อดีตเจ้าอาวาสวัดดัง ร้อง ถูกกล่าวหายักยอกเงิน ก่อนถูกปลดจากตำแหน่ง เชื่อเป็นแผนขัดผลประโยชน์

วันที่ 1 ธ.ค 67 อดีตเจ้าอาวาสวัดดังจ.ประจวบคีรีขันธ์ พระอธิการคำนึง ปคุโณ ได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกสั่งปลดจากตำแหน่งเจ้าอาวาส โดยระบุว่าคำสั่งดังกล่าวไม่เป็นธรรมและอาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้แสวงหาผลประโยชน์จากวัด


โดยประเด็นดังกล่าวเริ่มจากการโพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัวของพระอธิการคำนึง ปคุโณ ซึ่งชี้แจงรายละเอียดสรุปใจความได้ว่า ตนถูกตั้งข้อกล่าวหา 2 เรื่อง ได้แก่ การไม่ขออนุญาตใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ในปี 2563 และการยักยอกเงินจำนวน 200,000 บาท พระอธิการคำนึง ปคุโณ อธิบายว่า ในปีดังกล่าว องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พงศ์ประศาสน์ ได้ยื่นขอใช้พื้นที่กับกรมป่าไม้ไปก่อน ทำให้วัดไม่สามารถขอใช้พื้นที่ซ้ำซ้อนได้ กระทั่งปี 2566 อบต.ได้ถอนคำขอใช้พื้นที่ โดยกรมป่าไม้เขต 10 เพชรบุรีมีคำสั่งให้อบต.หยุดการใช้พื้นที่ดังกล่าว


สำหรับข้อกล่าวหายักยอกเงิน พระอธิการคำนึง ปคุโณ ชี้แจงว่าเงินยังคงอยู่ในบัญชีธนาคารของวัด และได้ให้ทนายตรวจสอบเอกสารทางการเงินเพื่อยืนยันความโปร่งใส แม้จะพบข้อบกพร่องบางประการในการจัดทำบัญชี แต่ยืนยันว่าไม่มีการยักยอกเงินแต่อย่างใด


พระอธิการคำนึง ปคุโณ ระบุว่า การปลดจากตำแหน่งเป็นการลงโทษที่รุนแรงเกินไป ทั้งที่ควรเพียงตักเตือนให้ปรับปรุงการบริหารจัดการ และเชื่อว่าคำสั่งปลดครั้งนี้อาจมีเบื้องหลัง เนื่องจากตนเคยคัดค้านโครงการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการใช้งบประมาณกว่า 20 ล้านบาทในการพัฒนาถ้ำน้ำทิพย์ จนโครงการถูกยกเลิก ซึ่งอาจสร้างความไม่พอใจให้กับคนบางกลุ่ม


กระทั่งมีคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ 26/2567 เรื่อง ถอดถอนพระสังฆาธิการออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2567 คณะกรรมการสอบสวนซึ่งประกอบด้วยเจ้าคณะตำบลพงศ์ประศาสน์ เจ้าอาวาสวัดเกาะยายฉิม เจ้าอาวาสวัดห้วยทรายขาว และเจ้าอาวาสวัดอื่นในพื้นที่ มีคำสั่งปลดพระอธิการคำนึงจากตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่าพระอธิการคำนึงกระทำผิดตามข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม พระอธิการคำนึง ยืนยันว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการสอบสวน


พระอธิการคำนึง กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนพร้อมออกจากวัดโดยไม่ยึดติดกับตำแหน่ง แต่ขอเพียงออกไปโดยปราศจากมลทิน อย่างไรก็ตาม ยังคงห่วงใยสุนัขกว่า 70 ตัวที่ชาวบ้านนำมาปล่อยไว้ในวัด ซึ่งตนเป็นผู้ดูแล โดยได้รับการสนับสนุนอาหารจากชาวบ้านบางส่วน


“ผมขอความเป็นธรรม อยากให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างโปร่งใส และหากต้องออกจากวัด ก็ขอให้ออกไปโดยไม่มีความผิดติดตัว” อดีตเจ้าอาวาสกล่าว