เผาแล้ว 'น้องเต้' เหยื่อซิ่งบีเอ็มฝ่าไฟแดง-พ่อหนุ่มวัย 15 แอบพาลูกพบ ตร.รับทราบข้อกล่าวหา

เผาแล้วศพน้องเต้ ครอบครัว อาจารย์ และเพื่อนร่วมงานเศร้า ขณะที่พ่อวัยรุ่นชาย อายุ 15 ปี คู่กรณี เดินทางจากบุรีรัมย์มาร่วมงานที่นครสวรรค์ หวังขอขมาศพ พร้อมเตรียมเงินช่วยเหลือ แต่ถึงวัดแล้วกลับไม่กล้าเข้างาน


กรณีวัยรุ่นชาย อายุ 15 ปี ขับรถเก๋งบีเอ็มดับเบิ้ลยู พร้อมเพื่อนวัยรุ่นรวม 3 คน ฝ่าไฟแดงบริเวณสี่แยกถนนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนาที แล้วพุ่งชนมอเตอร์ไซค์บัณฑิตเกียรตินิยม นายธนพล หรือน้องเต้ อายุ 24 ปี จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เหตุเกิดช่วง 22.00 น. ของวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา


โดยน้องเต้ ผู้เสียชีวิต ถือเป็นความหวังของครอบครัว เพิ่งเรียนจบปริญญาตรี สาขาวิชาวิศวกรรมโทรคมนาคม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยได้คะแนนระดับเกียรตินิยม และเพิ่งเข้ารับพิธีพระราชทานปริญญาบัตร เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะนี้ทำงานหารายได้พิเศษ เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลระบบเครือข่าย โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และกำลังวางแผนศึกษาต่อในระดับปริญญาโท


คดีนี้สื่อสังคมออนไลน์ให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องจากมีความคล้ายกับอีกคดีในอดีตคดีหนึ่ง มีชาวเน็ต รวมทั้งเพื่อนของผู้เสียชีวิต ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ครอบครัวของหนุ่มวัย 15 อ้างว่าคนขับยังติดสอบอยู่ ยังไม่พร้อมเข้าให้ปากคำ รวมทั้งเรียกร้องขอให้มีการติดตามคดีอย่างต่อเนื่อง และขอให้เยาวชนพร้อมครอบครัวร่วมรับผิดชอบคดีนี้ร่วมกัน


ล่าสุดมีผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่ง โพสต์คลิปหลังเกิดเหตุการณ์ เห็นเยาวชน 3 คน ลงจากรถแล้วยืนอยู่ใกล้กับรถบีเอ็มฯ พร้อมระบุว่า "ลงมาแล้วหันไปดูพี่กูก่อนค่ะ ไม่ใช่เดินชิวๆ ถ่ายสตอรี่"


ขณะเดียวกันก็นำภาพที่คาดว่าเป็นสตอรี่ของ 1 ในคนที่นั่งมาในรถบีเอ็มมาโพสต์ไว้ด้วย มีการลงแคปชั่นไว้ว่า "22.30 แยกไฟแดง มทส. ปลอดภัยดีทั้ง 3 คน ผม ... ...(ชื่อเล่นเยาวชนทั้ง 3 คน) แต่รถพังยับเลย ชนมอเตอร์ไซค์"


นอกจากนี้ชาวเน็ตยังขุดประวัติของหนุ่ม 15 พบเป็นนักกีฬาเทนนิสทีมชาติ และเตรียมตัวไปเป็นนักกีฬาเทนนิสตัวแทนมหาวิทยาลัยที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปีการศึกษา 2525 ด้วย ซึ่งหลังจากเกิดเหตุทางครอบครัวหนุ่ม 15 ยังไม่ออกมาชี้แจงหรือติดต่อไปทางครอบครัวน้องเต้ แต่อย่างใด


ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ผู้ปกครองได้พาหนุ่ม 15 คนขับเก๋งบีเอ็มฯ เข้าพบพนักงานสอบสวน ซึ่งมีการสอบปากคำร่วมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ มีการแจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหา ประกอบด้วย ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ขับรถฝ่าสัญญาณไฟแดง และไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ซึ่งเยาวชนชายคนขับก็ยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ส่วนการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ไม่พบมีการดื่มแอลกอฮอล์แต่อย่างใด และในวันนี้ผู้ปกครองจะพาเยาวชนชายคนขับเดินทางไปร่วมงานฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตที่ จ.นครสวรรค์ด้วย


ขณะที่บรรยากาศที่วัดดอนคา ต.ดอนคา อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลร่างของ น้องเต้ ตั้งแต่เวลา 12.00 น. พระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา จากนั้นทางครอบครัวได้ทำการถวายผ้าขนหนูและดอกไม้จันทน์ให้แก่พระสงฆ์ ก่อนที่ในเวลา 13.45 น. ทางครอบครัวจะเคลื่อนโลงบรรจุร่างของผู้ตาย โดยมีเพื่อนๆ ของผู้ตายช่วยยกดอกไม้หน้าโลงและเคลื่อนโลงศพไปยังเมรุ เพื่อนำร่างของผู้ตายวนรอบเมรุ จำนวน 3 รอบ


สำหรับขบวนเคลื่อนโลงนั้น มีพี่สาวของผู้ตายเป็นผู้ถือกระถางธูปนำขบวน มีเพื่อนของผู้ตายเป็นผู้ถือรูป มีแม่ของผู้ตายถือตะเกียง และมีพ่อของผู้ตายเดินรั้งท้ายประคองโลงศพของผู้ตาย (ตอนวนร่างผู้ตายรอบเมรุ แม่ของผู้ตายเปลี่ยนมาถือกระถางธูป)


โดยหลังจากวนรอบเมรุเสร็จ ผู้สื่อข่าวถามกับพ่อน้องเต้ ว่า ทางฝั่งคู่กรณีมาติดต่อขอขมาศพหรือยัง เพราะตอนแรกพ่อคู่กรณีบอกว่า จะมาร่วมงานเผาศพน้องเต้ ซึ่งพ่อน้องเต้ บอกว่า ตอนนี้ยังรู้สึกเสียใจกับการเสียลูกชายอยู่และยังไม่ได้เจอกับพ่อคู่กรณี


ต่อมาผู้สื่อข่าว ติดต่อไปยัง นายเทอดพงษ์ กมลปัญญากร พ่อของหนุ่มวัย 15 ปี ซึ่งนายเทอดพงษ์ เปิดเผยว่า ตัวเองเดินทางมาถึงวัดดอนคาประมาณ 11 โมงเพื่อขอขมาศพน้องเต้และนำเงิน 2.5 แสนบาท มามอบให้เป็นค่าทำศพ โดยประสานกับทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ดอนคา อ.ดอนคา จ.นครสวรรค์ แต่ได้รับแจ้งว่า ทางครอบครัวน้องเต้ ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าและต้องเตรียมงานเผาศพน้อง ยังไม่สะดวกพบ , นายเทอดพงษ์ จึงอยู่เพียงด้านหน้าศาลาสักพัก ก่อนจะเดินทางกลับบ้าน จ.บุรีรัมย์


ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามกับ นายธีรวัฒน์ สอนมาก อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่หมู่ 4 ยอมรับว่า ได้เจอกับนายเทอดพงษ์ พ่อของคู่กรณี ซึ่งเป็นการประสานผ่านผู้ใหญ่บ้านอีกตำบลว่า วันนี้จะเดินทางมาร่วมงานเผาศพน้องเต้ และ เตรียมเงินมาช่วยค่างานศพ 2.5 แสนบาท ตัวเองได้ไปแจ้งกับทางพ่อน้องเต้ ซึ่งตอนนั้นทุกคนกำลังเตรียมงานเผาและยังไม่พร้อมเจอ จึงให้ถามญาติคนอื่นๆ สุดท้ายก็ไม่ได้เข้าขอขมาศพ จากนั้นพ่อคู่กรณีก็เดินทางกลับไป

รับชมทางยูทูปที่ : https://youtu.be/s6JVE7SJ0zw