สังคม

ปปป. เรียก 21 หน่วยงานกรมอุทยานฯ สอบปมจ่ายเงิน 'อธิบดี' - บิ๊กตู่ สั่งย้ายช่วยราชการทำเนียบรัฐบาล

โดย parichat_p

28 ธ.ค. 2565

499 views

ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบเตรียมเรียก 21 หน่วยงาน ในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่พบชื่อปรากฎบนซองใส่เงินเข้าสอบปากคำ กรณีเงินที่มอบให้อธิบดีฯ


พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้พบซองเงินในห้องของ นาย รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช จำนวน 21 ซอง หน้าซองมีการระบุชื่อบุคคลและหน่วยงาน แบ่งเป็นหน่วยงานส่วนกลางในภูมิภาคและสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 - 16


ส่วนการสอบปากคำ นาย รัชฎา ยังไม่ยอมให้การใดๆ ทั้งเรื่องเอกสาร เงินสด และเงินล่อซื้อในการจับกุม บอกเพียงว่าสาเหตุมาจากความโกรธเคืองส่วนตัวกับนาย ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี แต่ทางตำรวจมั่นใจมีพยานหลักฐานมัดแน่น ไม่มีมวยล้มแน่นอน เพราะมีข้าราชการอีกหลายคนที่มีคับแค้นใจ กดดัน กลัวจะถูกโยกย้ายจึงต้องหาเงินจากงบประมาณมาส่งส่วยให้ แม้แต่หน่วยงานที่ได้งบประมาณน้อยยังต้องให้เดือนละ 2 พันบาท เพื่อไม่ให้ถูกโยกย้าย


เมื่อวานนี้ (27ธ.ค.) นาย รัชฎา ยื่นขอประกันตัวในชั้นสอบสวน ซึ่งพนักงานสอบสวนให้ประกัน เพราะมองว่ามีตำแหน่ง ที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เชื่อว่าจะไม่หลบหนีหรือยุ่งเหยิงกับพยาน


ด้านพลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอาชญากรรมช่อง 3 ระบุว่า เป้ลายพรางที่พบในห้องอธิบดีฯ มีเงินสด 2 ล้านบาท


ส่วนสีของซองเงินที่พบในห้องซึ่งมี สีที่แตกต่างกันนั้น ไม่ได้มีนัยยะอะไรเป็นพิเศษ ในเก๊ะมี ซอง 3 ซอง และเงินสดอีก 1 แสน นอกจากในแต่ละซองจะมีเงินแล้ว ยังมีข้อมูล % ของแต่ละหน่วยงานแนบมาด้วย ส่วนเงินที่เหลือ พบอยู่ในห้องนอน ซึ่งอยู่ในห้องทำงานของอธิบดีฯ (ในห้องทำงานของอธิบดี จะมีส่วนที่เป็น ห้องนอนไว้พักผ่อน และ ห้องน้ำอยู่ภายใน แต่ไม่สามารถระบุพิกัด หรือ ตำแหน่งให้ได้)


ในส่วนข้าราชการอุทยานฯ แฉแผน เรียกรับส่วยในกรมฯ ชี้ ข้าราชการถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่ม 1. ทนไม่ไหว ต้องลาออก 2. ไม่ยอมจ่ายถูกกลั่นแกล้ง สั่งย้าย 3.ยอมจ่าย ได้ตำแหน่งที่ต้องการ


วันนี้รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ได้ส่งคุณชญตร์ มุกดาหาร ไปสังเกตบรรยากาศที่กรมอุทยานแห่งชาติ พบว่า ยังไม่พบว่า อธิบดีเข้ามาที่กรมแต่อย่างใด รวมถึงไม่พบว่ามีรถยนต์ของอธิบดีจอดอยู่


สอดคล้องกับเจ้าหน้าที่บางราย ที่ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ยังไม่เห็นทางอธิบดีเดินทาง มาปฎิบัติหน้าที่ในวันนี้ เพราะหากเดินทางเข้ามา ก็จะใช้รถส่วนตัว (รถเก๋ง) มาจอดที่หน้าตึก


ขณะที่ หนึ่งในแหล่งข่าว ซึ่งเป็นข้าราชการสังกัดกรมอุทยานฯ ได้ให้ข้อมูลกับทีมข่าว เรื่องเด่นเย็นนี้ว่า นับตั้งแต่ที่มีการเข้ามารับตำแหน่งของอธิบดี ที่ถูกกล่าวหา ก็เกิดกลุ่มข้าราชการในสังกัด แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ


กลุ่มที่ 1 ทนระบบส่วยไม่ไหว ลาออก // ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ยอมลาออกจากราชการ แม้จะเหลืออายุราชการอีกไม่กี่ปีก็ตาม เพราะทนกับการเรียกรับผลประโยชน์ไม่ได้


กลุ่มที่ 2 ไม่ยอมจ่าย ถูกกลั่นแกล้ง สั่งย้าย // ข้าราชการกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มไม่ยอมจ่ายเงินค่าเรียกรับผลประโยชน์ และ ถูกกลั่นแกล้งโยกย้ายกลับต้นสังกัด ให้คนอื่นมาแทน


กลุ่มที่ 3 ยอมจ่าย ได้ตำแหน่งที่ต้องการ //กลุ่มนี้ คือ ข้าราชการที่จำยอม หรือยินยอมจ่ายเงิน เพื่อรักษาตำแหน่งต่อ หรือ โยกย้ายไปในตำแหน่งที่สูงขึ้น


โดยแหล่งข่าวรายนี้ อ้างว่า ตนเป็นข้าราชการกลุ่มที่ 2 คือ เป็นคนทำงาน แต่ไม่ยอมจ่ายเงินค่าเรียกรับผลประโยชน์ ท้ายสุด ก็จะถูกโยกย้าย โดยอธิบายว่า เดิมเวลาออกคำสั่งต้องย้าย ต้องมีคำสั่งคู่กัน เช่นนายดำ ย้ายมาอยู่สังกัดนี้ ส่วนนายแดง ที่อยู่สังกัดเดิม จะย้ายไปอยู่ตำแหน่งไหน โดยมีการเวียนคำสั่งให้รับรู้ทั่วกัน แต่กลับกลายเป็นว่าคำสั่งในยุคนี้ มีคนมาแทนคนเก่า แต่คนเก่าไม่มีชื่อว่าย้ายไปตำแหน่งไหนก็ทำให้ต้องกลับไปอยู่ที่ต้นสังกัด


ซึ่งต้นสังกัดของบางคน ก็อยู่คนละจังหวัด คนละภาค เมื่อมีภาระที่คั่งค้าง เช่น การมาขึ้นศาล เบิกความต่อศาล ก็ต้องเสียค่าเดินทางหลายร้อยกิโลเมตรมาจัดการ เหล่านี้นำมาซึ่งความอัดอั้นของข้าราชการหลายคน


โดยหลายคน ที่ถูกกดดันแบบนี้ บางคนก็จำยอมต้องจ่าย เพื่อรักษาตำแหน่ง ซึ่งเป็นวิธีที่แยบยล ซึ่งแหล่งข่าวรายนี้เรียกว่า "เคาะกะลา" คือ เมื่อมีประกาศออกมาว่าจะมีคนมาแทน ก็เป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ต้องมาคุยต้องมาพบบางคนก็ลาออกก็ไม่ได้ บางคนเผชิญกับภาวะความเครียด จะจ่ายก็ไม่มีเงินจ่าย การเข้าดำเนินการเมื่อวานนี้ ในมุมของเจ้าหน้าที่รู้สึกดีใจ แต่อยากฝากให้มีการตรวจสอบอย่างแน่ชัด


ขณะที่ นายกรัฐมนตรี ก็พูดถึงเรื่องนี้ บอกว่าได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน "อธิบดีกรมอุทยานฯ" แล้ว ก็ย้ำว่ากันไปตามกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรี พูดถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบกรณี นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หลังถูกจับกุม ขณะรับสินบนแลกตำแหน่งจากข้าราชในในกำกับ ​โดยระบุสั้นๆ ว่า​ ขณะนี้ได้ตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว ว่ากันไปตามกฎหมาย


ขณะที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่งให้ อธิบดีกรมอุทยานฯ มาช่วยราชการที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับคดี และให้เจ้าหน้าที่สืบสวนได้สะดวก โดยคำสั่งมีผลตั้งแต่วันนี้


ด้านปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือทส.สั่งประชุมคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงสอบ อธิบดีกรมอุทยานฯเรียกรับสินบนนัดแรกแล้ว ระบุ ทราบนายกฯสั่งย้ายอธิบดีฯช่วยราชการสำนักนายกแล้ว แจงไม่ติดปัญหา ยิ่งช่วยการสอบเดินหน้าดีขึ้น


นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดประทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ ระหว่างปฏิบัติภาระกิจอยู่จังหวัดภูเก็ต ว่า ได้รับทราบคำสั่งนายกรัฐมนตรีเซ็นต์ย้ายอธิบดีกรมอุทยานฯ ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรีและมีผลวันนี้แล้ว ซึ่ง นายกฯคงเห็นว่า เป็นเรื่องสำคัญของการบริหารราชการ จึงสั่งย้ายด้วยตนเอง ก็ไม่ติดปัญหา จะได้ตัดขาดจากกระทรวงฯ ยิ่งจะทำให้การสอบได้ง่ายขึ้น และยังเดินหน้าสอบต่อไป


โดยวันพรุ่งนี้จะเข้ากระทรวงฯ ไปร่วมประชุมกับคณะกรรมการสอบครั้งที่สองด้วยตัวเอง /ขณะที่อธิบดีอุทยานฯ หลังประกันตัว ปลัดกระทรวงฯ บอกว่า ได้ยื่นขอลาพักร้อน


ส่วนที่กระทรวงทรัพย์ฯ ได้มีการประชุมด่วนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงนัดแรก หลังประชุม(เวลา 12.00น.)นายกุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงฯ ซึ่งได้รับมอบหมายเป็นประธาน การประชุม เบื้องต้นมติคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เตรียมเสนอปลัดฯให้ ย้ายอธิบดีกรมอุทยานฯ มาช่วยราชการที่ กระทรวง ระหว่างสอบช่วง 7 วัน นี้


นายกุศล บอกว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยโดยตรงกับนายรัชฏา แต่คาดว่าทาง ผู้บริหาร ทั้ง รมต.และปลัดมีข้อมูลอยู่รายละเอียดอยู่แล้ว เพราะได้ประสานขอข้อมูลจากทาง กองบังคับการป้องกันและปรามปราบการทุจริตและประพฤติมิชอบ บก.ปปป. และ กรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช. แล้ว แต่ยังไม่พบ เชื่อมโยงกับผู้บริหารรายอื่นๆ


ทั้งนี้ย้ำว่าจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้มาก่อนที่พบผู้บริหารระดับสูงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/BGiYmlQ6hLA

คุณอาจสนใจ

Related News