เคลียร์จบ คนขับกระบะถอยคร่อมร่างเด็ก ยอมชดใช้ 10,000 บาท อีกครึ่งไปเก็บที่คนเลี้ยงเด็ก

คลิปนี้เป็นอุทาหรณ์ กรณีรถกระบะถอยหลังมาทับคร่อมร่างเด็กอายุ 1ปี 7 เดือน แต่เด็กปลอดภัยไม่ได้รับอันตราย ขณะที่แม่เด็กแจ้งความดำเนินคดีกับคู่กรณี

คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ เจ๊เอ๋ งอแง ตัวดี โพสต์คลิปวิดีโอเตือนภัย ขณะที่รถกระบะคันหนึ่งถอยจากบริเวณปากซอยเข้ามาในบริเวณ ซอย 4 หมู่บ้านจันทร์ทิพย์ ตำบลหนองปลาไหล อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี ซึ่งขณะนั้นมีเด็ก2 คน กำลังเล่นกันอยู่บนถนนกลางซอย โดยจากคลิปพบว่า เด็กโตก็ลุกขึ้น ส่วนเด็กเล็กยังนั่งอยู่จนรถกระบะถอยมาจนคร่อมตัวเด็กชายอายุ 1 ปี 7 เดือน แต่จังหวะนั้นมีหญิงคนหนึ่งพยายามมาบอกให้รถจอด แล้วเด็กก็คลานออกจากใต้ท้องรถมาโผล่บริเวณหน้ารถ และร้องไห้เสียงดัง คนขับรถกระบะก็ลงมาจากรถเพื่อมาดูเด็กชายคนนี้ด้วย โดยเหตุนี้เกิดขึ้นในวันที่ 21 พฤษภาคม เวลา 17 นาฬิกา 40 นาทีโดยประมาณ

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กยังได้ระบุข้อความด้วยว่า "ตอนแรกว่าจะไม่ลงคลิปนี้นะ เพราะว่าตัวเองไม่ได้อยู่บ้าน แต่ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ให้เปิดดู ในฐานะที่เป็นประธานชุมชน แค่จะแจ้งในกลุ่มชุมชนให้ระมัด ระวังกันเฉยๆ แต่ในเมื่อจิตใต้สำนึกคนในซอยไม่มี แถมปากดีด้วย ขอลงหน่อยเหอะ บางครั้งสำนึกผิดบ้างก็ได้ จะได้ไม่เดือดร้อน"

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หมู่บ้านที่เกิดเหตุ และพบกับ นางสาว นรินดา สว่างบุญรอด แม่ของเด็กชาย ที่ถูกรถกระบะถอยทับคร่อมตัวลูก ซึ่งนางสาวนรินดา เล่าว่า ตนได้ฝากลูกชายไว้กับป้าที่รู้จักกัน และเป็นเพื่อนบ้านช่วยเลี้ยง วันเกิดเหตุเป็นช่วงเย็นของวันเสาร์ ซึ่งเวลาดังกล่าวทราบว่า ป้าคนที่เลี้ยงกำลังเตรียมอาหารให้ลูกชายของตน กับหลานของป้าเอง

จากนั้นก็มาทราบข่าวว่า รถกระบะถอยมาทับลูกชาย ตนพอรู้เรื่องก็ตกใจมาก ซึ่งวันเกิดเหตุ ตอนเย็นตนและคู่กรณีได้พาลูกชายตนไปโรงพยาบาล ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการรักษาวันเกิดเหตุประมาณ 700 บาท จากนั้นก็มาขอจ่ายค่าทำขวัญให้ 1000 บาท ซึ่งตนคิดว่าไม่เหมาะสม จึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสระบุรี โดยขอเรียกร้องเงิน 20,000 บาท พร้อมยืนยันว่า เงินดังกล่าวไม่คุ้มค่า หากลูกชายตนเป็นอะไรขึ้นมา เพราะทุกวันนี้ ตนยังรู้สึกหวาดผวาทุกครั้งที่ได้ดูคลิปดังกล่าว

ขณะที่ นายนพดล ผลเกิด คนขับรถกระบะ และนางสาววินิจ ขอเยือกกลาง ซึ่งเป็นภรรยา เล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า วันเกิดเหตุ ตนกำลังจะเข้ามากินข้าวบ้านเพื่อนในซอยแห่งนี้ และได้ตั้งลำเพื่อถอยหลังเข้ามาจากปากซอย ซึ่งตอนถอยหลังตนมองกระจกหลัง และกระจกมองข้าง แต่มองไม่เห็นเด็ก แต่ตนก็ค่อยๆขับถอยหลังช้าๆ เพราะกลัวว่าจะชนกระถางต้นไม้ที่วางล้ำออกมาจากหน้าบ้านหลังหนึ่ง

จากนั้นก็มีคนมาเคาะกระจกรถของตนเอง ซึ่งตนก็หยุดรถทันที และเข้าใจว่า รถไปถอยเหยียบของเล่นเด็ก เพราะเห็นเด็กยืนอยู่ แต่พอวิ่งลงมาดูทีแรกเข้าใจว่าเป็นสุนัข แต่พอเห็นเป็นเด็กคลานออกมาก็ตกใจมา พอหายตกใจเอาเด็กมาดูก็พบเป็นรอยถลอก และพาเด็กชายคนดังกล่าวมาทายาที่บ้านเพื่อนของตนที่อยู่ในซอย ซึ่งเด็กก็ยังดูร่าเริงปกติดี

แต่พอช่วงเย็น แม่ของเด็กมาพบ และต้องการให้ลูกชายไปโรงพยาบาล ตนก็พาไป พร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการตรวจร่างกายรวม ประมาณ 700 บาท ต่อมาแม่เด็กได้สอบถามถึงเงินค่าทำขวัญที่ตนต้องจ่ายให้ ซึ่งภรรยาตนก็บอกไปว่า ไม่ค่อยมีเงิน ขอจ่าย 1000 บาทได้ไหม แต่ไม่ได้พูดจาไม่ดี หรือพูดจา ขึ้นกูมึงแต่อย่างใด พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยหนีหายไปไหน สามารถติดต่อได้ตลอดเวลา

แต่แม่ของเด็กเรียกเงินจำนวน 20,000 บาท แต่ตนต่อรองขอจ่าย 10,000 บาท เพราะคิดว่ากรณีนี้ป้าคนที่ดูแลเด็กต้องรับผิดชอบร่วมด้วย เนื่องจากปล่อยให้เด็กมาเล่นอยู่กลางถนน โดยไม่มีผู้ใหญ่ดูแล

ซึ่งล่าสุด ทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ โดยแม่เด็กยินยอมให้คู่กรณีหาเงิน 10,000 บาท มาจ่ายในเวลา 7 วัน ส่วนเงินอีก 10,000 บาท ก็จะไปเรียกเก็บกับป้าคนที่เลี้ยงลูกชายตนเอง

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/M-sJhocO-QY