น้องชายพระบิดาฯ ปะทะคารม 'หมอปลา' โวยถูกกลั่นแกล้ง ยันดื่มฉี่-กินขี้ไคลได้จริงๆ

ตำรวจ สภ.คอนสาร และแพทย์นิติเวช เข้าตรวจสอบ 11 ศพ ในสำนักปฏิบัติของผู้ที่อ้างตัวเป็นพระบิดา พร้อมส่งไปชันสูตรยืนยันอัตลักษณ์บุคคลอีกครั้ง

ความคืบหน้าหลังจากเมื่อวานนี้ หมอปลา มือปราบสัมภเวสี พร้อมทีมงาน และสื่อมวลชน เข้าตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรมที่ตั้งอยู่กลางป่าในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการกักขังผู้มาปฏิบัติธรรมและรักษาโรค ด้วยวิธีการแบบแปลกประหลาด เช่น กินคราบเหงื่อไคล ขี้ไคล ปัสสาวะ น้ำลาย และเสมหะ ของผู้ที่อ้างตัวเป็นพระบิดา ชื่อนายทวี หรือโจเฟซ อายุ 74 ปี เพราะเชื่อว่าเป็นพระโอสถบริสุทธิ์ สามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ รวมถึงโรคโควิด-19 นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบศพบรรจุอยู่ในโลงจำนวน 11 ศพ เก็บไว้ตามจุดต่างๆ ภายในสำนัก ซึ่งทุกศพมีญาติและญาติได้ยินยอมพร้อมกับมีใบแจ้งตายถูกต้องตามกฎหมายทุกศพ

ล่าสุดวันนี้ (9 พ.ค.) หมอปลา พร้อมทีมงาน และ พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สภ.เมืองชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ รพ.คอนสาร เข้าตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรมปลัด โดยมีการแบ่งกำลังออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่า และอีกฝ่ายเป็นทางเจ้าหน้าที่ รพ. ได้ทำการอายัดศพทั้ง 11 ศพ เพื่อตรวจชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป

ทั้งนี้หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบริเวณเพิงพักที่เป็นศาลากลาง มีโลงศพอยู่ 5 โลง ซึ่งเมื่อเปิดโลงออกมา พบว่ามีลักษณะแห้งเหลือเพียงโครงกระดูก และหนึ่งใน 11 ศพที่พบ มีการโบกด้วยปูนซีเมนท์ คาดว่าเป็นศพของเจ้าสำนักคนแรก ซึ่งภายในพบเศษกระดูกระจัดกระจาย และมีจีวรอยู่ด้วย

และอีกศพคาดว่าน่าจะเพิ่งเสียชีวิตไม่นาน เนื่องจากศพยังมีสภาพสมบรูณ์ และภายในโลงศพมียาเส้นและใบขนุนที่ใช้ในการดับกลิ่นเน่าเหม็นด้วยซึ่งจากคำบอกเล่าของคนในสำนักอ้างว่าเป็นศพที่เสียชีวิตได้ประมาณ 2-3 ปี แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นของแพทย์นิติเวชระบุว่า น่าจะเสียชีวิตมาประมาณ 5-6 เดือนเท่านั้น

ส่วนศพทั้ง 11 ศพ ได้ทำการเคลื่อนย้ายไปไว้ที่มูลนิธิชุมแพ เพื่อรอผลการพิสูจน์จากทางนิติเวช จากนั้นก็จะมอบให้กับญาติผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศล ตามประเพณีต่อไป

ส่วนบริเวณพื้นที่ของสำนักพระบิดา ขณะนี้ผู้ว่าราชการ จ.ชัยภูมิ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน ตรึงกำลังห้ามให้บุคคลภายนอกเข้าไปด้านใน และประชาชนที่อยู่ด้านในก็ห้ามออกมา ซึ่งทางนายอำเภอจะได้จัดรถรับ-ส่ง ประชาชนกลับภูมิลำเนา ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความตรึงเครียดพอสมควร เพราะยังมีลูกศิษย์บางรายยังเลื่อมใสศรัทธาอยู่ ไม่ประสงค์ที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา เนื่องจากยังมีความหวังว่าพระบิดาจะกลับมาอีกครั้ง

พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร เผยว่า สภาพศพส่วนใหญ่ อยู่ในสภาพที่แห้งและเหลือเพียงโครงกระดูก จำเป็นต้องนำไปเก็บรักษาไว้ในที่เหมาะสม เพื่อรอผลพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลอย่างเป็นทางการเสียก่อน จึงจะมอบให้กับญาตินำกลับไปทำบุญ ส่วนนายทวี ที่อ้างตัวเป็นเจ้าสำนัก ได้แจ้ง 2 ข้อหา บุกรุกพื้นป่าสาธารณะ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ นำตัวขอฝากขังที่ศาลภูเขียวต่อไป

ส่วนความคืบหน้าทางคดี ตำรวจ สภ.คอนสาร ได้ทำเรื่องส่งฝากขังนายทวีกับศาลจังหวัดภูเขียว พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยยื่นเรื่องทางระบบคอนเฟอเร้นซ์ 2 ข้อหา คือ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมโรค และข้อหาบุกรุกพื้นที่สาธารณะป่าชุมชน โดยไม่ให้ประกันตัว ก่อนนำตัวขึ้นรถส่งศาลเมื่อเวลา 16.30 น. ที่ผ่านมา จากนั้นนำตัวเข้านอนเรือนจำ 1 คืน ซึ่งบรรยากาศโดยรอบ สภ.คอนสาร ยังมีลูกศิษย์ประมาณ 10 คน มารอรับตัวนายทวีกลับสำนัก

ขณะที่บรรยากาศ ณ ที่ว่าการอำเภอคอนสาร มีชาวอำเภอคอนสารจากหลายภาคส่วน รวมตัวกันกว่าร้อยคน เขียนป้ายแสดงความไม่พอใจ ต่อการกระทำของนายทวี หรือพระบิดา เจ้าลัทธิประหลาด พร้อมกับสาวก โดยเรียกร้องให้ทางจังหวัดสั่งการให้ขับไล่ผู้นำลัทธิประหลาด และบรรดาสาวก ออกจากพื้นที่ อ.คอนสาร เนื่องจากทำให้ชาว อ.คอนสารเสื่อมเสียชื่อเสียง

พร้อมกันนี้ นายชูวิทย์ ล่องแซง ประธานชมรมผู้บริหารท้องถิ่น อ.คอนสาร และนางสายทอง บัวดี กำนันต.คอนสาร ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านคอนสารนำตัวแทนชาวบ้าน ได้ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ผ่านนายเสกสรร สวัสศรี นายอำเภอคอนสาร และเรียกร้องให้จังหวัดนำที่สาธารณะประโยชน์ที่ถูกพระบิดา พร้อมกับพวกยึดมาครอบครองขยายเป็นอาณาจักร สร้างลัทธิความเชื่อที่วิตถารกลับคืนมาเพื่อใช้ประโยชน์ร่วม และขอให้ดำเนินการให้ถึงที่สุด

นอกจากนี้ทางชาว อ.คอนสาร ยังได้ขอบคุณหมอปลา และทีมงาน ที่มาช่วยชาวคอนสารขับไล่ลัทธิสกปรก และลัทธิประหลาดดังกล่าว

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/mnSnCP2arbo