนลงมือ ปรากฏภาพนายบอล ซ้อนมอเตอร์ไซต์เพื่อนคนหนึ่งเข้ามาหานายแจ็ค พูดคุยกันสักพักเเล้วก็จะแยกย้าย



จนเมื่อวานนี้ 7 กรกฎาคม ตำรวจสืบสวนนครบาล 4 เรียกนายแจ๊ค มาสอบปากคำอีกครั้ง ที่สุดก็ยอมเปิดปากรับสารภาพ ทำหน้าที่ชี้เป้า ยอมรับว่ารู้จักกับนายบอลตั้งเเต่สมัยเรียน จึงร่วมกันวางแผนปล้นเงิน ก่อนจะคุมตัวมาสอบสวนต่อที่ สน.ประเวศ



พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สอบปากคำราว 2 ชั่วโมง ก่อนจะร่วมกันเเถลงเบื้องหลังการจับกุม ซึ่งพบว่าก่อนเกิดเหตุ นายบอล ใส่เสื้อฮู้ดสีดำ-สวมหน้ากากอนามัย เดินมาดูลาดเลาผ่านหน้าธนาคาร 2 นาทีต่อมา วงจรปิดอีกตัวจับภาพบริเวณทางเดินหน้าประตูทางเข้า-ออกห้าง กล้องมุมนี้จะเห็นนายบอล เอาหน้ากากลงเพื่อดูดน้ำ ทำให้ทีมสืบสวนได้เห็นหน้า



จากนั้นเดินกลับไปทางใกล้ธนาคาร เอาน้ำที่ซื้อมาอีก 1 แก้ว ไปให้เพื่อนที่มาด้วยกัน จุดนี้จะเห็นรูปพรรณชัด ตั้งเเต่ช่วงหน้าผาก ตา จมูก จึงนำไปเทียบกับประวัติคดีเก่า จนรู้ตัวคนร้าย กระทั่งเมื่อวานนี้ ตำรวจสปป.ลาว ตามจับนายบอลได้ที่แขวงคำม่วน ในคดีชิงทองหนัก 3 บาท จากร้านทองในสปป.ลาว เมื่อ 1 กรกฎาคม ซึ่งทางการไทยอยู่ระหว่างประสานขอส่งตัวกลับมาดำเนินคดี



ข้อมูลของตำรวจ พบว่าทั้งนายบอลเเละนายเเจ็ค ประวัติโชกโชน โดยเฉพาะนายบอล เคยถูกจับเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 ในคดีชิงทรัพย์และกระทำอนาจาร-ชิงรถบังคับขืนใจ ติดคุกเกือบ 15 ปี และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อต้นปี 2566 หลังออกจากเรือนจำ ในเดือนธันวาคม 2566 นายบอลไปจี้ผู้หญิงที่จอดรถตู้อัลพาร์ดนอนหน้าร้านอาหารเเละบังคับขืนใจ คดีนี้หลบหนีหมายจับ อีกหนึ่งคดี นายบอลไปก่อเหตุชิงทรัพย์ท้องที่สน.โชคชัย ก่อนจะเอาพระเครื่องของผู้เสียหายให้นายแจ๊คไปขาย จนถูกตั้งข้อหารับของโจร



จนปี 2567 นายแจ็ค มาทำงานเกี่ยวกับการถอนเงินออกจากบัญชีกับกลุ่มเพื่อน ทำได้ประมาณ 1 เดือน ได้ค่าจ้างครั้งละ 2,000 บาท จึงคุยกับนายบอล ผ่านเฟซบุ๊ก เดมทีแผนที่วางไว้คือ ทันทีที่นายแจ็คเบิกเงินมาแล้ว จะส่งให้กับผู้รับเงิน จากนั้นนายบอล จะทำหน้าที่บุกไปชิงเงินระหว่างทาง แต่กลับผิดเเผน นายบอล ชิงเงินไปคนเดียว เเละเพิ่งรู้ว่าหนีไปอยู่ สปป.ลาว



จากนี้ตำรวจจะออกเรียกนายหนุ่มเจ้าของเงิน เเละออกหมายเรียกเจ้าของบัญชี มาสอบสวน หลังพบการทำธุรกรรมต้องสงสัย ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้ชัดว่า เกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายอย่างไรหรือไม่ หลัง พบการใช้วิธีเบิกเงินจากธนาคารครั้งละไม่เกิน 2 ล้านบาท เพื่อเลี่ยงการชี้แจงกับ ปปง. เเละบัญชีที่รับโอน มีชื่อกระจายอยู่ในหลายจังหวัด