สังคม
เพื่อนร่วมรับศพ 'บุ้ง' คาใจกระบวนการรักษา 'ทะลุฟ้า' จี้รบ.สอบการเสียชีวิต พร้อมยื่น 4 ข้อเรียกร้อง
โดย panwilai_c
16 พ.ค. 2567
64 views
ครอบครัวและเพื่อนนักกิจกรรมรับร่าง บุ้ง ทะลุวัง ประกอบพิธีทางศาสนา ด้านทนาย เผยผลชันสูตรสาเหตุการตายแล้ว
ราว 9 โมงเช้าวันนี้ (16 พ.ค.67) ครอบครัวได้มอบให้ตัวแทนเพื่อน ๆ นักกิจกรรมของบุ้ง เป็นตัวแทนมารับศพที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ พร้อมนิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป มาประกอบพิธี จากนั้นเจ้าหน้าที่นิติเวชเคลื่อนร่างของ บุ้ง จากห้องเก็บศพ มาบรรจุใส่โลงไม้ สีขาว ณ ห้องทำพิธี แล้วพระสงฆ์ได้เดินนำร่างของบุ้งออกมา โดยมีเพื่อนนักกิจกรรมถือกระถางธูป และรูปของบุ้ง ขึ้นรถ เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดสุทธาโภชน์ ย่านลาดกระบัง ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
ส่วนบรรยากาศที่วัด ทันทีที่ร่างของบุ้งเข้าไปในศาลา ก็ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพ ซึ่งทีมข่าวสังเกตการณ์อยู่ด้านนอก พบว่า งานศพบุ้งไม่มีพิธีรดน้ำศพ มีเพียงการตั้งศพ และสวดอภิธรรมตามปกติ โดยมีการวางรูปของบุ้งไว้หน้าโลง และมีพวงหรีดของกลุ่มทะลุแก๊ซ วางด้านข้าง ซึ่งเขียนข้อความไว้อาลัยระบุว่า "ThaluGaz to Thaluwang นกโบยบินออกจากกรงขังส่งต่อความหวังสู่อิสระเสรี"
นอกจากนี้ยังมีพวงหรีดจากนักการเมืองหลายคนส่งมาร่วมไว้อาลัยด้วย เช่น พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม / นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 / นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล / น.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ สส.กทม.พรรคก้าวไกล
ทีมข่าวได้คุยกับ นายนภสินธุ์ ตรียาภิวัฒน์ หรือสายน้ำ นักกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งเป็นเพื่อนกับบุ้ง ยอมรับว่าการแถลงข่าวของกรมราชทัณฑ์วานนี้ (15พ.ค.) ทำให้คาใจหลายประเด็น ซึ่งก่อนการแถลงข่าวผู้แถลงควรเตรียมตัวมาก่อน ควรมีหลักฐานที่แน่ชัดมาแสดงมากกว่าการที่แถลงแล้วพูดไม่เหมือนกัน อีกคนบอกว่าปั๊มหัวใจตรงนั้นเลย ด้านอีกคนบอกว่าพาตัวลงไปปั๊ม แล้วพาลงไปอย่างไร มีการประคองหรือไม่ หรือทำถูกหลักการหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราสงสัยกันอยู่ ซึ่ง กล้องวงจรปิดจะเป็นตัวตัดสินทุกอย่างว่า ชั้นตอนทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นอย่างไร ถูกต้องตามหลักหรือไม่
สายน้ำ ย้ำว่า ขณะนี้สงสัยทุกประเด็นและยังไม่ตัดประเด็นใดออกจนกว่าจะมีรายละเอียดออกมา แต่บอกได้ชัดเจนว่าผลการเสียชีวิตของบุ้ง มาจากการคุมขังโดยไม่ชอบจนทำให้เข้าไปอยู่ในเรือนจำ และเสียชีวิต
ทีมข่าวโทรศัพท์สัมภาษณ์นาย สหการณ์ เพ็ชร์นรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เรื่องผลการชันสูตรพลิกศพของบุ้ง แต่ทางอธิบดีแจ้งว่ายังไม่ได้มา หากมีการดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วทางกรมราชทัณฑ์ก็จะได้รับทราบในทุกรายการ คาดว่าอาจใช้เวลาไม่ถึงเดือน หรืออาจจะใช้เวลาประมาณ 15 วันก็จะได้รับทราบผล ส่วนผลที่เราจะได้รับทราบ อาทิ ค่าตับ ค่าไต ภาวะของกระเพาะอาหาร เส้นเลือดต่างๆภายในร่างกาย เป็นต้น เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเจ้าตัวมีโรคกระเพาะร่วมด้วยหรือไม่ก่อนที่จะมีการเสียชีวิต
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ยังชี้แจงถึงกระบวนการช่วยชีวิต "บุ้ง" ด้วยว่า ที่ผ่านมาไม่พบว่ามีอาการที่บ่งชี้ถึงการจะเกิดภาวะวูบหมดสติอย่างกระทันหัน เนื่องจากค่าออกซิเจนและค่าความดันมีความปกติ ขณะเดียวกันในเช้าวันที่ 14 พ.ค. ก่อนที่บุ้งจะเสียชีวิตพบว่ามีการพูดคุยปกติกับ น.ส.ทานตะวัน บนเตียงผู้ป่วย อีกทั้งจากที่ตนได้รับรายงาน บุ้งได้มีการรับประทานตามปกติ ตามหลักโภชนาการ เช่น อาหารอ่อน (สำหรับผู้ป่วยพักฟื้น) นม และอาหารเสริม แต่ทางเราก็ไม่ได้บังคับ หากเจ้าตัวจะรับประทานก็หยิบทานได้ แต่ถ้าไม่ทาน เราก็ไปบังคับไม่ได้ แต่ก็ได้มีการแนะนำโน้มน้าวว่าควรรับประทาน
แต่ก็ต้องยอมรับว่าการที่บุ้งอดอาหารและน้ำมาเป็นระยะเวลานานอาจทำให้ร่างกายขาดวิตามิน เกลือแร่ ส่งผลต่อระบบร่างกายโดยรวมได้ แต่บุ้งก็ได้ปฏิเสธชัดเจนถึงการรับสารอาหารและวิตามินทางหลอดเลือด
เมื่อถามว่าก่อนบุ้งจะเกิดการวูบหมดสติจนถึงขั้นเสียชีวิตดังกล่าว มีอาการปวดท้อง ปวดโรคกระเพาะ หรือปวดลักษณะคล้ายไส้ติ่งมาก่อนหรือไม่ นายสหการณ์ บอก ตนได้รับรายงานว่าในลักษณะที่บุคคลใดมีการอดอาหารมาเป็นระยะเวลานาน น้ำย่อยภายในกระเพาะหากออกมาแล้วไม่ได้ย่อยอาหารก็จะย่อยกระเพาะตัวเอง ซึ่งทางแพทย์และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็ได้มีการให้บุ้งทานยาลดกรดเกินในกระเพาะอาหารแล้ว เป็นการรักษาตามอาการ
หลังจากนี้จะออกข่าวแจกสื่อมวลชนเพื่อชี้แจงในทุกประเด็นข้อสงสัย และต้องขออภัยสื่อมวลชนทุกท่านจากการแถลงข่าววานนี้ (15 พ.ค.) เนื่องจากผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ (นพ.พงศ์ภัค อารียาภินันท์) ไม่ได้เป็นเจ้าของเคสหรือเจ้าของไข้ของบุ้งโดยตรง จึงอาจยังตอบรายละเอียดเชิงลึกไม่ได้ ตอนนี้สั่งการให้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในห้องผู้ป่วยของบุ้งและตะวันทุกจุด ทุกเวลา เพื่อดูว่าในช่วงเวลาการเกิดเหตุ บุ้งมีอาการอย่างไร และตะวันอยู่จุดไหนอย่างไร แล้วจะได้นำมาเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านเอกสารเพื่อให้เกิดการคลายข้อสงสัยทั้งหมด
ส่วน น.ส.ทานตะวัน ตอนนี้ได้กลับมารับประทานอาหารตามปกติแล้ว และอยู่ในการดูแลของ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ส่วนนายแฟรงค์ ณัฐนนท์ ก็ได้กลับมารับประทานอาหารเช่นเดียวกัน ตอนนี้อยู่ในการดูแลของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/FZQL79RX1ro