อาชญากรรม
เกลือเป็นหนอน-หักหลังกันเอง! ขบวนการปล้นเงิน 3.3 ล้าน ตร.เร่งขยายผล หาที่มาเงินโยงบัญชีม้า
โดย petchpawee_k
9 ก.ค. 2567
546 views
"เกลือเป็นหนอน" เปิดแผนขบวนการปล้นเงิน 3.3 ล้าน หลังเรื่องพลิก โยงบัญชีม้า ด้าน ตร.เตรียม ขยายผล หาที่มาของเงิน และธุรกิจของเจ้าของเงิน
ความคืบหน้าคดีคนร้ายปล้นเงินสด 3 ล้าน 3 แสนบาท จากกลุ่มคนที่มาเบิกเงินที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ภายในห้างย่านประเวศ ล่าสุด ตำรวจพบเกลือเป็นหนอน คนวงในส่งสัญญาณให้โจร ตอนนี้รวบได้แล้ว 2 คน เตรียมขยายผลเพิ่ม
โดยย้อนกลับไปวันที่ 3 กรกฎาคม กล้องวงจรปิดจับภาพ 1 ในทีมงานที่ไปเบิกเงิน 3 ล้าน 3 แสนบาท เดินมาที่รถ แล้วเปิดประตูหลังขึ้นมานั่ง ชายในคลิป คือ นายจักรพงษ์ พรหมเสน หรือ แจ๊ค ลูกน้องของนายหนุ่ม เจ้าของธุรกิจรับแลกเงินตราต่างประเทศ
จากนั้นนายนันทพร เพียนทำดี หรือ บอล ปากแหว่ง คนร้าย เดินตามมาประกบแล้วดันตัวนายแจ็คเข้าไปในรถ ใช้เวลาปฏิบัติการราว 30 วินาที ก่อนที่นายบอล ปากแหว่ง จะลงจากรถแล้ววิ่งไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีคนร้ายอีกคนติดเครื่องรออยู่ โดยมีชายคน 1 วิ่งตามรถมอเตอร์ไซต์เพื่อถ่ายคลิป ส่วนอีกคนขับรถไล่ตาม
โดยตำรวจระบุว่า นายแจ๊ค คือ คนที่เป็นหนอนบ่อนไส้ โดยตำรวจมีหลักฐาน เป็นกล้องวงจรปิดที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านนวมินทร์ ช่วง 2 ทุ่ม 15 นาที จะเห็นว่านายบอล ซ้อนมอเตอร์ไซค์เพื่อนมาหานาย แจ็ค โดยนายแจ๊ค ยื่นถุงบางอย่างให้ แล้วยืนพูดคุยกันสักพัก ก่อนจะแยกย้ายกันไป
ตำรวจฝ่ายสืบสวนนครบาล 4 จึงเรียกตัวนายแจ๊ค มาสอบปากคำอีกครั้ง สุดท้ายนา แจ็คยอมเปิดปากรับสารภาพ ว่าเป็นหนอนบ่อนไส้ ทำหน้าที่ชี้เป้าให้นายบอลปล้นเงิน โดยรู้จักกับนายบอลในคุก จึงร่วมกันวางแผนชิงเงิน จากนั้นตำรวจคุมตัวไปค้นบ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านรับซ่อมมอเตอร์ไซค์และจักรยาน เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่ม ก่อนจะคุมตัวขังไว้ที่ สน.ประเวศ
จนช่วงเที่ยงวานนี้ (8ก.ค.67) แม่ของนายแจ็ค มาเยี่ยมลูกชาย พร้อมให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ปกติลูกชายจะทำงานซ่อมมอเตอร์ไซค์แล้วขายต่อ ไม่เคยรู้ว่าลูกชายไปทำงานกับบริษัทรับแลกเงิน เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก่อนหน้านี้ลูกชายเคยติดคุกคดียาเสพติด แต่ผ่านมากว่า 10 ปีแล้ว หลังพ้นโทษก็รับปากว่า จะกลับตัวเป็นคนดี และหางานทำ จนถูกจับ
จากนั้น ช่วงบ่าย พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล มาสอบปากคำนายแจ๊ค ซึ่งจังหวะที่ตำรวจคุมตัวนายแจ๊ค ออกมาจากห้องขัง นักข่าวพยายามสอบถามถึงมูลเหตุและแรงจูงใจ แต่ไม่มีคำตอบใดๆ
พลตำรวจตรีนพศิลป์ ใช้เวลาสอบปากคำราว 2 ชั่วโมง ก่อนจะเปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ 3 กรกฎาคม เวลาประมาณบ่าย 2 โมง 25 นาที กล้องวงจรปิดที่ลานจอดรถของห้างแห่งหนึ่งย่านประเวศ จับภาพนายบอล ใส่เสื้อฮู้ดสีดำ สวมหน้ากากอนามัยสีดำ เดินผ่านหน้าธนาคาร มาทางบริเวณหน้าห้าง เพราะเป็นลักษณะทางเดินเชื่อมถึงกัน ระยะทางประมาณ 10-20 เมตร 2 นาที ถัดมา กล้องวงจรปิดอีกตัวหนึ่งจับภาพบริเวณทางเดินหน้าประตูทางเข้าออกของห้าง โซนที่จะมีร้านขายของ จะเห็นว่านายบอลเอาหน้ากากอนามัยลง เพื่อดูดน้ำที่ซื้อมา 2 แก้ว ทำให้เห็นใบหน้าชัดเจน และจะเห็นว่าคุยโทรศัพท์ตลอดเวลา จากนั้นนายบอล เดินกลับไปตรงทางใกล้กับธนาคาร เพื่อนำน้ำที่ซื้อมาอีก 1 แก้ว ไปให้เพื่อนที่มาด้วยกัน ซึ่งภาพจุดนี้ยิ่งทำให้เห็นรูปพรรณสัณฐานชัด ทำให้เปรียบเทียบกับประวัติคดีเก่า จนทราบตัวคนร้ายได้
จนบ่าย 3 โมง 15 นาที นายบอล ยังเดินวนเวียนอยู่แถวทางเดินและใช้โทรศัพท์ จนมายืนในมุมทางโค้งระหว่างทางเชื่อมของห้างกับทางไปธนาคาร ก่อนจะไปนั่งที่ม้านั่งบริเวณหน้าร้านอาหาร ซึ่งอยู่ห่างจากธนาคารไม่ถึง 10 เมตร และใช้โทรศัพท์ตลอดเวลา กระทั่งมาก่อเหตุในเวลาบ่าย 3 โมง 27 นาที แล้วหลบหนีไป
กระทั่งวันที่ 7 ก.ค.67 ตำรวจ สปป.ลาวตามจับนายบอล ได้ที่แขวงคำม่วน สปป.ลาว ในคดีชิงทองหนัก 3 บาท จากร้านทองใน สปป.ลาว เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ตำรวจลาวจึงประสานทางการไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขอส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทย
จากการสอบสวนนายแจ็ค บอกว่า รู้จักกับนายบอล ตั้งแต่ปี 2550 เพราะเรียนโรงเรียนช่างกลด้วยกัน นายแจ็ค เป็นรุ่นพี่ และนายบอล เป็นรุ่นน้อง ระหว่างที่เรียนอยู่นั้น นายแจ๊คเป็นประธานสาย ที่ต้องคอยพาน้อง ๆ เดินทางไปกลับจากรามอินทราไปนวมินทร์ เลยทำให้รู้จักกัน
จนปี 2566 นายบอลไปก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ สน.โชคชัย นายบอลเอาพระเครื่องของผู้เสียหายมาให้นายแจ๊ค ไปขาย คดีนั้นนายแจ็คโดนข้อหารับของโจร ต่อมาในปี 2567 นายแจ๊ค มาทำงานเกี่ยวกับการถอนเงินออกจากบัญชีกับกลุ่มเพื่อน ๆ ได้ประมาณ 1 เดือน ได้ค่าจ้างครั้งละ 2,000 บาท ก็รับรู้ความเคลื่อนไหวเรื่องเงินเข้าออก จึงคุยกับนายบอล ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่า นายบอล เป็นคนคิดแผน เพราะอยากได้เงิน ส่วนนาย แจ็ค ทำหน้าที่แค่ดูลาดเลา และแผนที่วางกันไว้ คือ เมื่อนายแจ็ค เบิกเงินมาแล้ว จะส่งให้กับผู้รับเงิน จากนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของนายบอล ที่จะชิงเงินระหว่างทาง แต่นายบอล กลับตลบหลัง ชิงเงินไปเลย และเอาเงินไปคนเดียว
เมื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรพบว่า นายบอล ปากแหว่ง เคยถูกจับเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 ในคดีชิงทรัพย์และกระทำอนาจาร โดยใช้วิธีดักจี้เหยื่อ ซึ่งเป็นนักศึกษาที่ขี่มอเตอร์ไซค์มากับแฟนหนุ่ม แล้วจี้เอารถกับผู้หญิงไป จากนั้นพาผู้หญิงไปข่มขืน คดีนี้ติดคุกเกือบ 15 ปี และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อต้นปี 66 ต่อมาเดือนธันวาคม 2566 ไปลงมือแบบเดิมอีก คือจี้ผู้หญิงที่จอดรถตู้ อัลพาร์ดนอนหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง แล้วบังคับขืนใจผู้หญิง ก่อนจะทิ้งผู้หญิงลงข้างทางแล้วเอารถอัลพาร์ดหนีไป ซึ่งคดีนี้ยังหลบหนีหมายจับอยู่ จนกระทั่งมาก่อเหตุที่ชิงทองที่ สปป.ลาว วันที่ 1 กรกฎาคม แล้วหนีเข้าไทยมาก่อเหตุจี้ชิงเงิน 3 ล้าน 3 แสนบาท และโดนตำรวจ สปป.ลาวจับได้
หลังจากนี้ตำรวจจะขยายผลออกหมายเรียกเจ้าของบัญชี มาสอบสวนเพราะพฤติการณ์การทำธุรกรรมต้องสงสัย เนื่องจากใช้วิธีเบิกเงินจากธนาคารครั้งละไม่เกิน 2 ล้านบาท เพื่อเลี่ยงการชี้แจงกับ ปปง. ต้องตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายหรือไม่
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/yRaVHFfSG7w
แท็กที่เกี่ยวข้อง โจรปล้นเงิน ,เกลือเป็นหนอน ,ชิงเงิน3.3ล้าน ,3.3ล้าน ,บัญชีม้า