สังคม

แม่น้องไตตั้นวัย 6 เดือน ร้องลูก ถูกเพื่อนรักทำร้ายสมองบวม กะโหลกร้าว อยู่ไอซียู

โดย parichat_p

25 ม.ค. 2566

196 views

แม่น้องไตตั้น เด็กชายวัย 6 เดือน ร้องขอความเป็นธรรม ให้ช่วยเหลือ หลังฝากลูกให้เพื่อนรักและสามีดูแล ขณะไปแอดมิดผ่าตัด ลูกลับมีอาการสมองบวม และกะโหลกร้าว รักษาตัวอยู่ไอซียู ด้านเพื่อนรักบอกกับแม่ว่าปฏิเสธไม่ได้ทำ อ้าง ฉันก็รักหลานเหมือนกัน


โดยเพจอีซ้อขยี้ข่าว 2 ได้โพสต์ข้อความแจ้งข่าวขอความช่วยเหลือ ให้ช่วยน้องไตตั้น วัย 6 เดือน ถูกเพื่อนสนิทของแม่น้อง ทำร้ายร่างกาย ตอนนี้อยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา อาการวิกฤต มีภาวะสมองบวม และกะโหลกร้าว


โดยทีมข่าวลงพื้นที่ จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านเช่าชั้นเดียว หมู่ 3 ในตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านที่นางสาวไนซ์ อายุ 30 ปี แม่ของเด็ก และน้องไตตั้น ลูกชายวัย 6 เดือน มาขออาศัยอยู่กับนางสาวเอ (นามสมมติ) และนายบี สามี ซึ่งเปิดเป็นร้านขายลูกชิ้น และน้ำแข็งใส


แต่วันนี้ทั้งคู่ ได้ย้ายออกไป และประตูร้านถูกปิด ไม่มีผู้อยู่อาศัยแล้ว จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลว่า แม่ของเด็ก อายุ 30 ปี มาขออาศัยกับนางสาวเอ ซึ่งเป็นเพื่อนมานานหลายเดือน และอยู่กับลูกชายวัย 6 เดือน แต่ต่อมาต้องผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี จึงต้องฝากเพื่อน และสามีเพื่อนดูแลน้องไตตั้นแทนตนเอง


-ในวันที่ 12 มกราคม แม่ฝากน้องไตตั้นไว้กับ2สามีภรรยาเพื่อนสนิท เพื่อตัวเองจะไปแอดมิดที่พ. รอผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี

-13 มกราคม เป็นวันที่เกิดเหตุ โดยน้องไตตั้นอาเจียน ชักเกร็ง ก่อนพาส่งเข้าห้องไอซียู รพ. สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา

-14 ม.ค. 66 แม่ทราบข่าวลูกเข้าไอซียู พบรอยช้ำโหนกแก้มซ้าย ยาวถึงกกหู

-18 ม.ค. 66 แม่น้องไตตั้น ไปแจ้งความ สภ.ศรีราชา

-20 ม.ค. 66 ตำรวจขอศาลจังหวัดชลบุรีออกหมายจับ 2 สามีภรรยา

-21 ม.ค. 66 จับกุม 2 สามีภรรยา ให้การปฏิเสธ


ทีมข่าวสอบถามเพื่อนบ้าน บอกว่า ไม่เห็นทั้ง 2 คน ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา และเพิ่งมาทราบภายหลังว่ามีการทำร้ายเด็กวัย 6 เดือน ที่ผ่านมาก็เห็น 2 สามีภรรยานี้ ดูแลเด็กอย่างดี แต่ยอมรับว่าทั้งคู่มักมีปากเสียงกันบ่อยครั้งและเสียงดัง

กระทั่งวันที่แม่เด็กไปผ่าตัดที่โรงพยาบาล ก็ได้ยินเด็กร้องไห้เสียงดังผิดปกติ เหมือนเวลาเด็กป่วย แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งวันรุ่งขึ้น จึงถามไปที่เพื่อนของแม่เด็ก ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งบอกว่าเด็กป่วย ว่าเดี๋ยวจะพาไปหาหมอและตนไม่ทราบว่าเกิดเหตุทำร้ายเด็กตามที่ถูกกล่าวหาจริงหรือไม่


นางสาวไนซ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ตนไว้ใจ และรู้จักเพื่อนคนนี้มานานถึง10 ปี จึงมาขออยู่อาศัย พร้อมกับลูกชายวัย 6 เดือน ที่ผ่านมาทั้งคู่ก็ดูแลและเหมือนรักลูกชายตนเองเป็นอย่างดี ตนไม่ทราบว่าเกิดอะไรกับลูกชาย ซึ่งในวันที่ 13 ม.ค.นางสาวเอ (เพื่อน) โทรมาบอกว่า น้องไตตั้นแอดมิดอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ตนจึงรีบออกจากโรงพยาบาล โดยยังไม่ได้ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี เพื่อรีบมาดูลูก และเห็นใบหน้าลูก มีรอยช้ำที่บริเวณโหนกแก้มซ้าย ยาวไปจนถึงกกหู ตนพยามถามว่า เกิดอะไรขึ้น ทั้งคู่บอกมาแค่ว่า น้องไตตั้นมีไข้สูง และอาเจียน ก่อนที่จะชักเกร็ง จึงพาส่งโรงพยาบาล และยืนยันว่า ไม่ได้ทำอะไร และบอกกับตนว่า "กูก็รักหลานเหมือนกัน"


แต่จากที่ตนเองถามปู่ และย่าของน้องไตตั้น ทราบว่า 2สามี ภรรยา (เพื่อนสนิท)ได้ไปขอเงิน 200 บาทจากปู่ และย่าของน้องไตตั้น ที่ขายของที่ตลาดนัด เพื่อเอาเงินไปหาหมอ โดยอ้างว่า ไตตั้นมีไข้ ตัวร้อน ก่อนที่จะเด็กจะอาเจียนใส่ ปู่กับย่าจึงรีบพาไปที่คลินิกเด็กแห่งหนึ่ง แพทย์วินิจฉัยว่า เป็นไข้หวัด ก่อนจะพากลับไปที่บ้านได้ 1 ชั่วโมง ทั้งสองอ้างว่า ไตตั้นไปชนตู้เย็นที่อยู่ในห้อง ซึ่งตนไม่ปักใจเชื่อ เพราะเด็กอายุเพียง 6 เดือน ยังอยู่ในช่วงหัดคลานอยู่


เบื้องต้นแม่น้องไตตั้น ไม่ปักใจเชื่อคำให้การของ ยอมรับว่าที่ผ่านมาตัวฝ่ายหญิง ดูรักลูกของตนมาก และเพิ่งแท้งลูกไป โดยมีสาเหตุมาจากที่ทะเลาะกับนายบี และประชดด้วยการเอามือทุบท้องตนเอง จนแท้ง ซึ่งก็ไม่อยากคาดคิดว่าเพื่อนที่รู้จักกันมากว่า 10 ปี จะมาทำแบบนี้ได้ลงคอ


ส่วนประวัติของทั้ง 2 สามีภรรยา พบว่ามีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยนายบี เคยต้องโทษในคดียาเสพติดมา 8 ปี และเพิ่งพ้นโทษออกมา


ขณะที่อาการของน้อง แม่บอกว่า อาการสมองบวมลดลงไปบ้าง แต่ยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โดยแพทย์ ระบุว่าภาวะที่สมองบวม ยังต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งตนก็ได้บอกกับลูกว่าให้เข้มแข็งและต่อสู้


เบื้องต้น ตำรวจสภ.ศรีราชา ได้สอบสวนข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลจังหวัดชลบุรีออกหมายจับ สองสามีภรรยา ในวันที่ 20 มกราคม ในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และคุมตัวทั้งคู่มาสอบสวน เบื้องต้นให้การปฏิเสธ ก่อนที่จะส่งตัวขออำนาจศาลจังหวัดชลบุรีฝากขังทันที เบื้องต้นนางสาวเอ ได้รับการประกันตัวในชั้นศาล ส่วนนายบี ถูกคุมตัวเข้าเรือนจำ


แม้จะดำเนินคดีไปแล้ว แต่แม่ของเด็กยังคงห่วงความปลอดภัย และกังวลใจ ทางนายกัน จอมพลัง จึงได้ประสาน และลงพื้นที่มาให้ความช่วยเหลือ เพื่อเข้าพูดคุยกับ ตำรวจ สภ.ศรีราชา และ เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ระบุว่าเป็นห่วงอาการของเด็ก หลังออกจากโรงพยาบาล เนื่องจากต้องรักษาในระยะยาว เป็นห่วงว่าสภาพอาการของเด็กจะยังไม่คงที่ ซึ่งอาจต้องใช้ค่ารักษา ซึ่งจะมีการเปิดรับบริจาคให้กับคุณแม่โดยมี หน่วยงานเป็นเจ้าภาพในการดูแล

เบื้องต้น ทางกระทรวงยุติธรรม ได้ทำการคุ้มครองพยาน เนื่องจากมีหนึ่งในผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัว จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย พร้อมประสานบ้านพักเด็กเอื้อที่พักอาศัยให้แม่เด็ก


https://youtu.be/MdVV-KaBu-E

คุณอาจสนใจ

Related News