'แอม ไซยาไนด์' หน้าเศร้าขึ้นศาล 'ทนายพัช' ไม่หวั่นตรวจหลักฐาน มั่นใจคดีนี้ชนะแน่

วันนี้ ศาลอาญา รัชดาภิเษก นัดไต่สวนพยานหลักฐาน คดีการเสียชีวิตของ "ก้อย" คุณแม่ลูกหนึ่งที่เสียชีวิต ขณะปล่อยปลาที่ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยทนายเดชา ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 31 ล้าน แต่ทนายพัชสู้กลับบอก คดีนี้ "ชนะแน่"



ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ เดินทางมาที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก พร้อมกับแม่ของนางสาว ศิริพร ขันวงษ์ หรือก้อย 1 ในผู้เสียชีวิตที่ถูกวางยาไซยาไนด์ที่จังหวัดราชบุรี เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อนัดตรวจพยานหลักฐานในคดี ที่ฟ้องนางสาว สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ไซยาไนด์ จำเลยที่ 1 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น และอีกหลายฐานความผิด พันตำรวจโท วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามีของแอม จำเลยที่ 2 และนางสาว ธันย์นิชา เอกสุวรรณรัตน์ หรือทนายพัช ทนายความของแอม จำเลยที่ 3 ในความผิดฐานร่วมกันทำลายหลักฐาน เพื่อช่วยเหลือแอม ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้เบิกตัวแอม จากทัณฑสถานหญิงกลางมาตั้งแต่เช้า



ทนายเดชา เปิดเผยก่อนขึ้นศาลว่า จากพยานหลักฐานทั้งหมดทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พยานบุคคล ผลการชันสูตรพลิกศพ ก็มั่นใจว่าสามารถเอาผิดผู้กระทำผิดได้ เป็นห่วงก็แต่จำเลย ว่าหลักฐานแน่นแล้วยังสู้คดี ใจต้องได้มากทั้ง 3 คน ซึ่งในคำฟ้อง ระบุไว้ด้วยว่า นางสาว ธันย์นิชา พูดยุยงให้ รองอ๊อฟ อดีตสามีของแอมว่า "ถ้าจะสู้ให้หลุด ก็ต้องไม่ปรากฏของกลาง" และ "มีคดีที่ศาลยกฟ้องเพราะไม่มีของกลาง ซึ่งคดีนี้ก็ควรทำให้ไม่มีของกลาง" ซึ่งในวันนี้ ครอบครัวก้อยจะฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 31 ล้านบาทด้วย



ราว 10 โมง ทนายพัช เดินทางมาถึง บอกกับนักข่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ว่า วันนี้มาในฐานะทนายความของแอมและตัวเอง ซึ่งหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะนำมาเป็นข้อต่อสู้ คือ ใบบันทึกประจำวันตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ลงไว้ว่ามีการสั่งซื้อไซยาไนด์ผ่านช่องทางออนไลน์ และหลังจากนั้น เมื่อไปตรวจค้นที่บ้านแอมก็ไปเจอไซยาไนด์ และเจอทุกๆ ที่ ที่เข้าตรวจค้น และตอนตำรวจจับแอม ก็ไม่ได้จับพร้อมของกลาง ถ้าคนร้ายกระทำผิด ควรหาหลักฐานของคนร้าย ไม่ใช่หลักฐานที่เทียบเคียง บรรยากาศภายในห้องพิจารณาคดี ศาลได้เบิกตัว แอม ขึ้นมายังห้องพิจารณาคดี ผู้สื่อข่าวสังเกตได้ว่า "แอม" มีลักษณะซูบผอมลงไปมาก สายตาเศร้าหมอง และไม่ได้มองใครที่นั่งอยู่ภายในห้องพิจารณาคดีเลย



ส่วน "รองอ๊อฟ" มีท่าทีเครียดอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งตอนแรก "รองอ๊อฟ" นั่งห่างจาก "แอม" แต่ "แอม" ได้หันมามอง ทำให้ "รองอ๊อฟ" ขยับไปนั่งใกล้ "แอม" และพูดคุยกันเป็นระยะ จากการไต่สวนจำเลยทั้ง 3 คน ให้การปฏิเสธ ศาลจึงเลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานเป็นวันที่ 20 พฤศจิกายน เวลา 9 โมง เนื่องจาก ทนายจำเลย แถลงต่อศาลว่า เอกสารที่ต้องตรวจมีเป็นจำนวนมาก และเพิ่งได้เห็นเอกสารในวันนี้ จึงขอเลื่อนการพิจารณาไปนัดหน้า



หลังลงจากศาลมาแล้ว แม่ของก้อย บอกกับสื่อว่า ภายในห้องพิจารณาคดี "แอม" ไม่ได้มาพูดคุยกับเธอเลย แต่เธอก็ได้พูดออกไปว่า ขอให้ติดคุกให้ตาย เวรกรรมตามสนอง เพราะมาพรากลูกพรากแม่ ซึ่งแอมก็นั่งเฉย ไม่มองหน้า ทำเหมือนเหมือนไม่ได้ยิน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/My0q2dmx4gE