เปิดนาทีบุกจับ 'ไฮโซ' ขืนใจสาว หลังเหยื่อเครียดโดดตึกเจ็บสาหัส เจ้าตัวปัดข้อกล่าวหา อ้างคบหากัน

สืบนครบาล รวบ ไฮโซโจ เจ้าของแบรนด์กล้วยทอดชื่อดัง เปิดร้านกัญชา แล้ว เอากุญแจบ้านเหยื่อที่ฝากไว้ บุกเข้าไปขืนใจเหยื่อถึงในบ้าน เหยื่อสาวเครียดจัดกระโดดตึกลงมาจากชั้น 4 ของร้าน อาการสาหัส



มีภาพวงจรปิดภายในร้านขายกัญชาที่ตั้งอยู่ในซอยศาลาแดง 3 ของ นาย วชิรวิชญ์ หรือ ไฮโซโจ เจ้าของแบรนด์ขนมกล้วยชื่อดัง วัย 42 ปี จับภาพวินาทีที่หญิงสาวผู้เสียหายวัย 29 ปี กระโดดลงมาจากชั้น 4 ของร้าน ตอนประมาณ 6 โมงเย็นของวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา มีรายงานว่าวันเกิดเหตุผู้เสียหายกลับมาจากงานถ่ายแบบ แล้วตรงมาที่ชั้น 4 ของร้านแล้วกระโดดลงมาทันที



ซึ่งชนวนเหตุของการกระโดดลงมาครั้งนี้ พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า หญิงสาวเป็นนักแสดงอิสระ มีหน้าตาดี และพักอาศัยอยู่ใกล้กับร้านกัญชาของผู้ต้องหา เคยมาใช้บริการที่ร้านหลายครั้ง แต่ช่วงเช้ามืดวันที่ 13 มีนาคม "ไฮโซโจ" บุกรุกเข้ามาในบ้านแล้วข่มขืนเธอ ซึ่งในวันเกิดเหตุเธอไปแจ้งความ สน.ทุ่งมหาเมฆ พนักงานสอบสวนหญิงต้องใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมง ในการสอบปากคำ เพราะเธอร้องไห้เสียใจตลอดเวลา



จากการสอบปากคำในวันนั้นผู้เสียหาย ยืนยันว่า ไม่ได้รู้จักกันกับผู้ก่อเหตุมาก่อน แต่ผู้ก่อเหตุได้บุกรุกเข้ามา และระหว่างก่อเหตุ ได้มีการพูดคำพูดหยาบคายว่า "กูจะ(เย)จนมึงตาย" ทำให้ผู้เสียหายเครียด และไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับใคร สุดท้ายจึงก่อเหตุสลดขึ้น



หลังจากนั้นพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ขอศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับ "ไฮโซโจ" ในข้อหา "ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน" ตำรวจสืบสวนนครบาลไปติดตามจับได้ที่คอนโดมิเนียมหรู ย่านลุมพินี วานนี้ (20มี.ค.)



สอบสวนเบื้องต้น ไฮโซโจ ให้การปฏิเสธอ้างว่า รู้จักคบหาดูใจกับมาผู้เสียหาย แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะจากข้อมูลที่ได้จากผู้เสียหายนั้น มองว่า ทั้งคู่อาจไม่รู้จักกันมาก่อน หรืออาจแค่เจอกันในร้านกัญชา แต่ไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง เพราะถ้าเป็นคนรักกัน ไม่น่าจะมีคำพูดแบบนี้ และเมื่อผู้เสียหายบาดเจ็บอาการโคม่า ผู้ต้องหาก็ไม่ได้เคยไปเยี่ยมหรือแสดงความห่วงใยเลย



ขณะที่เมื่อคืนนี้ ไฮโซโจ ไม่ได้ให้การอะไรกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เลย บอกว่าจะขอรอให้การพร้อมทนายความเท่านั้น และได้ยื่นเงินสดเป็นหลักทรัพย์ขอประกันตัว 3 แสนบาท พนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และมีตำแหน่งหน้าที่การงานและมีรายได้ และไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยนัดมาสอบปากคำอีกครั้งในวันที่ 30 มีนาคมนี้



ทีมข่าวลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ ที่ร้านกัญชาแห่งหนึ่งย่านสีลม พบว่าวันนี้ร้านปิด โดยมีคนอยู่ในร้าน แต่ปฏิเสธที่จะพูดคุยกับผู้สื่อข่าว



ขณะที่ร้านค้าใกล้เคียง เปิดเผยว่า ร้านกัญชานี้มาเปิดได้ประมาณเกือบ 1 ปีแล้ว ทราบว่ามีหุ้นส่วนหลายคน ส่วนกับ นายโจ จะเห็นมาที่ร้านบ่อยๆ เป็นคนอัธยาศัยดี ส่วนกับผู้เสียหาย ก็เป็นคนสวย หน้าตาดี ผู้เสียหายมาที่ร้านนี้ประจำ หลายครั้งที่เห็นตอนกลับอยู่ในสภาพมึนเมา นายโจ ก็จะประคองไปส่งที่บ้าน เห็นว่าทั้งคู่สนิทกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าในฐานะอะไร ส่วนแฟนของนายโจ ก็จะมานั่งทำงานที่ร้านบ่อยๆ ในวันเกิดเหตุเขาไม่ทราบเรื่อง มารู้ตอนที่ผู้เสียหายกระโดดลงมาแล้ว ซึ่งพอรู้ทีแรกก็ยังคิดว่า เมาแล้วตกลงมาหรือไม่ ไม่คิดว่าจะเป็นเพราะเหตุผลนี้



มีรายงานว่า ผู้เสียหายมีบ้านอยู่ห่างจากร้านกัญชาของผู้ก่อเหตุราว 500 เมตร มักจะมาใช้บริการที่ร้านกัญชาบ่อยครั้ง จนเกิดความสนิทสนมไว้ใจ ถึงขั้นฝากกุญแจบ้านไว้ เพื่อให้ไปส่งเวลามึนเมา หรือฝากให้ดูแลสัตว์เลี้ยงเวลาที่ไม่อยู่บ้าน ซึ่งในวันเกิดเหตุ ผู้เสียหายนอนหลับอยู่ภายในห้องนอนในบ้าน ส่วนผู้ต้องหามีอาการมึนเมา ซึ่งตำรวจมีหลักฐานว่า ผู้ต้องหาเอากุญแจบ้านที่ผู้เสียหายฝากไว้ ไปไขหน้าประตูบ้านแล้วเข้าไปด้านใน



ทีมข่าวพยายามติดต่อไปที่ผู้ต้องหา เพื่อสอบถามรายละเอียดข้อเท็จจริง แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/B952F-0OPs0