สังคม

‘เสี่ยเจษ’ ยันถูกกลั่นแกล้ง หลังโดนแจ้ง 4 คดี ขนย้ายกากแร่แคดเมียม

โดย attayuth_b

18 เม.ย. 2567

57 views

นายเจษฎาพร้อมภรรยา เข้าพบตำรวจ ปทส. เพื่อรับทราบข้อหา 4 คดี กรณีขนย้ายกากแร่แคดเมียม ด้าน ปทส. จ่อตรวจสอบเจ้าของบริษัท


วันนี้ (18 เม.ย.) เวลา 08.00 น. นายเจษฎา พร้อม นางวรรณา เก่งรุ่งเรืองชัย ภรรยา และทนายความ เข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. ตามหมายเรียกครั้งที่ 2 และพูดกับสื่อก่อนเข้าห้องสอบสวนว่า กากอุตสาหกรรมที่มีถูกต้องทั้งหมด โดยนำเอกสารหลักฐานทั้งหมดมาชี้แจงกับพนักงานสอบสวน

โดยใช้เวลาในการสอบปากคำราว 4 ชั่วโมง ก่อนจะออกมาเปิดเผยว่า ตอนที่ไปประมูลมีโรงงานอื่นร่วมประมูลด้วยอีก 4 โรงงาน ซึ่งเขาประมูลมาได้ในราคา 8 ล้านบาท ก่อนจะได้ทำสัญญาเพื่อซื้อแร่สังกะสี ทั้งหมด 13,800 ตัน เพื่อจะนำแร่สังกะสีไปขายต่อกิโลกรัมละ 300 กว่าบาท แต่กากแร่ดังกล่าวมีกากแร่แคดเมียมผสมอยู่ด้วย จึงต้องส่งกากแร่ไปคัดแยกเอาแคดเมี่ยมออกไป ที่ สปป.ลาว ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินเรื่องจากกรมโรงงานอยู่ ก็มาเกิดเรื่องก่อน พร้อมยืนยันว่า กากแร่แคดเมี่ยม 13,800 ตัน ตอนนี้เจอครบแล้ว แต่ที่ตรวจน้ำหนักแล้วเหลือแค่ 12,000 ตัน เพราะกากแร่ตอนแรกมันเปียก พอแห้งทำให้ปริมาณก็จึงลดลง

นักข่าวถามว่า ตามสัญญาที่เซ็นต์กับบริษัทเบาด์และบียอนด์ คือ ซื้อมาเพื่อนำไปกำจัด ทำไมถึงนำไปขายต่อ นาย เจษฎา บอกว่า เขาหมุนเงินไม่ทันจึงต้องนำบางส่วนไปขายให้กับนาย จาง ก็ยอมรับว่าทำผิดสัญญา แต่เขาไม่ใช่นอมีนีทุนจีน แค่ทำธุรกิจซื้อขายกับคนจีนเท่านั้น

นายเจษฎา บอกว่า รู้สึกเหมือนถูกหลอกและโดนลอยแพ จากสัญญาที่ทำกับบริษัทต้นทาง เขาต้องเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด เหมือนเค้าหลอกขายแร่ หลอกให้เซ็นต์ผูกมัดผมอีก เอาเปรียบทุกอย่าง ตอนแรกก็สงสัยในประเด็นนี้ แต่เมื่อมองในแง่ของกำไร เขาได้กำไรมากกว่าจึงไม่ได้สนใจอะไร หากถามว่าจะต้องมีคนผิดจริงๆ ควรต้องไปที่ต้นทางผู้ก่อกำเนิดว่าถูกต้องหรือไม่ และหลังจากนี้จะดำเนินคดีฟ้องกลับคนที่ทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียงด้วย

ส่วนที่หลายฝ่ายบอกว่ากากแร่แคดเมี่ยมที่เขาครอบครองอันตราย ยืนยันว่า เป็นการนำเสนอข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เพราะกากแร่ของเขามีแคดเมี่ยมผสมอยู่แค่ 38% เท่านั้น เนื่องจากโรงงานต้นทางที่ถลุงแร่ได้ฝังกลบ และโรยปูนขาว ปูนพอตแลนต์ลงไป ทำให้ปริมาณความเข้มข้นของกากแร่แคดเมียมนั้นลดลง จึงสามารถซื้อขายได้ และไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ เนื่องจากปริมาณที่จะส่งผลอันตรายต่อมนุษย์ ต้องสูงถึง 100 -150 %

ที่ผ่านมาสื่อนำเสนอข่าวเรื่องโทษ และพิษภัยของกากแคดเมียมที่รุนแรงเกินความเป็นจริง ทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ส่วนที่คนในโรงงานและคนรอบโรงงานออกมาบอกว่าได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ นายเจษฎา บอกว่า เจ้าหน้าที่ต้องไปตรวจสอบโรงงานรอบ ๆ ด้วย

วันนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานายเจษฎา 4 คดี คดีแรก ที่ตั้งบริษัท เจแอนด์บี 132 หมู่ 2 ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมืองสมุทรสาคร ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทใหญ่ จะมีความผิด ตาม พ.ร.บ.โรงงาน

คดีที่ 2. ที่ตั้งบริษัท เจแอนด์บี 136/2 หมู่ 2 ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมืองสมุทรสาคร มีความผิด ข้อหา ครอบครองวัตถุอันตราย เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ไม่ได้อยู่ในใบอนุญาตเป็นปลายทางของกากแคดเมียม

คดีที่ 3 มีความผิดข้อหา ร่วมกันครอบครองวัตถุอันตราย กรณีที่ได้ทำสัญญากับโกดังเลขที่ 70/2 ม.7 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ของนายหนุ่ม ในการเก็บเช่าโกดังเก็บกากแคดเมียม

และคดีที่ 4 ความผิดข้อหา ครอบครองวัตถุอันตราย กรณีเป็นกรรมการบริษัท ล้อโลหะไทย แมททอล จำกัด ย่านบางซื่อ กรุงเทพมหานคร ที่นำกากแคดเมียมมาฝากไว้

ขณะที่พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการ ปทส. เปิดเผยว่า จากการคุยนอกรอบกับนายเจษฎา ยอมรับว่า การซื้อขายกากแคดเมียมมีการทำสัญญากับบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด ซึ่งขายให้ตามน้ำหนัก กิโลกรัมละ 1บาท 25 สตางค์ โดยในสัญญา บริษัท เจ แอนด์ บี ฯ เป็นผู้ซื้อที่จะรับไปกำจัด ตอนแรกพยายามส่งออกไปหลอมที่ สปป.ลาวโดยมีคนจีนรอรับซื้อ เพราะที่ สปป.ลาวมีบริษัทที่สามารถ แยกแคดเมียม ทองแดงและสังกะสีได้ และถูกต้องตามกฎหมาย แต่ปรากฎว่า มีนาย จางติดต่อขอซื้อกากแคดเมียม 5,000 ตัน จึงขายให้กิโลกรัม 8 บาท 25 สตางค์ ซึ่งนายจางจัดรถมารับไปเก็บไว้ที่จังหวัดชลบุรี เพื่อที่นาย จาง จะนำไปขายต่อให้คนอื่นอีกที

ส่วนล็อตที่จะส่งไป สปป.ลาว ยังอยู่ในระหว่างการเจรจา ไม่มีการตกลงที่แน่ชัด แต่ตำรวจเชื่อว่าการประเมินราคาไม่น่าจะต่ำกว่ากิโลกรัมละ 8 บาท 25 สตางค์ แน่นอน

สำหรับบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด ซึ่งมีกระทรวงการคลังถือหุ้นอยู่ด้วย ผู้บังคับการ ปทส. ระบุว่า ต้องรับผิดชอบตามประกาศกระทรวง ปี 66 และผู้ก่อมลพิษก็ต้องรับผิดชอบหากก่อมลพิษ ส่วนการขนย้ายยังไม่พบว่ามีความผิด เพราะในสัญญาซื้อขายระบุชัดว่า ให้ เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด รับผิดชอบทั้งหมดทั้งประสานงานเจ้าหน้าที่การขนย้าย การขอ EIA ผู้ขายจะไม่รับผิดชอบ โดยให้วางเงินมัดจำไว้ประมาณ 10 ล้านบาท หากมีความเสียหาย พร้อมได้ทำหนังสือส่งไปถึงอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ให้พิจารณาว่าเบาด์ แอนด์ บียอนด์ มีความผิดอะไรบ้าง หากพบความผิดให้อุตสาหกรรมจังหวัดตากเป็นผู้ร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวนบก.ปทส.




รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Zacjcf8qi_8

คุณอาจสนใจ

Related News