ตร.ยกเลิกส่งตัว พ่อ-แม่ 'น้องต่อ' เข้าเครื่องจับเท็จ นำตัวไป สภ.เพื่อสอบปากคำแทน

เข้าสู่วันที่ 11 ที่น้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือนหายตัวปริศนา และยังไร้ร่องรอย หรือเบาะแส ล่าสุดวันนี้ ตามกำหนดการตำรวจจะพาทั้งพ่อ และแม่เด็กไปเข้าเครื่องจับเท็จ แต่ท้ายสุดก็ยกเลิกไป แต่ในพื้นที่ปรากฏว่ามีความเคลื่อนไหวตลอดทั้งวัน



ตั้งแต่ช่วงเช้าประมาณ 8 โมง นางสาวนิ่ม และนายพุด พ่อและแม่ของน้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือน ถูกผู้ใหญ่บ้านพาขึ้นรถจากบ้านออกไป ก่อนที่จะกลับมาตอน 9 โมงกว่า โดยนิ่มบอกว่า ผู้ใหญ่บ้าน พาไปที่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน เพื่อสอบถาม และสอบถามว่าสิ่งที่สัมภาษณ์สื่อหรือให้ปากคำตำรวจ ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ก่อนที่เจ้าตัวจะยืนยันว่าเป็นความจริง

นิ่ม บอกว่า ตามเดิมตำรวจจะพาตน และพุด ไปเข้าเครื่องจับเท็จ ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน1 จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเดิมจะเดินทางกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า ต่อมาตำรวจแจ้งกับตนทั้ง 2 เมื่อคืนนี้ว่าไม่ต้องไปแล้ว ซึ่งทั้งคู่ยืนยันว่า พร้อมให้นำตัวเข้าเครื่องจับเท็จได้ทุกเวลา



ประมาณ 10 โมง หลังจากที่พูดกับนิ่ม พ่อแม่ของน้องต่อ นั่งรับประทานอาหารเช้า จู่ๆ ก็มีรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สีบรอนซ์ถอยเข้ามาจากปากซอยหมู่บ้าน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปในบ้าน และขอความร่วมมือ เชิญตัวไปที่

สภ.บางหลวง จ.นครปฐม อีกครั้ง



ขณะที่วันนี้ก็ตำรวจได้พาตัว "ลุงพวง" หนึ่งในเพื่อนบ้าน ที่อยู่ละแวกเคียงไปสภ.ด้วย ซึ่งลุงพวง คนที่ไปซื้อของที่ร้านเป็นประจำ เป็นพยานระบุว่าเช้าวันเกิดเหตุยังได้ยินเสียงเด็กร้อง แต่ไม่เห็นตัวเด็ก เช่นเดียวกับลุงวี ที่เป็นพยานซึ่งระบุว่า ช่วงเช้าวันเกิดเหตุเห็นชายเสสื้อเหลือง กึ่งเดินกึ่งวิ่ง ออกจากบ้านของพุด และนิ่มไป ก็ถูกเอาตัวมาสอบสวนด้วย



ลุงวี บอกว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกับตำรวจเพิ่มเติม เป็นครั้งที่3แล้ว ยังยืนยันคำเดิมว่าเห็นชายเสื้อเหลืองจริง พร้อมกับทำท่าทางให้ทีมข่าวดู ว่าเห็นชายเสื้อเหลือง มือคล้ายกับอุ้มเด็ก ท่าทางดูมีพิรุธ ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 6 โมงกว่าๆ สาเหตุที่เวลาไม่ชัวร์ เพราะตนเองไม่ได้ดูนาฬิกา เป็นแค่การกะเกณฑ์เอาเท่านั้น  ตอนนั้นเข้าใจว่าชายคนนี้น่าจะแอบมาลักเล็กขโมยน้อยในชุมชนหรือเปล่า ไม่ได้สงสัยว่าเป็นการขโมยเด็กก็เลยไม่ได้วิ่งตามไปกระทั่งมารู้ทีหลังว่าน้องต่อหายตัวไป



ทุกครั้งตนก็ตอบคำตอบแบบเดิม แม้ว่าจะถูกถามอีกสักกี่ครั้ง เพราะเห็นจริง แต่ที่ไม่สามารถบอกรูปพรรณสัณฐานของชายคนดังกล่าวได้เพราะตาเป็นต้อ มองไม่ค่อยชัด ทันทีที่พูดจบ ลุงวีก็ถอดแว่นส่งให้นักข่าวดู ว่าเเว่นดังกล่างเป็นเพียงแว่นกรองแสง ไม่ใช่แว่นที่มีค่าสายตาทีมข่าวพยายามสอบถามว่า แล้วหลังจากนี้ตำรวจจะติดต่อให้ลุงวีเข้าเครื่องจับเท็จหรือไม่  ลุงวีตอบสั้น ๆ ว่า "เเล้วจะไปเข้าไปทำอะไร"

https://youtu.be/98uKHFu7JDA