สังคม

ทนายอธิบดีกรมการข้าวแฉตัวละครลับ 'นาย ป.' อดีตผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ เอี่ยว 'ศรีสุวรรณ' ตบทรัพย์

โดย panisa_p

29 ม.ค. 2567

76 views

ทนายอธิบดีกรมการข้าวแฉเพิ่ม นาย ป. นักการเมือง อดีตผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ และที่ปรึกษากระทรวงเกษตรฯ สนับสนุน "ศรีสุวรรณ" ตบทรัพย์



ความคืบหน้ากรณีที่นาย ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว และนาง ธัญญรัตน์ ไชย์ศิริคุณากร ภรรยา ถูกนาย ศรีสุวรรณ จรรยา นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก  และนางสาวพิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ ข่มขู่เรียกเงิน เพื่อแลกกับการยุติเรื่องร้องเรียนทุจริตเบิกจ่ายงบประมาณรัฐ จนตำรวจ ปปป. ต้องบุกเข้าจับเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา



นายดนุเดช ศิริวงษ์ตระกูล ทนายความ และที่ปรึกษากฎหมายอธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีบัตรสนเท่ห์ส่งมาที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้องเรียนอธิบดีกรมการข้าว ทำให้ถูกเรียกเข้าไปชี้แจง และยืนยันว่างบดังกล่าวได้โอนไปให้ ธ.ก.ส. แล้ว ทำให้อธิบดีกรมการข้าวได้มาปรึกษาว่าถูกคนกลั่นแกล้ง ต่อมาที่ปรึกษาของผู้บริหารของกระทรวงเกษตรฯ เรียกอธิบดีกรมการข้าวเข้าไปพบ แม้อธิบดีกรมการข้าวจะยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับงบประมาณก้อนนี้ แต่ที่ปรึกษาของผู้บริหารของกระทรวงเกษตรฯ ได้แนะนำให้ไปเคลียร์กับ นาย ศ. (ศรีสุวรรณ) เพื่อเรื่องจะได้จบ เพราะหากมีการแถลงข่าวจะทำให้เสียหาย และได้นัดให้ไปให้ไปเจอที่บ้าน นาย ศ. เพื่อจ่ายเงินจำนวน 6 หลัก ซึ่งมากกว่า 1 แสนบาท ตอนนั้นคิดว่าเรื่องจะจบจนวันที่ 20 ธันวาคม 2566 นาย ศ. และ นาย จ. (เจ๋ง ดอกจิก) ได้แถลงข่าวที่รัฐสภา เรื่องการทุจริตในกรมฝนหลวง และในช่วงท้ายได้พูดว่า กรมการข้าวแม้จะเป็นกรมเล็ก แต่มีการซุกงบประมาณกว่าหมื่นล้านบาท แถมตั้งภรรยาผู้บริหารให้เปิดบริษัทรองรับการการทุจริต แล้วในวันนั้น นาย จ. ได้โทรมาหาอธิบดีกรมการข้าว แต่อธิบดีไม่ได้รับสาย



วันรุ่งขึ้น นาย จ. ได้โทรเข้ามาอีก บอกว่าจะชวนมากินกาแฟตอนเที่ยง เมื่ออธิบดีกรมการข้าวไปพบ นาย จ. บอกว่าขณะนี้เตรียมตอบสอบงบประมาณ และเตรียมยื่นให้กรรมาธิการตรวจสอบ ซึ่งอธิบดีกรมการข้าว ตอบกลับว่า จะตรวจสอบอะไรเพราะไม่ได้ทำความผิด



เมื่อแยกย้าย นาย จ. ได้โทรมาหาอธิบดีกรมการข้าวอีก และเรียกเงินเพิ่ม อธิบดีกรมการข้าวจึงให้ภรรยาคุยแทน โดยนาย จ. ได้เรียกเงิน 2 โล คือ 2 ล้านบาท ซึ่งภรรยาอธิบดีกรมการข้าวก็ย้ำว่า ทำไมต้องทำแบบนี้เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด หากจะดูแลกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ดูแลได้ จนสุดท้ายมีการต่อรองเงิน เหลือ 1 กิโลครึ่ง คือ 1 ล้าน 5 แสนบาท จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหา ได้ขอให้โอนเงินมาก่อน 1 แสนบาท ซึ่งเขาได้แนะนำให้ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว โอนไปก่อน 5 หมื่นบาท แต่บัญชีที่โอนก็ไม่ใช่ของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน แต่เป็นบัญชีของผู้ชายคนหนึ่ง



ต่อมากลุ่มผู้ต้องหาได้เร่งให้โอนเงินไปให้ครบ 1 แสนบาท ภรรยาของอธิบดีกรมการข้าว จึงโอนเงินไปให้เพิ่มอีก 1 หมื่นบาท ในวันที่ 23 ธันวาคม 66 พร้อมนำหลักฐานไปปรึกษาตำรวจ ปปป.



จากนั้นจึงโทรศัพท์กลับไปหานาย ศ. พูดถึงเงินที่ยังเหลืออีก 1 ล้าน 4 แสนบาท จนวันที่ 6 มกราคม 66 ภรรยาอธิบดีกรมการข้าวได้ไปที่บ้านนาย ศ. เพื่อจ่ายเงินให้อีก 1 แสนบาท โดยมีการถ่ายคลิปขณะที่ นาย ศ. รับเงินไว้ด้วย และนี่คือ หลักฐานที่ทำให้ตำรวจออกหมายจับ และบุกเข้าค้นบ้านในวันที่ 26 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่นำเงินล่อซื้อไปมอบให้อีก 5 แสนบาท ตามที่ตกลง



ด้านทนายยอมรับว่า กังวล เพราะอาจมีฝ่ายการเมืองเข้ามาช่วยเหลือ นาย จ. ให้ไม่มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้ได้รับโทษน้อยลง จากความผิดฐาน "เจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์" อัตราโทษจุกคุกตลอดชีวิต ก็จะเหลือ "กรรโชกทรัพย์" มีโทษจำคุก 1- 10 ปี ปรับ 2 หมื่น - 2 แสนบาท เพราะเป็นพลเรือน และจะกระทบไปถึง นาย ศ. ที่จากเดิมเป็น "ข้อหาสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิด" ก็จะไม่ใช่ข้อหานี้และได้รับโทษน้อยลง



หลังเกิดเรื่องมีอดีตผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชื่อย่อ ป. ติดต่ออธิบดีกรมการข้าว และภรรยา ฝากให้เขาเบา ๆ ในเรื่องนี้ และยุติบทบาท แถมยังพูดในทำนองข่มขู่ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว ซึ่งทำธุรกิจฟาร์มหมูและฟาร์มไก่ ให้ไปเชื่อมโยงกับคดีหมูเถื่อนและตีนไก่เถื่อนด้วย



ด้านทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ บอกว่า จากการสอบถามกับตำรวจทราบว่าพฤติกรรมของนักร้องเรียนประเภทตบทรัพย์ มักจะโพสต์เฟซบุ๊กก่อนว่าจะมีการแถลงข่าว และแจ้งหมายข่าวล่วงหน้าว่าจะไปร้องเรียนใคร หลังจากนั้นจะยกเลิกหมายข่าว หรือถ้าไปร้องเรียน จะไปยื่นซองเปล่าไม่มีเอกสารอยู่ด้านใน มีเพียงกระดาษแผ่นเดียว และเมื่อถูกเรียกไปสอบสวนก็จะไม่ไปพบ และเงียบหายไป โดยลักษณะของคนเหล่านี้จะไม่มีอาชีพ ไม่มีหลักฐานการเสียภาษี แต่มีเงินใช้อยู่ตลอด



ผู้ถูกร้องเรียนส่วนใหญ่จะไม่กล้าเอาผิดคนกลุ่มนี้ อาจจะเพราะมีพฤติกรรมตามที่ถูกร้องเรียนจริง ส่วนใหญ่คนที่โดนตบทรัพย์จะเป็นตำรวจในพื้นที่ที่มีบ่อนการพนันเยอะ ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของความขัดแย้งทางการเมือง แต่เป็นเรื่องของการตบทรัพย์ล้วนๆ และน่าจะทำมานานแล้ว หากใครที่เคยโดนควรออกมาแสดงตัว ไม่จำเป็นต้องมีคลิปหลักฐานใดๆ แค่มายืนยันว่าถูกตบทรัพย์ก็สามารถเอาผิดได้แล้ว



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/7nuubjf-gDE

คุณอาจสนใจ

Related News