ไร้สาระ! 'กระติก' ลุยเอาผิด 'ส.ส.เต้-สันธนะ' กล่าวหาตัดต่อรูป รับงานเอนฯ ให้แตงโม

รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เตรียมแจ้งข้อหากระติกเพิ่ม ฐานร่วมกันทำลายพยานหลักฐาน และเตรียมเอาปิด ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ กรณีทำให้เกิดความเสียหายกับองค์กรหรือบุคคล และเตรียมแถลงปิดคดี 18 เมษายนนี้

(12 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.45 น. นาง ภนิดา ศิระยุทธโยธิน คุณแม่ของแตงโม พร้อมด้วย นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ เดินทางมาที่ สภ.เมืองนนทบุรี ทันทีที่มาถึงมีตำรวจลงมารับ และพาขึ้นไปบนชั้น 2 ทันที โดยยังไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

5 นาทีต่อมา นายสันธนะ ประยูรรัตน์ เดินทางมาถึงที่ สภ.เมืองนนทบุรี โดยบอกว่าจะมาขอพบกับคุณแม่ภนิดาเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ได้รับทราบมา และเดินตามคุณแม่ภนิดาขึ้นไปชั้น 2 ทันที แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้าพบ เพราะคุณแม่ยังอยู่ระหว่างการให้ปากคำ นายสันธนะจึงเดินกลับลงมารอด้านล่าง

จากนั้น บ่าย 2 โมง พลตำรวจตรี อุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 พร้อมด้วยทนายเดชา ลงมาแถลงความคืบหน้าของคดีที่ด้านหน้า สภ.เมืองนนทบุรี

โดย พลตำรวจตรี อุดร กล่าวว่า เชิญคุณแม่และทนายความมาสอบปากคำ เพื่อให้เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ กระติก ร่วมกับพนักงานสอบสวนเพื่อความหนักแน่นของคดี และได้เชิญ กระติก มาให้การ และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มในข้อหาทำลายหลักฐาน สาเหตุที่เพิ่งแจ้งข้อหานี้ เพราะเพิ่งได้รับผลการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งชี้ชัดเจนว่ามีความผิด แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

นอกจากนี้ ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 สั่งให้กองกฎหมายตำรวจภูธรภาค 1 รวบรวมข้อมูลเท็จต่างๆ ที่ถูกนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณีนำข้อความบิดเบือนที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อทั้งองค์กรและตัวบุคคล ยืนยันตำรวจไม่ได้มีเจตนาจะร้องทุกข์กล่าวโทษใคร แต่ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเชื่อว่าคดีการเสียชีวิตของแตงโมนี้ จะเป็นการถอดบทเรียนในหลายมิติ ทั้งการทำงานของตำรวจ การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน และการรับข่าวสารของสังคม

ส่วนความคืบหน้าคดีแล้วเสร็จไปกว่า 90% แล้ว อยู่ในขั้นตอนรวบรวมทุกอย่างเพื่อสรุปปิดคดีช่วงหลังสงกรานต์ และส่งสำนวนให้อัยการ และจากข้อมูลล่าสุดยังไม่มีใครมีแนวโน้มถูกเพิ่มข้อกล่าวหานอกจากกระติก หากไม่มีอะไรผิดพลาด จะแถลงข่าวปิดคดีในวันที่ 18 เมษายนนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ขณะที่ ทนาย เดชา เปิดเผยว่า วันนี้มาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน กรณีที่มีบุคคลหลายคนออกมาให้ข้อมูลหรือแสดงความเห็นไปในลักษณะบิดเบือน ทำให้เกิดความเสียหาย อย่างกรณีมีคนให้ข้อมูลว่าแตงโมรับงานเอนเตอร์เทน ทำให้แม่ไม่สบายใจจึงมาพบพนักงานสอบสวน พิจารณาว่ามีความผิด หรือเข้าข่ายความผิดใดบ้าง ก็จะให้ตำรวจพิจารณาดูว่าสิ่งที่เคยออกมาพูด มีความผิดอย่างไรบ้างหรือไม่ ตอนนี้มีประมาณ 5-10 คน

ซึ่งระหว่างที่พูดเรื่องนี้นอกจากนี้ ระหว่างแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นว่า นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ได้มายืนอยู่ด้านหลังเพื่อร่วมฟังการแถลงข่าวด้วย และช่วงหนึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามพลตำรวจตรีอุดร และทนายเดชา ว่าที่มีคนออกมาให้ข้อมูลเรื่องการรับงานเอนเตอร์เทนและพาดพิงคุณแตงโม จะมีการดำเนินคดีกับบุคคลที่พูดหรือไม่ และนายสันธนะ จะเข้าข่ายบุคคลที่จะถูกดำเนินคดีด้วยหรือไม่ ระหว่างนั้นนายสันธนะ ก็ตะโกนขึ้นมากลางวงแถลงข่าว พร้อมชี้นิ้วมาที่ทนายเดชาว่า "พูดออกมาเลย" ทนายเดชาตอบว่า "พี่ไม่เกี่ยว"

ผู้สื่อข่าวยังถามอีกว่า ตอนนี้เรื่องคดีการเสียชีวิตของแตงโมถูกนำไปทำให้กลายเป็นเหมือนละครที่ทำเป็นซีรี่ย์หรือไม่ ทนายเดชา ระบุว่า กลัวว่าจะไม่ได้เป็นละครแต่จะเป็นคดีความมากกว่า

และช่วงบ่ายที่ผ่านมา กระติก หรือ นางสาวอิศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ พร้อมด้วยทนายความ เข้าพบตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ทำลายพยานหลักฐาน ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 เพิ่มเติมเป็นข้อหาที่ 2 หลังก่อนหน้านี้กระติกตกเป็นผู้ต้องหาและถูกแจ้งข้อกล่าวหาให้การเท็จ

โดยในเวลา 15.20 น. ภายหลังจากที่ กระติก และทนายความได้เข้าพบกับพนักงานสอบสวนเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง โดยนายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ทนายความระบุว่า วันนี้เป็นการมารับทราบข้อกล่าวหาที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาทำลายหลักฐาน จากการตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นประเด็นที่ไม่น่ากังวล โดยหลักฐานที่พนักงานสอบสวนอ้างว่าเป็นการทำลายหลักฐานนั้น คือการลบรูปภาพในโทรศัพท์มือถือของกระติกเอง ขณะที่มีการถ่ายในช่วงเวลาล่องเรือ ซึ่งเป็นการลบรูปตามปกติทั่วไป ที่หากรูปไหนไม่สวย หรือใช้ไม่ได้ก็จะลบตามปกติ

ด้าน กระติก เปิดเผยว่า สำหรับรูปภาพที่พนักงานสอบสวนอ้างว่าตนลบนั้น เป็นรูปที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือของตนเอง ยอมรับว่ามีการลบรูปจริงแต่เป็นรูปที่เบลอ หรือรูปที่ใช้ไม่ได้ ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่ใช่สาระสำคัญของคดี เพราะรูปที่ใช้เป็นพยานหลักฐานทางคดี ส่วนตัวก็ส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ส่วนรูปที่ลบ ลบไปจำนวนกี่รูปนั้นตนจำไม่ได้ โดยเป็นภาพที่ถ่ายทั้งช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุ เมื่อถามว่าเป็นรูปคู่ที่ถ่ายกับแตงโม หรือ รูปเดี่ยว กระติก ตอบว่า ก็มีทั้ง 2 แบบ เป็นรูปที่ถ่ายเล่นกัน ไม่เกี่ยวกับภาพทิ้งขวดไวน์

ส่วนกรณีที่นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ออกมาระบุ กล่าวหาว่ากระติกเป็นคนจัดหารับงานเอนเตอร์เทนให้กับแตงโม ทนายความของกระติก ระบุว่า ตอนนี้ทีมกฎหมายกำลังรวบรวมหลักฐานที่จะยื่นฟ้องต่อศาลโดยตรงในข้อหาหมิ่นประมาทโดยโฆษณาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยไม่ว่าจะเป็นใครที่ออกมาให้ความเห็นทางสังคมและโซเชียล รวมไปถึง ส.ส.เต้ ด้วย ที่ออกมาระบุว่าภาพที่ถ่ายเป็นการแต่งรูปขึ้นมา

ในประเด็นนี้ กระติก ยอมรับว่าค่อนข้างหงุดหงิด เพราะตนเองไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นตามที่เขากล่าวหา ก็ให้ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง ยืนยันว่าเจตนาที่ไปลงเรือเป็นการไปเที่ยวเล่น ทุกอย่างพูดไปหมดแล้ว อยู่ที่วิจารณญาณแต่ละคนจะตีความไปแบบไหน ตนจะใช้สิทธิของตัวเอง หากอะไรที่ไม่จริงแล้วเป็นการกล่าวหา ตนเองก็จะฟ้องดำเนินคดีต่อไป ส่วนตัวไม่อยากให้เขาทำแบบนี้กับใคร เพราะความจริงมันผิดไปจากเรื่องจริงค่อนข้างมาก แล้วตนเองก็ไม่รู้จักกับเขาเป็นการส่วนตัว แล้วอยู่ดีๆ มาพูดเรื่องที่ไม่จริง ตนก็เสียหาย เพื่อนก็เสียหาย ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง ตนจึงรู้สึกไม่โอเค




ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/qgTuLAItBYs