สังคม

อาจมากกว่าเพื่อนบูลลี่ เปิดเรียงความ ม.3 ผูกคอดับ ผุดปมใหม่ปัญหาครอบครัว

โดย panwilai_c

23 ม.ค. 2566

117 views

เปิดเรียงความนักเรียนหญิง ม.3 ผูกคอตายไม่ใช่แค่ถูกบูลลี่ แต่มีปัญหาครอบครัว หลังพ่อมีครอบครัวใหม่ ตัดพ้อ ถึงเป็นลูกคนเดียวแต่ไม่เคยได้ความรักจากครอบครัว ไม่มีคนสนใจ ไม่มีใครรู้ว่าป่วยซึมเศร้า



กรณีเด็กหญิงอายุ 14 ย่าง 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ผูกคอเสียชีวิตในบ้าน พร้อมทิ้งจดหมายลาตาย เขียนด้วยลายมือเป็นตัวหนังสือสีแดง ระบุว่า...



"ไม่ต้องโทษใครนะ ให้โทษตัวหนู ที่เป็นตัวปัญหาของเรื่องทั้งหมด ในเมื่อเป็นตัวปัญหาแล้ว งั้นหนูขอสร้างปัญหาสุดท้าย ต่อไปมันจะได้ไม่มีปัญหา หนูเองก็จะได้ไม่สร้างปัญหาให้อีกไง หนูก็จะได้ไปอยู่ในที่ที่หนูอยากไป มันไม่ใช่เรื่องครอบครัวแค่เรื่องเดียว มันมีทั้งเรื่องที่โรงเรียนที่หนูโดนบูลี่ โดนดูถูก โดนว่าหน้าตา หนูเก็บกดมาตลอดแต่ไม่อยากบอกใคร การเป็นโรคซึมเศร้ามันทรมานนะ และขอโทษด้วยนะที่ทำแบบนี้ ลาโลก"



ซึ่งนายทวีวัฒน์ อายุ 45 ปี พ่อของน้อง บอกว่า ครอบครัวมีฐานะยากจน ตนเองต้องออกไปหาปลา ส่วนหนึ่งนำไปขายที่ตลาด อีกส่วนหนึ่งให้ลูกสาวนำไปขายตามบ้าน เพื่อช่วยกันหารายได้ ตนมีลูกสาวคนเดียวที่รักมาก แต่ลูกไม่เคยเล่าเรื่องอะไรให้ฟัง



อยากให้คนที่บูลลี่เปลี่ยนมุมมองใหม่ อยากให้ลูกสาวเป็นเคสสุดท้ายที่เป็นแบบนี้ อยากให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องช่วยตระหนักเรื่องบูลลี่ด้วย ถ้าย้อนเวลาได้ ก็อยากได้ชีวิตของลูกสาวกลับมา ลูกสาวเพิ่งจะเซอร์ไพรส์วันเกิดแม่เลี้ยง ด้วยการเก็บเงินแล้วแอบไปซื้อเค้กวันเกิดให้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จึงไม่คิดว่าลูกสาวจะคิดสั้นแบบนี้



ส่วนแม่เลี้ยง บอกว่า ลูกเลี้ยงไม่เคยคุยอะไรด้วย แต่ช่วงก่อนปีใหม่ บอกว่า ไม่อยากเรียนแล้ว จึงบอกไปว่า เหลืออีกแค่เดือนกว่า ๆ อดทนเอา เรียนจบแค่ ม.3 ก็ได้ ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้



ขณะที่ น.ส.หฤทัย ศรียางนอก ครูประจำชั้น บอกว่า น้องเคยเล่าเรื่องครอบครัวให้ฟัง ว่าน้องต้องไปช่วยที่บ้านขายของ ทำให้บางวันดูเหนื่อย ๆ เวลาน้องอยู่ที่โรงเรียนก็เล่นกับเพื่อนตามปกติ แต่ระยะหลังน้องไม่ค่อยมาเล่าอะไรให้ฟัง ทราบว่า น้องย้ายมาอยู่กับพ่อที่แต่งงานใหม่ แล้วช่วงปีใหม่น้องจะกลับไปเยี่ยแม่แท้ ๆ



ด้านเพื่อนของน้องที่เสียชีวิต บอกว่า ไม่เคยบูลลี่เพื่อน แต่เป็นการเล่นกันในชั้นเรียน หยอกล้อกันตามประสาเพื่อน ยืนยัน ไม่เคยบูลลี่เพื่อน เสียใจที่เพื่อนจากไป เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อนก็ยังเดินไปส่งขึ้นรถรับส่งกันตามปกติ ไม่รู้เลยว่าเพื่อนคิดสั้น



ขณะเดียวกันเพื่อนของน้องคนอื่น ๆ ยังให้ข้อมูลอีกว่า น้องมีปัญหาครอบครัว น้องอยู่กับแม่เลี้ยง เคยมาพูดให้เพื่อนฟังตลอดว่า วันไหนขายของไม่ดี ก็จะถูกผู้ปกครองบ่น ด่า บางครั้งก็ถูกทำโทษ ยึดโทรศัพท์ ยืนยันว่าเรื่องบูลลี่หน้าตา ไม่ใช่ปัญหาสำคัญ พร้อมนำหลักฐานมายืนยัน ซึ่งเป็นเรียงความของน้องเขียนเมื่อวันเด็กที่ผ่านมา ใช้หัวข้อว่า กิจกรรมวันเด็ก โดยมีข้อความว่า



"วันเด็กปีนี้ฉันก็ใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม ไม่ต่างไปจากทุกวัน แต่วันเด็กปีนี้มันแย่กว่าทุกที เพราะฉันได้ทะเลาะกับครอบครัว แต่การทะเลาะครั้งนี้ มันทำให้ฉันเกือบจบชีวิตลง ฉันคิดมาก ฉันเครียด แต่คนในครอบครัว ไม่มีใครรู้เลย เป็นวันเด็กปีแรกที่ทำให้ฉันคิดมาก จนอยากจะหนีไปไกล ๆ ไม่อยากอยู่ในสังคมแบบนี้ มันอึดอัดจนพูดไม่ออก ไม่มีใครให้ฉันระบายอารมณ์และปัญหาได้ อย่างว่าแหละ ฉันไม่ใช่คนดี และเป็นคนที่เ_ยมาก ไม่เคยมีความสำคัญ ไม่มีค่าสำหรับครอบครัวเลย บางทีฉันก็เหนื่อยที่จะอธิบาย ก็เลยปล่อยให้มันผ่านไป แต่สุดท้ายพวกเค้าก็มาขอโทษฉัน และบอกว่า เค้าแค่ต้องการสอน แต่ฉันกลับคิดว่า การสอนแบบไม่ฟังเหตุผลเด็ก อาจทำให้เป็นโรคซึมเศร้า"



นอกจากนี้ยังมีเรียงความเรื่องครอบครอบของฉัน ที่น้องเขียนส่งครูเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ระบุว่า...



"ฉันเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว ถึงจะเป็นลูกคนเดียว แต่ไม่เคยได้รับความสุขจากครอบครัวเลย ครอบครัวที่ฉันอยู่เคยอบอุ่นกว่าตอนนี้ และอยู่กันอย่างพร้อมหน้ากัน และในที่สุดครอบครัวที่อบอุ่นของฉันกับล่มสลายลง ด้วยคำไม่กี่คำ มันเป็นวินาทีที่ฉันคิดมาก และปวดใจที่สุด พ่อฉันได้มาสร้างครอบครัวใหม่ และฉันได้ย้ายตามพ่อฉันมา แต่มันกลับไม่เหมือนครอบครัวเก่าของฉัน



พอฉันได้มาอยู่ที่นี่ แทบไม่มีใครสนใจฉันด้วยซ้ำ ครอบครัวนี้ไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าฉันจะเป็นอยู่อย่างไร เป็นโรคอะไร เค้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันเป็นโรคซึมเศร้า พวกเค้าไม่เคยเอาใจใส่ฉันเหมือนเมื่อก่อน มันดูไม่มีความสุขเหมือนเมื่อก่อน ถึงฉันจะเป็นลูกคนเดียว แต่ไม่เคยได้รับความรักจากครอบครัวเลย



บางทีคนอื่นอาจจะคิดว่า การเป็นลูกคนเดียวจะได้รับความรักมากที่สุด แต่มันไม่ใช่อย่างที่คนอื่นคิดเลย บางทีลูกคนเดียวอาจจะไม่ได้ความรักเลย เหมือนฉันที่ไม่เคยได้ความรักจากครอบครัวเลย บางทีฉันเหนื่อย ฉันท้อ แทบจะไม่มีที่ให้ฉันระบายเลย ฉันเหมือนกับเด็กเก็บกดคนหนึ่ง แต่ฉันยังมีเพื่อนคอยปลอบ คอยให้กำลังใจ"



ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเพิ่งได้แชท และคลิปเสียงที่น้องคุยปรึกษาปัญหาชีวิตกับเพื่อน เรื่องแรกปรึกษาการเรียน เพื่อนบอกว่า ถ้ามันจะตกถ้ามันจะตกก็อย่าไปโทษตัวเอง เราให้กำลังใจตัวนะ ที่ทำเต็มที่แล้ว ถึงคะแนนมันจะแย่ แต่เราทำเต็มที่แล้ว ทุกคนเก่งหมดแหละ แต่อาจจะไม่เก่งด้านทฤษฎี แต่เก่งปฏิบัติมากกว่า



ซึ่งน้องอัดเป็นคลิปเสียงตอบเพื่อน ด้วยเสียงสั่นเครือเหมือนร้องไห้ว่า เราก็ได้แหละ แต่รู้สึกเหมือนไม่อยากทำอะไรเลย แต่ก่อนเคยคิดว่าทำเองทำงานดีกว่านี้ รู้ว่าใกล้สอบจะตามเก็บให้หมด แต่ตอนนี้แค่คิดว่าจะไปทำ ก็รู้สึกเหนื่อย รู้สึกท้อ ทำไปก็เหมือนเดิม



เพื่อนก็พิมพ์ถามต่อว่า มีใครว่าอะไรหรือเปล่า บอกได้นะ เราเข้าใจแกนะ อย่าเพิ่งท้อเอาให้จบ ม.3 ก่อน นี่มันแค่จุดเริ่มต้น พอวัยทำงานมันจะแย่กว่านี้ น้องก็ตอบว่า ไม่มีใครว่าเรา มันแค่รู้สึกเหนื่อย ท้อไปเอง ทุกอย่างมันมารุมเร้าทีเดียว แค่นี้เรายังผ่านไปได้ แต่ถ้าไปไกลกว่านี้ เราจะผ่านได้เปล่า มันคิดแค่นี้ มันอธิบายไม่ถูก



ล่าสุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปที่โรงเรียน เพื่อรับฟังปัญหาหาแนวทางแก้ไข



ขณะที่พ่อของน้อง ได้นิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของน้อง ภายในห้องนอนที่เกิดเหตุตามความเชื่อ พร้อมนำเชือกที่น้องใช้ผูกคอมาทำพิธี ก่อนจะนำไปใส่ในโลงศพ ซึ่งตั้งประกอบพิธีอยู่ที่วัดเนินสว่างพัฒนา



โดยพ่อของน้องบอกว่า ลูกไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง แต่เคยบ่นไม่อยากไปโรงเรียน อ้างว่าไปก็ไม่ค่อยได้เรียน ลูกเป็นคนไม่สู้คน พ่อมารู้ทีหลังว่า โทรศัพท์น้องแตกเพราะทะเลาะกับเพื่อนที่โรงเรียน ก่อนเกิดเหตุก็ไม่มีลางสังหรณ์อะไร เพราะลูกก็ไปขายของปกติ ช่วงเย็นก่อนเกิดเหตุ ลูกยังไปหาพ่อที่เขื่อน ก็ได้ให้ลูกกลับบ้านมาอยู่กับย่า เพราะกลัวว่าลูกจะเจอกับช้าง แต่พอพ่อกลับมาบ้านก็มาเจอลูกเสียชีวิตไปแล้ว


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/x3j4ahRGTqE

คุณอาจสนใจ

Related News