แม่คาใจ ลูกคลั่งอาละวาดในโรงพยาบาล ถูกตำรวจวิสามัญ ลั่นไม่ได้ฆ่าใครตาย

จากกรณี นายอภิชัย อายุ 26 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ ยิงเสียชีวิตในโรงพยาบาลสุรินทร์ ขณะเข้าระงับเหตุ เนื่องจากผู้ตายเข้ารักษาตัวด้วยโรคไส้ติ่งอักเสบ ก่อนจะเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ใช้ขวานที่เก็บไว้เป็นอุปกรณ์ดับเพลิง ไล่ทำร้ายผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย และจะทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุเกิดเมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุด วันที่ 4 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของผู้ตาย พื้นที่ ต.ชุมแสง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพ พบว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด ครอบครัว ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน ต่างมาร่วมกันจัดเตรียมพื้นที่จัดงานฌาปนกิจ

นางปราณี อายุ 56 ปี แม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่า วันนั้นลูกชายอาเจียนทั้งวัน ลุกไม่ได้ มีอาการชัก 2 ครั้ง หลังจากฉลองเคานต์ดาวน์ จึงแจ้งรถกู้ชีพมารับไปรักษาตัวที่ รพ.จอมพระ คืนวันที่ 1 ม.ค. 68 หมอตรวจบอกว่าเป็นไส้ติ่ง จึงส่งตัวไปรักษาที่ รพ.สุรินทร์ ในวันที่ 2 ม.ค.68 คนไข้มีประวัติเคยชัก หมอเลยฉีดยากันชัก เมื่อฟื้นขึ้นมา ก็ถามตนว่า "ทำไมผมเป็นอย่างนี้ หมอใส่ยาอะไรให้ผม" ตนจึงบอกไปว่า หมอกลัวชัก จะทำให้แผลผ่าตัด เลยฉีดยาให้ ตนบอกลูกว่าสู้ๆ เดี๋ยวก็หาย แม่เคยให้ยาเขาเวลาชัก เขาจะนอนพูดไปเรื่อย เหมือนคนละเมอ

ตอนเกิดเหตุ ตนไปเข้าห้องน้ำ กลับมาเห็นผู้ช่วยพยาบาล พูดว่ามือทำไมอยู่ไม่นิ่ง เพราะลูกเอามือไปเล่นจะถอดสายน้ำเกลือ หมอจึงเปลี่ยนใส่แขนอีกข้าง และย้ายเตียง ส่วนพยาบาลก็เอายากันชักมาฉีดให้ จนนอนหลับและตื่นมา สักพักก็ลุกพรวดและดึงสายน้ำเกลือทิ้ง แม่ก็สติหลุด เลยเรียกให้พยาบาลมาช่วย

จากนั้นลูกก็อาละวาด ตนก็ชะเง้อดูลูกเรื่อยๆ คนไข้ก็นอนอยู่เต็ม แต่ตนคิดว่าลูกคงข้องใจผู้ช่วยพยาบาล 2 คน ที่ต่อว่า พูดจาไม่ดีใส่ลูก

พอตนเปิดประตูไป ก็เห็นลูกถือขวาน แม่ก็กลัว แต่ตนไม่เห็นว่าลูกตีใคร เห็นแต่ยามอยู่หน้าประตู ตนวิ่งลงมาทางประตูหนีไฟ สักพักได้ยินเสียงปืน 4 นัด ตนโทรคุยกับลูกคนโตว่า น้องมันคลั่ง หลอนอาละวาด ให้มาดูน้อง จากนั้นเมื่อได้ยินเสียงปืน รู้ทันทีว่าเจ้าหน้าที่คงยิงแล้ว ตอนเขาอายุประมาณ 16 ปี มีประวัติเสพยา แต่ตอนนี้เลิกแล้ว แต่ตนไม่เคยเชื่อลูก เพื่อนๆ เขา บอกว่าเขาไม่เคยยุ่ง แต่กินเหล้าหนัก

"ตนติดใจ คือลูกแม่ไม่ได้ฆ่าใครตาย ไม่ได้ทำร้ายผู้ป่วยหนักหนา แค่ทำลายข้าวของ ทำไมต้องถึงขั้นวิสามัญลูกแม่ด้วย  ระหว่างเกิดเหตุตนก็ไม่เห็น แต่เพื่อความชัดเจนและสบายใจ แม่ขอดูกล้องวงจรปิด ว่าลูกชายทำอะไรยังไงบ้าง จะได้รู้ว่าลูกไล่ตีพยาบาลหรือตีใครมาบ้าง สังคมตอนนี้ก็โจมตีแม่แล้ว บางคนก็ว่าลูกเรา ถึงเขากินเหล้าหนัก แต่อัธยาศัยดี เขาไม่เคยทำร้ายใคร ไม่ใช่สังคมโจมตีว่าลูกชาย และตายอย่างหมาข้างถนน ไม่มีแม่คนไหนหรอก ที่อยากให้ลูกเป็นแบบนี้ อยากให้รู้หัวอกแม่ด้วย"

นางปราณี กล่าวอีกว่า เมื่อวานรอง ผอ.รพ.สุรินทร์ บอกว่าเหตุการณ์นี้ไม่มีใครอยากให้เกิด ตำรวจสุดวิสัย เป็นการป้องกันตัว

ขณะที่ นายรุจิภาส มีกุศล สมาชิกวุฒิสภา จ.สุรินทร์ (สว.) ในฐานะรองประธานกรรมาธิการการกฏหมายและการยุติธรรม วุฒิสภา เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเองไปทำธุระและแวะทานกาแฟด้านล่างอาคารดังกล่าวพอดี ทราบว่ามีชายคลุ้มคลั่ง หลังจากนั้นประมาณ 20 นาที พบตำรวจขึ้นไประงับเหตุ จากนั้นประมาณ 3 นาที ตนก็ได้ยินเสียงคล้ายปืนดัง 3-4 นัด และเห็นผู้หญิงคนหนึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแม่ผู้ตาย คุยโทรศัพท์ร้องไห้อยู่ พูดประมาณว่า "เขาทำลูกชายแล้ว"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทรัพย์สินของโรงพยาบาลที่ถูกคนไข้ทำลายเสียหาย ได้แก่

1.EKG monitor จำนวน 1เครื่อง

2. กระจกห้องพักแพทย์

3. กระจกห้องล้างเครื่องมือ

4 .เก้าอี้หัวกลม 1 ตัว

5 .ถังดับเพลิงจำนวน 1  อัน

6 .กระจกตู้สายฉีดน้ำดับเพลิง

7.โทรศัพท์มือถือของผู้ช่วยเหลือคนไข้ จำนวน 1 เครื่อง

8. ประตูห้องล้างเครื่องมือ

9. เตียงโฟมคนไข้ 1 อัน