10 ชีวิตเดือดร้อนหนัก บ้านพังจากสะพานลาดกระบังถล่ม ไร้ที่นอน วอนรัฐเร่งช่วย

ผ่านมาเกือบครบ 24 ชั่วโมงแล้ว แต่จนถึงขณะนี้การเคลื่อนย้ายซากสะพานยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบัง ที่ถล่มลงมาทับถนนและอาคารพาณิชย์ที่อยู่ใกล้เคียง แทบจะไม่มีความคืบหน้า ขณะที่ครอบครัวช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ 10 ชีวิต ยังไร้ที่นอน ต้องไปอาศัยตามบ้านเพื่อน



ช่างวัด เจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ที่อยู่ในอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ริมถนนหลวงแพ่ง ซึ่งตั้งอยู่ติดกับปั๊มน้ำมัน ห่างจากจุดก่อสร้างทางยกระดับไม่ถึง 10 เมตร เล่าว่า ได้ยินเสียงโครงสร้างเหล็กของสะพานดัง คล้ายเสียงปะทัดถูกจุดรัวๆ หลายนัด แล้วโครงเหล็กก็พังครืนลงมาเป็นลูกระนาด เขาซึ่งกำลังขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไปพอดีต้องหนีเข้าไปในปั้มน้ำมัน พอเข้าไปในบ้านก็เห็นว่าบ้านเสียหายจากทางยกระดับที่พังลงมา แต่ยังเคราะห์ดีที่คนในบ้านไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ



ตอนนี้ทำได้แค่ปลอบใจตัวเอง "ว่าไม่เป็นไร" แต่ก็ยังไม่รู้อนาคตว่าจะต้องทำยังไง เพราะมีลูกหลานที่อยู่ในบ้านซึ่งเขาต้องดูแลถึง 10 คน เมื่อเกิดเหตุแบบนี้รายได้จากการซ่อมรถที่เคยได้รายวันก็ไม่มี บ้านก็พัง ไหนจะค่าเสียหายรถของลูกค้าที่นำมาซ่อมอีก



เช่นเดียวกับ นางสาว สุดารัตน์ หมั้นจิตร ลูกสะใภ้ของช่างวัด เล่าวินาทีหนีตายว่า ตอนเกิดเหตุกำลังทำกับข้าวอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงดังคล้ายรถชน แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุทางยกระดับถล่ม ซึ่งตอนนั้นในบ้านมีหลานชายวัย 2 ขวบ นอนอยู่กับพี่ชายสามีที่ชั้น 2 วิ่งลงมาบอกว่า ให้หนีออกจากบ้านให้เร็วที่สุด พอออกมาได้ก็เห็นว่าบ้านโดนทางยกระดับที่พังถล่มทับ โชคดีที่ตอนนั้นลูกชายกับสามีไม่อยู่บ้าน เพราะปกติจะนินเล่นกันอยู่ที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นส่วนที่โครงสร้างเหล็กหล่นมาทับพังทั้งหลัง



ขณะที่ นาง นวลจันทร์ ภรรยาช่างวัด บอกว่า เมื่อวานนี้เธอมีลางสังหรณ์แปลกๆ เพราะตอนที่ออกมายืนหน้าบ้านก็ยังคิดเลยว่าโครงเหล็กก่อสร้างทางยกระดับดูไม่ค่อยแข็งแรงจะเกิดอันตรายไหม และไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นก็เกิดเหตุขึ้นจริงๆ และตอนนี้ทั้ง 10 ชีวิต ยังไม่มีที่นอน แต่ละคนต้องกระจายไปขอนอนตามบ้านเพื่อน หรือคนรู้จัก ส่วนการเยียวยาช่วยเหลือยังไม่มีใครติดต่อมา



ส่วนความคืบหน้าการรื้อถอนทางยกระดับเพื่อเปิดการจราจร จนถึงขณะนี้ยังคืบหน้าไปไม่ถึง 10% เพราะตลอดทั้งวันเพิ่งจะรื้อรถที่ติดอยู่ภายในออกมาได้ แต่ยังเหลืออีก 1 คัน รื้อเสาไฟฟ้าแรงสูงออกได้ และเคลื่อนย้ายเสาสีฟ้าที่มีความยาว 12 เมตร ที่พังถล่มทับบ้านของช่างวัดออกได้แค่ 2 เส้น เหลืออีก 12 เส้น



ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐพงศ์ มกระธัช ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาสิ่งแวดล้อมและกายภาพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ในฐานะอนุกรรมการโครงสร้างและสะพาน วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่มาพร้อมกับที่ปรึกษาและทีมวิศวกรอาวุโส เพื่อตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการถล่มของสะพานยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบัง ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง



โดยภายหลังการตรวจสอบโครงสร้างที่เสียหายรวมถึงการประเมินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างแล้วเสร็จ นายณัฐพงศ์ เปิดเผยว่า โครงสร้างที่ถล่มลงมาถือว่ามีขนาดใหญ่ ประกอบกับพื้นที่คับแคบ อาจจะทำให้การทำงานมีความล่าช้าบ้าง อยากให้ประชาชนเข้าใจการทำงานว่าทำได้ค่อนข้างยาก ส่วนการใช้รูปแบบการก่อสร้างแบบ Launcher ที่มีคานเหล็กสีฟ้าที่อยู่ด้านบนเป็นตัวการก่อสร้างชั่วคราว เป็นวิธีการก่อสร้างที่ใช้อยู่ทั่วโลก เพราะมีความสะดวก รวดเร็ว กระทบการจราจรน้อย จึงถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะทำให้ประชาชนยังสามารถสัญจรได้ปกติ โดยหากทำตามหลักวิศวกรรมทั้งหมดค่อนข้างมีประโยชน์มากกว่ามีข้อเสีย



สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ จะทำการถอดบทเรียนจากปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อเผยแพร่ให้วิศวกรที่ทำงานในขณะนี้ทำการตรวจสอบขั้นตอนการทำงานให้รอบคอบและปลอดภัยมากขึ้น แม้ว่าการก่อสร้างจะต้องเร่งทำงานให้ทันกับเวลาสิ้นสุดสัญญาจ้าง แต่ก็ควรเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก และการถอดบทเรียนก็จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้



ส่วนสิ่งที่ต้องระมัดระวังในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่เสียหายออกจากพื้นที่ ขณะนี้แม้จะมีประกายไฟจากการตัดเหล็กหรือน้ำมันเชื้อเพลิงจากรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย แต่จากการสอบถามทีมวิศวกรอาวุโส มั่นใจว่าไม่มีผลกระทบรุนแรงถึงขั้นต้องอพยพประชาชนจากพื้นที่และสามารถควบคุมได้ เพียงแต่ต้องใช้ระยะเวลา 7 วัน ซึ่งเหมาะสมที่สุด เพราะไม่ควรเร่งรื้อถอน อาจเกิดเหตุสุดวิสัยได้ โดยเฉพาะช่วงกลางคืนอาจจะทำงานยากกว่ากลางวัน แต่ขอให้เชื่อมั่นในฝีมือเจ้าหน้าที่เพราะมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้เป็นอย่างดี ขอเพียงให้ประชาชนเข้าใจและหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางดังกล่าวในระหว่างนี้ก่อน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/TouzbJWBL7g